![]() |
![]() |
![]() |
สวัสดีคุณผู้อ่านที่รัก,
ทิดอินทร์ ยินดีพูดคุยและรับฟังความเห็นจากผู้อ่านทุกท่าน
ทิดอินทร์ ยินดีพูดคุยและรับฟังความเห็นจากผู้อ่านทุกท่าน
สวัสดีคุณผู้อ่านที่รัก,
ทิดอินทร์ ยินดีพูดคุยและรับฟังความเห็นจากผู้อ่านทุกท่าน
นาม อิสรา เขียนมา : [ 182.53.219.52 ]
รหัสจดหมาย L-2970
๐๑ เม.ย. ๒๕๕๔, ๑๔.๒๔ น. ขอเชิญคุณน้องส่งหนังสือตาม ชื่อ-ที่อยู่ ด้านล่างนะครับ(ไปรษณีย์เหม็นขี้หน้าทุกคน ฮา ฮา) เสรี ม่วงเมือง 469/9 ม.4(ตลาดบ้านส้อง) ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี 8 4 1 9 0 ๐๑ เม.ย. ๒๕๕๔, ๑๕.๒๓ น.
ขอบพระคุณครับพี่นามฯ เดี๋ยวผมจะส่งให้วันนี้เลยครับ ![]()
นาม อิสรา เขียนมา : [ 110.49.193.180 ]
รหัสจดหมาย L-2950
๐๒ ก.พ. ๒๕๕๔, ๑๑.๐๒ น. ก่อนอื่นต้องขอเรียนว่า ผมไม่มีเจตนาจ้องจับผิดคุณ แต่เห็นว่าคุณใจกว้าง เปิดอกรับความจริง ผมจึงเต็มใจและพอใจที่จะส่งเสริมคุณอย่างจริงจังและสุดความสามารถ เพราะเชื่อว่าความพยายามที่จะเป็นนักเขียนให้ได้ของคุณเกิดจากความตั้งใจจริง แม้ผมไม่ใช่นักเขียนที่ประสบความสำเร็จแล้วก็ตาม แต่ความพยายามของผมก็มีมานาน เมื่อยกอุปสรรคต่าง ๆ ที่อาจยกมาเป็นข้ออ้างทิ้งไปแล้ว ผมพูดอย่างไม่อายปากว่า ผมผ่านการพยายามศึกษาเกี่ยวกับงานเขียนหนังสือด้วยตนเองจากการอ่าน การฟัง มามากมายนับไม่ถ้วน และพบว่าอุปสรรคสำคัญที่สุดที่กั้นขวางไม่ให้เราเดินทางไปถึงที่นั่นได้ง่าย ก็คือ ความไม่รู้!!! ไม่รู้จักใช้คำ ไม่รู้กาละเทศะ ไม่รู้จักเรียบเรียงจัดลำดับความสำคัญของเนื้อหา ไม่รู้จักคัดสรรข้อมูล ฯลฯ จึงทำไห้เราเขียนไปอย่างสะเปะสะปะ บางคราวก็เยิ่นเย้อไม่กระชับรัดกุม ส่วนที่ไม่สำคัญก็หยิบมาเขียน เรื่องสั้น "เพียงลมพัดผ่าน" ของคุณก็เข้าลักษณะนี้ เพราะวัตถุดิบล้นอกคุณอยู่ เสียดายที่ผมยังไม่มีเวลาแก้ไขตัดทอนให้คุณ แต่จะขอบอกว่า มีหลายที่ที่ยังไม่เพอร์เฟ็ค แต่ก็อย่าท้อ เพราะผมไม่ได้เขียนมาเพื่อบั่นทอนกำลังใจของคุณ แต่เขียนมาเพื่อเตือนสติให้คุณรอบคอบขึ้นกว่านี้ ต้องหมั่นศึกษาและสังเกตจดจำหลายสิ่งหลายอย่างที่เรา"มักเข้าใจผิด"ให้มากกว่านี้ ตัวอย่างลักษณะนามที่ใช้กับ"เบ็ด"ของคุณว่า "หลัง" นั้นผิดอย่างมหันต์ เพราะคุณยังไม่ได้ศึกษาเรื่องลักษณะนามให้ดีพอ หรืออาจไม่เคยใส่ใจก็ได้ ผมจะบอกคุณให้; ลักษณะนามมีด้วยกัน 5 ลักษณะ 1.บอกชนิด 2.บอกหมวดหมู่ 3.บอกสัณฐาน 4.บอกจำนวน 5.บอกอาการ ลักษณะนามของเบ็ดจัดเป็นลักษณะนามบอกสัณฐาน ตัวเบ็ดที่เป็นเหล็กงอ ๆ จะขนาดไหนก็แล้วแต่ เรียกว่า ตา สายเบ็ดเรียกว่า สาย คันเบ็ดเรียกว่า คัน และเมื่อรวมทั้งหมดนั้นแล้ว ก็จะเป็นเบ็ดที่อยู่ในลักษณะรูปพรรณสัณฐานที่สมบูรณ์ ก็จะมีลักษณะนามว่า "คัน" ครับ ไม่ใช่ "หลัง" และนี่คือสิ่งจำเป็นสำหรับนักเขียนที่ควรใส่ใจใฝ่รู้ เพื่อ ความเป็นตัวตนของนักเขียนเอง เพราะต่อไปเมื่อใคร ๆ ได้เห็นนามปากกาของคุณ เขาก็จะต้องเชื่อในตัวตนของคุณ เขาจึงจะเปิดอ่านงานของคุณด้วยความชื่นชมในทันที ด้วยมิตรไมตรี นาม อิสรา ๐๒ ก.พ. ๒๕๕๔, ๑๒.๕๓ น.
ขอบพระคุณพี่นามฯอีกครั้งครับ ที่ยินดีแสดงทรรศนะติติงจุดที่เป็นปัญหาด้วยความจริงใจ ผมยินดีและพร้อมที่จะแก้ไขในจุดที่พี่ทักท้วงนะครับ โดยเฉพาะ "คันเบ็ด" ซึ่งผมงมอยู่นานด้วยความไม่รู้จริงๆเช่นที่พี่นามฯว่า ยอมรับเลยครับ แต่อาจเป็นเพราะความสะเพร่าและมักได้ด้วยกระมังครับ ในระหว่างการเลือกใช้คำ "หลัง"กับ"คัน" ผมดันเกิดรู้สึกว่า คำว่า"หลัง"ให้ความรู้สึกและสำนวนดีกว่าการใช้คำว่า"คัน" แต่ตามที่พี่ติติงมาว่าที่ถูกต้องควรใช้คำว่าอะไร ผมก็จะกลับไปดำเนินการแก้ตามนั้นทันทีครับ ขอบพระคุณพี่นามฯอีกครั้งครับ และหวังว่าจะได้รับคำแนะนำแบบตรงๆเช่นนี้อีกครับ ด้วยจิตคารวะ ![]()
นาม อิสรา เขียนมา : [ 110.49.193.73 ]
รหัสจดหมาย L-2946
๒๙ ม.ค. ๒๕๕๔, ๐๙.๔๗ น. มืออาชีพ เมื่อแสงสีทองเริ่มจับขอบฟ้า ตึกรามบ้านช่องภายในชุมชนอันล้าสมัยแห่งนี้ก็แลสลัวทึมเทา อีกทั้งนวลใยของแสงนั้นก็ยังบันดาลให้ภาพที่มองเห็นอลังการและขลังกว่าความเป็นจริงหลายร้อยเท่า... หรือนั่นเป็นเพียงอุปาทานของผมเอง! ควันไฟโขมง ส่งกลิ่นอบอวล คละเคล้ากลิ่นไก่ย่างที่สุกแล้ว และถูกนำมาเรียงไว้บนถาดที่รองด้วยใบตอง ส่วนที่รอการย่างก็ยังคงถูกแช่ทั้งไม้เสียบอยู่ในกะละมังหมัก กลิ่นกระเทียมพริกไทยและเครื่องหมักปรุง คละคลุ้งอยู่ในบรรยากาศอันสดชื่นของยามเช้า เมื่อมีเสียงลูกค้าร้องสั่ง แม่ค้าไก่ย่างก็รีบกุรีกุจอห่อไก่ลงใส่ใบตองที่ถูกฉีกเตรียมไว้สำหรับห่อไก่ย่างและข้าวเหนียวที่วางอยู่ใต้รถเข็น ความร้อนของไก่และข้าวเหนียวกระทบใบตอง จะเกิดกลิ่นอีกอย่างที่ช่วยกล่อมเกลารสชาติจนรู้สึกหอมหวนชวนกิน ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ผมนึกถึงความทรงจำของมื้อเช้าในวัยเด็กจนน้ำลายสอขึ้นมาทันที... แต่ยังก่อน, เช้าๆอย่างนี้ผมยังไม่อยากจะกินอะไรลงไป เมื่อเดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ ก็พบพ่อค้าแม่ขายที่พากันมาตั้งรถเข็นและโต๊ะพับอยู่ริมทางสองข้างถนน ที่ต่างก็พร้อมใจเรียกมันว่า "ตลาดเช้า" โดยปราศจากรูปแบบที่เป็นตลาดสดเหมือนเช่นตัวเมืองใหญ่ ๆ และแม้จะยุ่งยากอยู่บ้างในฤดูฝน แต่ด้วยความเคยชินของวิถีผู้คนในพื้นที่ จึงทำให้ไม่รู้สึกว่าสิ่งนั้นคือปัญหา แม้จะห่างจากกรุงเทพฯไม่ถึงหนึ่งร้อยกิโลเมตร แต่วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่กลับดูไม่เร่งรีบ ผิดกับผู้คนในเมืองหลวง ที่ต่างต้องแย่งชิงกันแทบทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องทำมาหากิน เรื่องนอน เรื่องขับถ่าย แม้กระทั่งการเสพสังวาส ทุกชีวิตดูจะเร่งรีบไปเสียหมดราวกับเสียสติ ผมจึงได้เห็นภาพของแม่บ้านที่ออกมาเดินจ่ายตลาดแล้วยังมีเวลาถามไถ่สาระทุกข์สุขดิบระหว่างกัน บ้างก็ตะโกนถามหาเลขเด็ดงวดหน้า บ้างก็ถามหาข่าวคราวลูกสาวลูกชายของเพื่อนบ้านที่ไปทำงานหรือเรียนต่อในเมืองหลวง ด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความห่วงหาอาทรกันอย่างจริงใจ กลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกคิดถึงบ้านในต่างจังหวัดมากขึ้นทุกที นานมากแล้ว ที่ผมไม่ได้กลับบ้าน ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่เคยตั้งใจหลาย ๆ ครั้งแล้วว่าผมอยากจะกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด แต่เมื่อถึงเวลาก็มักจะมีเหตุขัดข้องเสียทุกคราว หรือเหตุผลเหล่านั้นเกิดจากข้ออ้างที่เสแสร้ง จนทำให้ผมรู้สึกหวาดหวั่นละอายแก่ใจเมื่อจะต้องหน้าผู้คนในครอบครัว โดยเฉพาะครูสอนวิชาจริยธรรมอย่างพ่อ บ้านเดิมของผมอยู่ที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ซึ่งไม่ถือว่าไกล, จากเขตบางกะปิไปก็ประมาณเก้าสิบสามกิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียงชั่วโมงเศษ ๆ ก็ถึงแล้ว นอกจากสำเนียงพูดจาต่อกันแล้ว สภาพแวดล้อมของผู้คนที่นั่นก็แทบจะไม่ต่างไปจากที่นี่สักเท่าใด ที่โพธาราม ผู้คนมักจะพูดคุยกันด้วยด้วยสำเนียงเหน่อ ๆ ซึ่งผมเองก็ยังแอบคิดว่า ออกจะเหน่อกว่าคนสุพรรณบุรีเสียด้วยซ้ำ แต่นั่นก็เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ทำให้ผมภาคภูมิใจในถิ่นเกิด ผมเดินทอดน่องซึมซับบรรยากาศชีวิตยามเช้าในชนบท เพื่อทดแทนความรู้สึกที่โหยหามานาน เพราะนาน ๆ สักครั้งที่จะได้มีโอกาสได้สัมผัสกับความรู้สึกเช่นนี้ และนี่ก็นับว่าโชคดี เมื่องานรับจ้างชั่วนคราวในครั้งนี้ ผมถูกลูกพี่จัดสรรให้มาลงในชุมชนเล็ก ๆ ของที่นี่เข้าพอดี ฟ้าสางจนมองเห็นลายมืออย่างชัดเจน ผมเดินมาหยุดอยู่ตรงร้านกาแฟโบราณตามที่หมายตาเอาไว้ นาฬิกาบนข้อมือบอกเวลาหกโมงครึ่ง ยังมีเวลาอีกมากโขกว่าจะถึงเวลาทำงาน... "เฮียครับ กาแฟร้อน ไข่ลวกสองฟอง" เจ้าของร้านรูปร่างอ้วนใหญ่ หน้าตาเชื้อสายคนไทยมากกว่าพวกเจ๊กที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมา แต่ก็อย่างว่าแหละครับ เพราะอาชีพนี้แต่เดิมเป็นของคนไทยเชื้อสายจีนเสียส่วนใหญ่ ดังนั้นคำเรียกหาระหว่างลูกค้ากับผู้ขายจึงมักจะใช้คำว่า "เฮีย" ทั่วทุกหัวระแหง จนแทบจะเรียกได้ว่า นั่นคือชื่อประจำตำแหน่งของคนขายกาแฟแบบดั้งเดิมไปแล้ว ๓๐ ม.ค. ๒๕๕๔, ๐๗.๐๕ น.
![]() ขอโทษด้วยครับที่ตอบจดหมายฉบับนี้ล่าช้า นั่นเป็นเพราะว่าผมไม่สะดวกที่จะตอบทางโทรศัพท์มือถือครับ(ตัวหนังสือมันเพี้ยนหมด) และทันทีที่เห็นเครื่องคอมพิวเตอร์ในโรงแรมผมจึงรีบเข้ามารายงานตัวทันทีครับ อยากขอบคุณอีกครั้งครับสำหรับความจริงใจ และความใส่ใจที่มีให้(ถ้าไม่รักกันจริง คงไม่มีใครใส่ใจที่จะทำให้เช่นนี้หรอกจริงไหมครับ) และทันทีที่ผมกลับไปถึงบ้าน ผมจะรีบดึงข้อมูลกลับมาตรวจดูอีกครั้งทันทีเลยครับ จะได้แบ่งปันความคิดเห็นระหว่างกันครับ แต่พี่นามฯอย่าเพิ่งถ่อมตนมากไปกว่านี้เลยครับ เพราะตัวหนังสือมันบอกอยู่แล้วว่า พี่อยู่ในขั้นไหน โดยเฉพาะการช่วยดูแลแก้ไขสำนวนของผม ซึ่งผมอ่านเองยังรู้สึกลื่นไหล และประทับใจมากเลยครับ และในที่นี้ขอขอบคุณพี่รจนาฯ พี่อิติฯ ลุงเปี๊ยก พี่พิลกริม อีกครั้งครับ สำหรับคำแนะนำ กำลังใจและมิตรไมตรีที่มีให้เสมอมาครับ อ้ออีกท่านหนึ่งซึ่งจะหลงลืมไม่ได้คือ บรรณาธิการและผู้พิสูจน์อักษรของผม คุณทอรุ้ง ขอบคุณเหลือเกินครับสำหรับการสละเวลาและความคิดเห็นดีๆครับ และขอบคุณหลายๆท่านที่แอบส่งกำลังใจมาให้และผมมิได้เอ่ยนามครับ ด้วยจิตคารวะ ![]()
ทอรุ้ง เขียนมา : [ 118.173.64.62 ]
รหัสจดหมาย L-2937
๑๗ ม.ค. ๒๕๕๔, ๑๔.๔๐ น. อ่านใหม่ก้อยังแอบยิ้มอยู่นะคะ และรู้สึกว่า...... 1. วางพล็อตดีค่ะ 2. การดำเนินเรื่องลื่นไหลดี แต่เอ! มันยังไงล่ะ เรียกว่าลื่นเกินไปได้มั้ย หรือ เรียบเกินไปอะไรประมาณนี้ 3. ขมวดปมในตอนจบค่อนข้างดี (หลอกคนอ่านซะ..) 4. ตัวละคร (อันนี้แล้วแต่คนอ่านนะ) แต่ฉันน่ะ OK. 5. พฤติกรรมของตัวละคร ตรงนี้เอาเป็นว่า ดูให้ละเอียดกว่านี้แล้วกัน รู้สึกว่า มันรีบๆ ยังไงไม่รู้เนอะ หรือมือที่กดแป้นพิมพ์มันช้ากว่าความคิดที่วิ่งปรื๊ด ......... 6. บรรยายให้ละเอียดกว่านี้ดีมั้ยคะ หมายถึงทั้งพฤติกรรม ภาษา และภาพพจน์ อันจะนำไปสู่จินตภาพให้เกิดกับคนอ่านนะค่ะ (ว่าไปในฐานะคนอ่านคนหนึ่งนะคะ) 7. จบแบบรีบๆ จังแฮะ หรืออย่างไร ประมาณว่ารีบหักมุมจบหรืออย่างไร คือว่า ความรู้สึกของฉันน่ะ มันน่าจะมีอะไรอีกสักหน่อย อะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่โดยรวมแล้ว ชอบเรื่องนี้ นำไปให้เด็กๆ อ่าน(โดยไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของ ขออภัยด้วย) โดยมีเงื่อนไขว่า อย่าแอบดูตอบจบ เด็กๆ ขำกันใหญ่ (เด็กม.3) เค้ามีความสุขกับการอ่านงานของคุณ นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการเห็น ยินดีด้วยที่คุณได้เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เด็กๆ มีความสุขกับการอ่านนะคะ ทีนี้มาว่ากันไปตามเรื่อง..... หน้าที่ 1 บรรทัดที่ 1 น่าจะมีคำว่า สอน (อยู่ในโรงเรียน) ขาดกริยาหลักค่ะ บรรทัดที่ 10-11 มี และ อยู่ 3 ที่ มากไปมั้ยคะ บรรทัดที่ 15 รูปร่างหน้า (ตกตา) แต่หน้าตาไม่น่าจะเป็นอวบอ้วน เป็นรูปร่างอย่างเดียวดีมั้ยคะที่อวบอ้วน หน้าที่ 2 บรรทัดที่ 6 หล่ะ เป็น ล่ะ บรรทัดที่ 19-20 พอแม่เผลอ หรือในวันหยุด ทำไมต้องแอบเพราะความจริงเรื่องก็บอกว่าแม่ไม่อยู่นี่นา (ภาษามันขัดแย้งกันในความหมายอ่ะค่ะ) หน้าที่ 4 บรรทัดที่ 5 ผมก็เข้าทำงานเป็นน้องใหม่ (ทำให้เข้าใจได้ว่า น้องใหม่เป็นตำแหน่งอะไรสักอย่าง) ดูแปลกๆ ค่ะ บรรทัดที่ 13 โปรย คำเดียวดีกว่ามั้ย พอโปรยปรายแล้วกลัวจะเปียกยังไงไม่รู้ หน้าที่ 5 บรรทัดที่ 18 หล่ะ เป็น ล่ะ หน้าที่ 6 บรรทัดที่ 13-14 เป็น ไม่มีสักวันที่ผมจะไม่คิดถึงเค้า หรือไม่มีวันใดเลย......แต่จากรูปประโยคเดิม ปฏิเสธซ้อนปฏิเสธกลายเป็นบอกเล่าเลยนะจ๊ะ ไม่นิยมใช้ในภาษาไทย หน้าที่ 7 บรรทัดที่ 15 ขย่อน น่ะไก่ขัน ถ้าอาเจียนต้อง ขย้อน ค่ะ หน้าที่ 8 บรรทัดที่ 3 ประครอง เป็น ประคอง บรรทัดที่ 4 ดูแปลกๆ ดูใหม่อีกครั้งดีมั้ย บรรทัดที่ 6 กลิ่นกายไม่น่าจะใช้เข้มข้น ใช้กับกลิ่นคือ แรง แต่พอใช้กับช็อตนี้ก็แปลกๆ อีกแหละ เอาเป็นว่า หาคำอื่นดีกว่า บรรทัดที่ 14 อือๆ ออๆ บรรทัดที่ 20 เปลี่ยนจากอ้อมกอดเป็น อ้อมแขนน่าจะเกิดจินตภาพกว่ามั้ย หน้าที่ 10 บรรทัดที่ 5 รื่น เป็น ลื่นไหล บรรทัดที่ 12 ตุ้บ ๆ จะให้เป็นเสียงอะไรคะ ถ้าเสียงชีพจรที่เต้นอยู่ที่ขมับต้องใช้ ตุบ ตุบ ถ้า ตุ้บ เสียงวางของหนักลงพื้น หรือเสียงคนทุบกันนะเออ บรรทัดที่ 16 เลศนัยน์ เป็น เลศนัย เรื่องนี้พิมพ์พลาดน้อยมากถ้าเทียบกับเรื่องที่แล้ว ดีค่ะแสดงว่าทำการบ้านดี ส่วนประเด็นข้างต้น ถ้าหากมีสิ่งใดที่ผิดพลาดจากเจตนารมณ์ของคนเขียนก็ ขออภัยทีเถอะค่ะและดูให้ช้าไปจริงๆ มันวุ่นๆ อ่ะค่ะ (พวกเราเรียกเดือนนี้ว่า เดินทั้งเดือน คือไม่ได้หยุดสักทีค่ะ) ด้วยความระลึกถึง ทอรุ้ง ค่ะ ![]() ๑๗ ม.ค. ๒๕๕๔, ๑๖.๔๗ น.
ขอบคุณมากครับ คุณทอรุ้งที่เอื้อเฟื้อตรวจทานให้เสียละเอียดยิบ และขอบคุณด้วยครับที่ได้นำงานของผมไปใ้ห้นักเรียนอ่าน ซึ่งในขณะที่เขียนผมก็แอบกังวลใจนิดๆเกี่ยวกับฉากเลิฟซีน ซึ่งห่วงเรื่องความรู้สึกของเยาวชนด้วย แต่ที่คุณทอรุ้งนำไปให้นักเรียนอ่านแล้ว ผลตอบรับกลับมาดี ผมก็รู้สึกดีใจมากๆเลยครับ ในสวนที่คุณทอรุ้งได้ตรวจกลับมาให้ผมจะนำไปแก้ไขต้นฉบับอีกครั้งครับ เรื่องที่สามตอนนี้ผมเขียนจบแล้ว แต่เกรงว่าจะเหมือนเรื่องแรกคือจบแบบรีบๆไปหน่อย จึงขอทิ้งให้เย็นก่อนแล้วจะนำมาเกลาอีกครั้งก่อนที่จะส่งให้ตรวจครับ ในระหว่างนี้ผมจะขอรบกวนคุณทอรุ้งช่วยตรวจเรื่องแพร่งจอมยุทธ์ไปพลางๆก่อนนะครับ เพราะนั่นคือเรื่องแรกที่ผมจะส่งเข้าประกวดด้วยเช่นกัน แต่เอาจากต้นฉบับที่ผมได้เกลาและส่งให้ทางเมล์นะครับ และยินดีเป็นอย่างยิ่งหากว่าเด็กๆจะได้ลองอ่าน แต่ว่า ทั้งสำนวนภาาแบบกลังภายในนั้นจะเป็นอุปสรรคต่อความเข้าใจของเด็กๆหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับมิตรไมตรี หวังว่าหนังสือของเรา จะออกมาทันส่งประกวดนะครับ ด้วยจิตคารวะ ![]()
ทอรุ้ง เขียนมา : [ 118.173.65.245 ]
รหัสจดหมาย L-2930
๒๒ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๑๒.๕๙ น. สวัสดีค่ะ ...คุณทิดฯ เป็นเกียรติจะตายไป ที่จะได้อ่านต้นฉบับใครๆ รบกวนที่ไหนกันเล่าค่ะ และถ้าคุณคิดว่า ฉันจะสามารถช่วยให้หนังสือของคุณมีความถูกต้องตามที่ควรจะเป็นในเรื่องภาษาไทยได้บ้างแม้เพียงเล็กน้อย อย่ารีรอที่จะส่งต้นฉบับมานะคะ ฉันน่ะ ยินดีให้รบกวนทุกเวลา (อ่านหนังสือฟรีดีจังเลยแหละค่ะ ) หวังใจไว้ว่า จะได้เห็นหนังสือใหม่ทั้ง 2 เล่ม ของคุณ..บนแผงฯ ในไม่ช้านี้นะคะ ![]() สวัสดีค่ะ ๒๒ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๑๓.๐๔ น.
เย้ๆขอบคุณมากเลยครับ ดีใจจังเลย แต่คงยังไม่ไวขนาดนั้นหรอกครับ ตอนนี้ผมกำลังเร่งปั่นอยู่ครับ หลังจากเกลาเสร็จแล้วผมจะส่งให้พิสูจน์อักษรอีกครั้งนะครับ ขอบคุณเหลือเกินจริงๆ ![]() ด้วยมิตรไมตรีครับ ![]() ![]()
ทอรุ้ง เขียนมา : [ 110.49.205.217 ]
รหัสจดหมาย L-2927
๒๑ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๐๐.๑๘ น. สวัสดีค่ะ...คุณทิดฯ เพิ่งอ่าน ลมหนาวฯ จบค่ะ ง่วงแล้วล่ะ แต่รอก่อน แบบว่ามัน ติดพันและตั้งใจไว้ว่า จะบอกคนเขียนทันทีเมื่ออ่านจบอ่ะค่ะ เป็นงานเขียนที่เรียงร้อยได้ดีระดับหนึ่ง คือเขียนเรื่องยาวๆ แล้วเอาอยู่ ไม่หลงประเด็น ชื่นชมนะคะ เนื้อเรื่องน่าสนใจ เป็นเรื่องใกล้ตัว สามารถเกิดได้กับทุกคน และเป็นประสบกาณ์ร่วมไม่มากก้อน้อย ทำให้คนอ่านมีลุ้นด้วย เนื้อหาไม่ปวดหัว อาจคาดเดาตอนจบได้ แต่หลากหลายเรื่องราวก้อชวนให้น่าติดตามอยู่ดี บรรยายได้ละเอียดดี (เกินไปด้วยซ้ำ) แหม! แทบจะอ้วกตาม และรู้เลยว่าสยองแบบฝังหุ่น เป็นอย่างไร บรื๊อส์ ส์ ส์ (นวมของคุณน่ะ) เอาเป็นว่า อ่านแล้วชอบก้อแล้วกันค่ะ ตัวเองเป็นคนที่อ่านหนังสือแล้ว ไม่ปิดอารมณ์ตัวเอง คือ คุณเขียนแล้วต้องการสื่อให้คนอ่านเป็นอย่างไร ถือว่าคุณประสบความสำเร็จ ![]() ![]() ![]() ![]() และเล็กน้อย นะคะ ด้วยความจริงใจยิ่ง ![]() รู้สึกว่าการเขียนสะกดคำยังมีหลายที่ที่ไม่น่าจะใช่ เช่น กระโพรกกระเพรก ควรเป็นกระโผลกกระเผลก / โค๊ช ควรเป็น โค้ช ฯ ลองดูทั้งหมดนะคะ ที่เป็น อักษรต่ำคำตาย ทุกคำ อักษรต่ำถ้าใช้วรรณยุกต์เอก จะเป็นเสียง โท และถ้าใช้วรรณยุกต์ โท จะเป็น เสียงตรีค่ะ การสะกด ร ล ในบางคำ การใช้คำทับศัพท์ ก้อคำต่างประเทศแหละ ลองดูง่ายๆนะคะว่า ถ้าคำนั้น มันไม่มีใช้ในภาษาไทย เราก้อไม่ต้องใส่วรรณยุกต์ แต่ถ้ามันมีใช้ในภาษาไทย ก้อใส่วรรณยุกต์ให้มัน เพื่อจะได้ไม่สับสน (เช่น coke อ่านว่า โคก แต่ในภาษาไทย มันมีคำว่า โคก ที่แปลว่า เนิน คำทับศัพท์ของ coke จึง เป็น โค้ก ค่ะ) เหนื่อยกับตัวเลขห้อยท้ายชื่อตัวละครค่ะ ไม่รู้สิ รุงรังจัง (ฉันคนเดียวนะ) ฉันคิดหวังไว้ว่า หนังสือ เล่มนี้ ต้องสวยงาม และมีเสน่ห์แน่นอน จะรอซื้อนะคะคุณทิดฯ ขอบคุณที่ให้โอกาส อ่านต้นฉบับ และแสดงความคิดเห็น ที่สำคัญ ฉันเป็นคนหนึ่งล่ะ ที่มี มาเอดะ ไทซัน และ จิอากิ อยู่เต็มหัวใจ เย้! เย้! เจอคนรักมาเอดะ ดีใจจัง สวัสดีค่ะ ๒๑ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๒๒.๔๐ น.
แหมรู้สึกยินดีจังเลยครับ ที่เราร่วมสมัยวัยมาเอดะด้วยกัน และขอขอบคุณ คุณทอรุ้งมากครับ ที่อุตส่าห์อดทนอ่านจนจบ(คงจะเสียสายตาแย่เลยนะครับ) ![]() และรู้ดีใจที่คุณทอรุ้งรู้สึกสนุกและขบขันไปกับตัวอักษรของผมได้ ที่สำคัญ ในขณะที่ผมกำลังเขียนเรื่องนี้ ผมก็คาดหวังเอาไว้ว่า เมื่อผู้อ่าน อ่านจบแล้วเขาจะยิ้มและคิดถึงเพื่อนๆ รวมทั้งนึกถึงวีรกรรมของตัวเขาเองกับเพื่อนๆขึ้นมา ![]() ซึ่งเมื่อคุณทอรุ้งแสดงความรู้สึกเช่นนั้นผมก็รู้สึกดีใจมากๆเลยละครับ(แต่ไม่รู้ว่าคุณทอรุ้งรู้สึกอิ่มกับเรื่องราวหรือไม่) ![]() และจากคำวิจารณ์ แสดงให้เห็นว่าคุณทอรุ้งเป็นทั้งนักอ่านและนักวิจารณ์ที่เยี่ยมยอดอีกคนหนึ่งเลยละครับ(แหม ตอนออกตัวก่อนหน้าที่จะอ่านต้นฉบับซะผมหลงเชื่อไปเลย) รวมทั้งความสามารถเรื่องภาษาไทยที่เล่นเอาผมอึ้งไปเลยครับ เพราะรายละเอียดตามที่คุณทอรุ้งได้ชี้ให้เห็นนั้น ผมเก็บคืนอาจารย์ไปแล้วครับ จนผมแอบสงสัยไม่ได้เลยว่า คุณทอรุ้งนั้นเป็นอาจารย์สอนภาษาไทยหรือเปล่า? เพราะเก่งจังเลยครับ และขณะนี้ผมกำลังเขียนเล่มต่อของเรื่องนี้(ชื่อเล่ม # ปีหนึ่งเทอมหนึ่ง) และกำลังคิดว่า หากจะให้คุณทอรุ้งช่วยตรวจดูต้นฉบับและเป็นผู้พิสูจน์อักษรให้ผม จะรบกวนไปมากไหมหนอ? ![]() ด้วยมิตรไมตรีครับ ![]()
ทอรุ้ง เขียนมา : [ 118.173.65.208 ]
รหัสจดหมาย L-2926
๑๔ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๑๗.๒๔ น. คุณทิดฯคะ mail มีปัญหาจริงๆ เลย เอาเป็นว่า เปลี่ยน mail ดีกว่า ใช้อันนี้แล้วกัน kwangfarida@hotmail.co.th รับรองถึงชัวร์ อย่างไรก้อลองดูนะคะ ๑๕ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๐๙.๒๗ น.
เอผมไม่ได้ตอบจดหมายฉบับนี้เลยเนาะ แต่ตอนนี้คงเรียบร้อยแล้วนะครับ ![]()
ทอรุ้ง เขียนมา : [ 110.49.193.95 ]
รหัสจดหมาย L-2924
๑๒ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๒๑.๕๗ น. คุณทิดฯคะ... ฉันชอบจัง ถ้อยความ ผมอยากฟัง นั่นหมายถึงคุณประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ในโลกนี้ใครยอมฟังใครว่าง่ายๆ ซะที่ไหนกันล่ะคะ รับรองว่า อ่านจบแล้วจะกลับมาพูดคุยด้วย ฉันว่าคุณเป็นนักเขียนที่ดีนะ คือซีเรียสแต่ไม่ซีเรียสน่ะค่ะ ไม่รู้เข้าใจมั้ย ยินดีแบบจริงจังนะคะที่ได้มีโอกาสรู้จักกันค่ะ ๑๕ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๐๙.๓๓ น.
ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ และรู้สึกยินดีมาๆเช่นกันครับ ที่ได้มิตรใหม่ผู้แสนนุ่มนวล ![]()
ลุงเปี๊ยก เขียนมา : [ 111.84.180.72 ]
รหัสจดหมาย L-2923
๑๒ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๑๘.๒๒ น. ทิดอินทร์.. ตกลงว่าผมอ่านไปได้แล้วครึ่งหนึ่งของทั้งหมด และไม่แน่ใจว่าจะอ่านที่เหลือต่อจนจบได้หรือไม่ ด้วยเหตุผลทางด้านความเหมาะสม เท่าที่ได้อ่านมาครึ่งเรื่อง พอจะมองเห็นชัดเจนว่าทิดอินทร์เล่าเรื่องได้สนุก และตลกมาก นับเป็นวิธีเล่าเรื่องที่น่าสนใจ มีรายละเอียดชนิดวินาทีต่อวินาที เก่งมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะฉากเผชิญหน้าของกลุ่มผู้รุกรานนับร้อย คุณสามารถเล่าให้เห็นไหวพริบ ความกล้า ความกลัว และการยึดถือศักดิ์ศรีของวัยรุ่น ของเพื่อนร่วมสถาบัน ทำให้นึกถึงงานเขียนของศุภักษร ที่จับเหตุการณ์ในสถาบันการศึกษาเป็นฉากเหมือนกัน เพียงแต่ทิดอินทร์ให้อารมณ์ความรู้สึกแบบลูกผู้ชาย เข้มข้น และทะโมน มิใช่หวานทะเล้นแบบศุภักษร ผมเชื่อว่าคุณมีฝีมือพอที่จะเป็นนักเขียนที่โด่งดังได้ไม่แพ้ศุภักษรครับ ตัวหนังสือมันสำแดงให้เห็นแววชัดเจน แต่ที่ผมขียนมาคราวนี้ไม่ใช่จะมาชมหรอก มีข้อที่อยากจะติเตียนตรง ๆ คือ เราเป็นนักเขียนต้องเคารพผู้อ่าน เหตุเพราะการบรรยายอย่างละเอียดยิบของนาฏกรรมในห้องส้วมของคุณนั้น นับว่าเกินเลยความสมควรไปมาก การดึงผู้อ่านเข้าไปอยู่ในส้วมด้วยนั้น ต้องทำอย่างระมัดระวัง ถ้าผู้อ่านเป็นเพื่อนก็ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ถ้าเป็นงานเขียนที่ส่งออกสาธารณะ ผู้อ่านอาจเป็นใครก็ได้ การที่ผู้เขียนพาผู้อ่านเข้าไปในส้วม และชักนำให้มองรายละเอียดแบบโคลสอัพขนาดนั้น มันหยาบคายเกินไป ยิ่งมีฝีมือบรรยายจนได้กลิ่น ได้ยินเสียงขนาดนั้น เฮ่ย.. ไม่ไหวว่ะ ทิดอินทร์ควรรู้ว่าวรรณกรรมนั้นมีพลังอำนาจ ผู้เขียนสามารถบังคับผู้อ่านให้รู้ ให้เห็นในระยะใกล้แค่ไหนก็ได้ การที่คุณดึงใบหน้าผู้อ่านเข้าไปใกล้ตูดของคุณขนาดนั้น ผมว่ามันไม่เหมาะสม ถ้าเขียนเพื่อแกล้งเพื่อนสนุก ๆ ก็นับว่าได้ผล แต่ไม่เหมาะสมกับสาธารณชนแน่ ๆ พึงสงวรณ์! หลังจากเขียนสองย่อหน้าข้างบนไปแล้ว ผมก็ผ่อนคลายลง (ผมเข้ามาเขียนถึงคุณทันทีที่เอาชีวิตรอดออกจากห้องส้วมของไอ้ดิวมาได้) อย่าเพิ่งเสียกำลังใจไปนะครับ ผมคิดว่าจะหยิบมาอ่านต่อจนจบ แล้วจะว่ามาใหม่อีกที ๑๒ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๒๑.๐๒ น.
ดีใจครับที่ลุงเปี๊ยกรอดชีวิตออกมาจากห้องน้ำได้ และขอบพระคุณมากครับลุงเปี๊ยกที่แสดงทรรศนะออกมาแบบตรงๆ ให้ผมได้เข้าในในจุดที่เป็นปัญหา ซึ่งผมขอบอกกับลุงเปี๊ยกตามตรงเลยครับว่า ไม่ว่าผลการประกวดจะเป็นเช่นไร เรื่องนี้ผมต้องทำเป็นหนังสืออย่างแน่นอนครับ ดังนั้น หากยังมีจุดใดที่ยังไม่เหมาะสมอยู่และควรจะปรับแก้ ผมก็ต้องรบกวนให้ลุงเปี๊ยกช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ด้วยจิตคารวะ
ทอรุ้ง เขียนมา : [ 110.49.193.92 ]
รหัสจดหมาย L-2920
๑๑ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๒๑.๕๕ น. สวัสดีค่ะ...คุณทิดฯ อยากขำเหมือนคุณนามว่าจัง ปกติเวลาอ่านหนังสือ ชอบให้อารมณ์ไหลไปตามตัวอักษร เศร้าก้อร้องไห้ ตลกก้อหัวเราะ อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ ขออ่านด้วยคน แต่คงไม่อาจบอกอะไรได้หรอกนะคะ นอกจากช่วยลุ้น บอกตรงๆ แค่เห็นบรรยากาศ ซีเรียสๆ ก้อมึนแทนคนเขียนแล้วล่ะค่ะ ๑๑ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๒๒.๒๘ น.
สวัสดีครับคุณทอรุ้ง ขอบคุณมากครับสำหรับความสนใจ และผมดีใจเป็นอย่างยิ่งครับที่จะได้ส่งงานเขียนชิ้นนี้ให้คุณทอรุ้งได้อ่าน แต่มีข้อแม้นิดหนึ่งว่าต้องช่วยบอกให้ผมทราบหน่อยนะครับว่าอ่านจบแล้วรู้สึกอย่างไร เอาแบบมุมมองของคนอยากอ่านก็ได้นะครับ ผมอยากฟัง ผมขอส่งตามเมล์นี้เลยนะครับและขอให้สนุกกับลมหนาวของผมครับ ด้วยจิตคารวะ ![]()
นาม อิสรา เขียนมา : [ 110.49.205.19 ]
รหัสจดหมาย L-2919
๐๙ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๑๗.๔๕ น. TO คุณทิดอินทร์ ยามเมื่อลมหนาวพัดหอน-เอ๊ย-พัดหวน จำนวน 186 หน้า A 4 ของคุณนั้น กระผม- เซอร์วิลเลี่ยมนาม อิสรา อ่านจบแล้วครับ ขำกลิ้ง! เลย ที่ขำที่สุดก็เห็นจะเป็นตอนพาเหรดกันไปหากับแกล้ม ของพวก "เลี่ยม" ทั้งหลายนั่นแหละ ช่วยกลบความชักช้าอืดอาดจากบทแรก ๆ จนทำให้หายง่วงหาวไปในทันที แล้วก็นั่งหัวเราะคนเดียวได้ตั้งนาน แม้ลีลาการวิ่งหนีให้พ้นผิดจะน่าหวาดเสียวเหมือนวิ่งหนีผีนางนาคมากกว่าวิ่งหนีตายาม แต่มันก็เห็นภาพชวนให้ขำ ยิ่งบทบาทของพี่ไข่ย้อยตอนล้วงกระเป๋าแจ็คเก็ตกำน้ำไข่ไก่ออกมา, แหม-นึกภาพแล้วอดหัวเราะจนพ่นน้ำลายออกมาไม่ได้ ซูเปอร์เลี่ยมจริง (หมายถึงผู้เขียน) และเข้าใจว่า บัดเดี๋ยวนี้คุณคงส่งงานชิ้นนี้ขึ้นเวทีประกวดไปแล้วเหมือนกัน เพราะได้ยินมาว่าหมดเวลาแล้ว ส่วนผมไม่ได้ติดตามข่าวการประกวดของร้านนายอินทร์รอบนี้เลย เนื่องจากไม่มีงานส่งประกวด เขียนไม่ออกมาสองสามอาทิตย์แล้ว และที่สำคัญยังรู้ตัวว่าสีมือไม่ถึง แค่เอาให้ผ่านตะกร้าสำนักพิมพ์อยู่ทุกวันนี้ก็ยังลูกผีลูกคน ที่เพิ่งส่งออกไปเมื่อปลายเดือนที่แล้วสองเรื่อง ถ้าผ่าน ถือว่าปีนี้กำไร ได้ส่งท้ายปีเก่าด้วยผลงานซึ่งเป็นงานเขียนหนังสือที่แสนชื่นชอบ นอกเหนือไปจากงานประจำอันเปรียบเสมือนหม้อข้าวที่ไม่อาจทุบทิ้งได้ และถ้ามันผ่านตะกร้าไปได้จริง ๆ ปีใหม่ที่จะถึงก็จะเป็นปีที่น่าจะมีความสุขกว่าปีเก่าก่อน (เยอะเลย) ดูเอาเถอะ แม้แต่กับงานที่ไม่ได้หวังประกวด หวังเพียงให้บรรณาธิการสำนักพิมพ์ สามารถรับสารที่เราสื่อออกไปได้อย่างถ่องแท้(จึงได้พิจารณาให้ตีพิมพ์) ยังต้องคอยลุ้นอย่างใจหายใจคว่ำ แล้วจะมีปัญญาไปสร้างงานจนได้ระดับพอที่จะส่งเข้าประกวดกับเขาได้ยังไงเล่า??? แม้จะเคยลองฮึดสู้มาแล้วยกสองยก (รางวัลสุภาว์ เทวกุล และ พานแว่นฟ้า) แต่ก็ไม่ผ่าน (ถูกน็อคปลายคางตั้งแต่กรรมการบนเวทีเริ่มสับมือ-ชก) ก็เลยต้องฉากออกมาตั้งหลักเสียก่อน เหมือน "อ้ายดิว"เต้นฟุตเวิร์กถอยฉากออกมาดูทีท่าของ "ไอ้เปรต"บนสังเวียนผ้าใบคราวนั้นนั่นแหละ อย่างน้อยพอได้สูดลมหายใจให้เต็มปอด แล้วค่อยถลันเข้าไปใหม่ด้วยความฮึกเหิมอีกครั้ง(ก็ยังดี) ดีกว่างี่เง่ายืนให้มันเสยอัพเพ่อคัทเข้าปลายคางโป้งเดียวจอดโดยไม่คิดป้องกันระมัดระวังตัว ส่วนจะให้วิจารณ์แสดงความคิดเห็น ก็คงต้องพูดกันยาว เพราะ "สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคมเห็นดวงดาวอยู่พราวพราย" และผมอาจเป็นหนึ่งคนแรกคนนั้นก็ได้ ตามประสาคนมองต่ำเห็นโคลนตมจึงต้องพูดกันยาว ๆ ต้องค่อย ๆ ย้ำ ค่อย ๆ ทำความเข้าใจกันไปทีละนิด ๆ ซึ่งจะพลอยทำให้คุณเสียกำลังใจ หรือไม่สบายใจ จนเกิดความไม่มั่นใจ(ในตัวผม) ไปเสียเปล่า ๆ จึงอย่ากระนั้นเลย ไว้คุณค่อยกลับไปอ่านและทบทวนแก้ไขด้วยตนเองจะดีกว่า โดยยึดหลัก - ตัดทิ้งแล้วไม่เสียเนื้อความตัดไปเลย เพื่อไม่ต้องการให้มันเยิ่นเย่อไม่กระชับ -ส่วนไหนที่ดูเป็นเล่นมากเกินไปก็ตัดทิ้งไปเสียบ้าง (สมัยก่อนนู้น อาจินต์ ปัญจพรรค์ เคยเขียนแนะนำไปกับต้นฉบับที่ส่งคืนให้ผม เนื่องจากไม่ผ่านการตีพิมพ์ ท่านได้กรุณาแนะนำหลายสิ่งหลายอย่าง และมีอยู่อย่างหนึ่งท่านเขียนว่า "อย่าเขียนเป็นเล่น" ผมยังจำไม่ลืม) -ส่วนไหนที่ไม่กระจ่างพอ ยังคลุมเครือสองแง่สามง่าม ก็อาจขยายความเพิ่มเติมลงไปให้ชัดแจ้ง ได้ใจความสมบูรณ์ตามที่เราต้องการสื่อ แม้สักนิดก็สำคัญ อย่ามองข้าม คำคำเดียวอาจสร้างความกระจ่างให้กับเนื้อหาตลอดทั้งเรื่องก็เป็นได้ สรุปโดยรวม ๆ งานคุณทิดอินทร์ชิ้นนี้ กับ ชิ้นที่โพสต์ลงในเว็บเรื่องยาวของศาลานกน้อย แตกต่างกันราวกับคนแต่งคนละคนกัน หรืออาจเพราะที่โพสต์ลงในเว็บนั้นคุณยังไม่ได้ทบทวนแก้หรือเปล่าไม่ทราบ เพราะสังเกตรูปประโยคมันดูขัด ๆ นัยน์ตา ส่วน "ยามเมื่อลมหนาวพัดหวน" นี้ แม้แต่สระ วรรณยุกต์ ตกหล่นสักตัวครึ่งตัวก็ดูเหมือนจะหาไม่เจอ (หรืออาจมีลอดตาบ้างก็ไม่รู้) แสดงว่าตรวจทานอย่างดีเยี่ยม จึงยังเหลือแต่การตัดแต่งข้อความเหมือนอย่างที่แนะนำไว้คร่าว ๆ นั่นแหละครับ เอาตามนั้นเลย พอแค่นี้นะครับ ชักง่วง 9 ธ.ค. 2553 00.27 น. ๐๙ ธ.ค. ๒๕๕๓, ๒๓.๑๓ น.
สวัสดีครับพี่นามฯ ก่อนอื่นใดผมต้องขอบพระคุณพี่นามฯมากเลยครับที่สละเวลาและเสียลูกกะตาไปกับความยาวของงานเขียนบนหน้าจอมอนิเตอร์ซึ่งคาดว่าคงไม่ทำให้เสื่อมสภาพไปสักเท่าไหร่ และขอขอบคุณพี่นามฯอีกครั้งครับสำหรับคำวิจารณ์ ซึ่งผมมาทบทวนตัวเองอีกทีก็นับว่าผมกลับดันเลี่ยมน้อยลง(จากที่ควรจะเป็น) เพราะหากก่อนที่ผมจะส่งนั้น หากผมมีโอกาสส่งให้พี่นามฯและพี่ๆน้องๆในศาลานกน้อยแห่งนี้ช่วยวิจารณ์กันก่อนสักนิดก็คงจะดีมิใช่น้อย(คงดีมากๆเลย) แต่ถ้าพี่นามฯขำเพราะเรื่องที่ผมเขียนได้ ผมก็ถือว่าโอเคแล้วครับ ตามที่พี่นามฯได้แนะนำ ความจริงแล้วผมตั้งใจว่าจะตรวทานขั้นสุดท้ายเพื่อตัดสิ่งที่เป็นความเทอะทะเยิ่นเย้อออกในสี่วันก่อนการประกวด (ผมกางปฎิทินเพื่อวางแผนการทำงานในงานเขึยนชิ้นนี้ครับ แล้วแบ่งเลยว่าในแต่ละวันนั้นผมใช้ทำอะไรเพราะเวลามีน้อยมาก ด้วยในบางวันผมต้องเอาไปใช้ในการทำมาหากินครับ) แต่สุดท้าย วันที่๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ แม่ผมบอกว่า อยากเอากระดูกพ่อไปลอยอังคารที่วัดพระพุทธบาทสี่รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ในวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ทำให้ผมแทบช็อกเลย จริงๆแล้วอยากจะขอเลื่อนแม่ออกมาเป็นสัปดาห์นี้ (๑๐-๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๓) แต่เมื่อคิดไปคิดมา กลับนึกขึ้นได้ว่า แม่ไม่เคยชวนไปเที่ยวที่ไหนเลย แสดงว่าครั้งนี้แม่ต้องอยากจะไปจริงๆ ผมจึงตัดสินใจไม่เลื่อน และยอมส่งผลงานเท่าที่ทำได้ในวันนั้น(ผมไม่ได้ดูถูกกรรมการนะครับ และไม่ได้ดูถูกตัวเอง แต่ส่งเพราะไหนๆก็ทำมาถึงขั้นนี้แล้ว ดีกว่าถูกเก็บไว้ในกองหนังสือที่บ้าน) สรุปแล้วตามที่พี่นามฯแจ้งมาแบบพอประมาณนั้น ผมจะลองกลับไปทบทวนดูอีกครั้งก็แล้วกันนะครับ(และในเบื้องลึกอาจจะขอคำวิจารณ์แบบแรงๆด้วยครับ อย่ากลัวเลยครับว่าผมจะฝ่อ เพราะผมไม่มีอะไรจะเสียครับ มีแต่จะได้) ด้วยจิตคารวะครับ
ทอรุ้ง เขียนมา : [ 110.49.205.203 ]
รหัสจดหมาย L-2906
๐๖ พ.ย. ๒๕๕๓, ๑๓.๓๘ น. หวัดดีค่ะ...คุณทิด วันนี้นะ โพสต์งานชิ้นหนึ่งแหละ คิดถึงคุณทิด และ รักในกล่องแห่งความลับ เลยแวะมาค่ะ เพื่อนทอรุ้ง อ่านงานคุณ เค้าชอบมากเลย ฝากชมมาด้วยนะคะ ดีจังเนอะ ที่ได้อ่าน ได้เขียน เขียนต่อไป นะคะ จะได้อ่านไง ![]() ๐๖ พ.ย. ๒๕๕๓, ๑๓.๕๘ น.
ขอบคุณมากครับคุณทอรุ้ง สำหรับกำลังใจที่มีให้เสมอมา แล้วจะเขียนเรื่องต่อไปให้ได้อ่านนะครับ ![]()
นาม อิสรา เขียนมา : [ 110.49.205.121 ]
รหัสจดหมาย L-2897
๐๑ พ.ย. ๒๕๕๓, ๒๒.๕๖ น. หลังจากลิ้มรสคำหมากจนเป็นชื่นพระหฤทัย ******************************** ขอโทษสำหรับประโยคนี้ ผมตัดทิ้งคำเกินออกไม่หมดครับ จริง ๆ แล้วต้องเขียนแบบนี้ " หลังจากลิ้มรสคำหมากจนชื่นพระทัย" เพิ่งเข้ามาเห็นตอนอ่านจดหมายตอบรับของคุณนี่เอง สำหรับหนังสือบางเล่มที่ผมแนะนำคุณไว้ น่าจะหายาก ยังไง ๆ ก็แนะนำให้ไปที่ห้องสมุดใหญ่ ๆ นะครับ รับรองมีแน่นอน สมัครสมาชิกแล้วยืมไปอ่านได้เลย ๐๒ พ.ย. ๒๕๕๓, ๐๖.๔๑ น.
สวัสดียามเช้าครับพี่นามฯ อากาศวันนี้ที่กรุงเทพฯเย็นมาก จนแทบไม่อยากจะลุกไปไหนนอกจากซุกตัวอยู่ในที่นอน ผมลองค้นหาหนังสือในอินเตอร์เน็ทแล้วครับ ยังหาไม่เจอเลย และคิดว่าน่าจะหายากจริงๆ ของลาวคำหอมเจอเพียงคอลัมป์ของ "ฟ้าบ่กั้น" ซึ่งผมเคยอ่านในสมัยเรียนจนจำแทบไม่ได้แล้ว แต่อย่างไรวันนี้จะลองไปหาที่ห้องสมุดประจำเขตดูครับ น่าจะหาไอ้ ส่วนเรื่องปีศาจ นั้นเคยผ่านตาแต่ยังไม่ได้ค้นจริงๆ แต่คาดว่าน่าจะหายากเช่นกันครับ คงต้องพึ่งห้องสมุดประชาชนเช่นเคย ขอบคุณในความเอื้อเฟื้อของพี่นามฯอีกครั้งครับ ด้วยจิตคารวะ ![]() ![]()
นาม อิสรา เขียนมา : [ 110.49.193.239 ]
รหัสจดหมาย L-2896
๐๑ พ.ย. ๒๕๕๓, ๑๙.๒๓ น. ไม่ทราบคุณทิดฯแต่งนิยายเรื่องนี้จบหรือยัง ผมติดตามอ่านมาด้วยความชื่นชมตั้งแต่บทแรก เพียงแต่ไม่ค่อยมีเวลาได้แสดงความคิดเห็นมากนัก เนื่องจากภาระการงานที่ร้าน รวมทั้งหนังสือหนังหาที่เพื่อนพ้องน้องพี่จากกรุงเทพฯซื้อส่งไปให้ก็หลายเล่มยังไม่ได้เปิดอ่าน แต่ลึก ๆ ในใจแล้ว คิดว่าว่างเมื่อไหร่ ก็จะส่งความคิดเห็นส่วนตัวมาหาคุณทิดทันที เพราะอยากเอาใจช่วยให้คุณทิดประสบความสำเร็จในด้านงานเขียน แม้ผมเองจะไม่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไรนัก แต่เชื่อว่าผมเริ่มต้นมาก่อน ผ่านประสบการณ์มาพอสมควร จึงอยากจะแสดงความคิดเห็นฉันท์มิตรต่อคุณทิดฯว่า ขอให้คุณทิดฯจงเขียนหนังสือด้วยความใคร่ครวญขึ้นกว่านี้สักนิด แล้วคุณทิดฯจะไม่เหนื่อยเปล่า และที่สำคัญจงหมั่นอ่านงานเขียนที่ในหมู่นักอ่านยกย่องกันว่าเป็น"หนังสือดี" อย่างเช่น "ฟ้าเดียวกัน" ของ ลาว คำหอม "ปีศาจ" ของ เสนีย์ เสาวพงษ์ หรือหนังสือสำนวนที่แช่มช้อยถูกลักษณะการใช้ภาษาอย่างที่สุดของ"ดอกไม้สด" และอีกมากมายที่น่าจะนำมาอ่านเพื่อการศึกษาไว้เป้นแบบอย่าง จนกระทั่งมือเราเข้าฝักดีแล้ว เราก็จะมีแนวทางของเราเองอย่างไม่ต้องสงสัย และท้ายที่สุดนี้ ผมขอถือวิสาสะในการตัดคำบรรยายต่อท้ายการเจรจาในนิยายอิงประวัติศาสตร์ของคุณมาแก้ไขให้ดูเป็นตัวอย่างพอคร่าว ๆ นิดหนึ่ง เพื่อให้คุณได้พิจารณาดูว่าทำไมถึงต้องเป็นอย่างนั้น ทำไมต้องตัดตรงนั้น ๆ ออกไป ลองพิจารณาดูนะครับ (ของเดิม) "ข่าวสารที่ส่งมาจากเมืองพระนครว่าอย่างไร" พระเจ้าหรรษาวรมันทรงตรัสขึ้น ทำลายความเงียบขึ้นทันทีหลังจาก ลิ้นได้รับรสคำหมากเป็นที่ชื่นหฤทัย ความเคร่งเครียดกดดันจึงลดลงมาเล็กน้อย ในหมู่ข้าราชบริพารที่ต่างเกรงกลัวต่อพระราชอำนาจ ที่พระเจ้าหรรษาวรมันทรงปกครองบ้านเมืองด้วยความเด็ดขาด หลังจากที่พ่ายแพ้ให้แก่พระเจ้าชัยวรมันที่หก ความแค้นครานั้นกลับส่งผลให้พระองค์ทรงมีความพิโรธคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา ********************************************** (ฉบับแก้ไข) "ข่าวสารที่ส่งมาจากเมืองพระนครมีว่าอย่างไร" พระเจ้าหรรษาวรมันทรงตรัสทำลายความเงียบ หลังจากลิ้มรสคำหมากจนเป็นชื่นพระหฤทัย ความเคร่งเครียดกดดันในหมู่ข้าราชบริพารที่เกรงกลัวพระราชอำนาจก็ลดน้อยลงมา กษัตริย์แห่งกรุงแห่ง(เติมชื่อเมืองลงไป)พระองค์นี้ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยความเด็ดขาด หลังจากพ่ายแพ้(อะไร)ให้แก่พระเจ้าชัยวรมันที่ ๖ ความแค้นครานั้นส่งผลให้พระองค์ทรงเก็บความพิโรธคุกรุ่นอยู่ในพระอุระตลอดเวลา หวังว่าคุณคงจะเต็มใจศึกษามันนะครับ ด้วยมิตร นาม อิสรา ๐๑ พ.ย. ๒๕๕๓, ๑๙.๓๘ น.
ขอบพระคุณมากครับพี่นามฯ เพียงเท่านี้ผมก็รู้สึกอบอุ่นอย่างเหลือหลายจริงๆครับ ทั้งคำแนะนำและกำลังใจที่มีให้ หนังสือที่พี่นามฯแนะนำมา ผมยังไม่เคยอ่านเลยครับ และไม่รอช้าผมจะรีบหามาอ่านในวันพรุ่งนี้เลย คาดว่าในตลาดหนังสือน่าจะพอหาอ่านได้บ้าง แล้วผมจะพยายามปรับแก้ตามที่พี่นามฯได้แนะำมานะครับ และขอขอบคุณไว้ล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำในครั้งต่อไปครับ ด้วยจิตคาระวะ จดหมายรอตอบ :
|
|||||||||||||||
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |