![]() |
![]() |
ไร้ตัวตน![]() |
...ความอยากของตัวเองต่างหากที่หลอกลวงตัวเรายิ่งกว่าที่คนอื่นทำกับเราเสียอีก...
ตอน : บันทึกของความคิด 14 กุมภา 2555 : มี..แต่ไม่เอา
หลังจากความผิดหวังกับความรักที่จากไปครั้งล่าสุดฉันก็แทบจะใช้เวลาเกือบทั้งหมดขลุกอยู่กับการฟังคลิปเสียงธรรมะที่โหลดมาจากอินเตอร์เน็ต ฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่าวนไปมาอยู่อย่างนั้นราวกับจะหาความหมายของการมีชีวิตอยู่จากเสียงเหล่านั้น
ทุกสิ่งล้วน อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา
เป็นสิ่งที่ได้ยินอยู่บ่อยๆ แต่ก็อดจะคิดในใจไม่ได้ว่า 'จำได้ แต่กลับไม่เคยเข้าใจเสียที'
'ฉันรู้ ฉันไม่ใช่คนที่ดีนัก แต่ฉันก็ทำเพื่อเธอมากมาย ทำไมเธอถึงยังโกหกหลอกลวงฉัน เธอทำอย่างนั้นกับฉันได้อย่างไร'
นี่เป็นประโยคที่ฉันมักจะถามตัวเองอยู่เสมอ
นึกๆแล้วก็ตลกตัวเองเสียเหลือเกิน
ในวันนั้นฉันทั้งโกรธ ทั้งเสียใจแทบเป็นแทบตายเพราะคนที่รักโกหกหลอกลวง
แต่วันนี้เพิ่งเข้าใจว่า ความอยากของตัวเองต่างหากที่หลอกลวงตัวเรายิ่งกว่าที่คนอื่นทำกับเราเสียอีก
ก็ในเมื่อทุกสิ่งคือ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตาแล้ว มันจะแปลกอะไรกับการจากไปอย่างนั้น
การที่เราจะไปยึดมั่นถือมั่นว่า คนที่รักจะอยู่กับเราตลอดไป มันจะเป็นไปได้อย่างไร คิดแบบนี้ก็เท่ากับเป็นการเห็นผิด มันก็โง่นั่นสิ
'ทุกสิ่งในโลกก็เหมือนหินที่วางไว้อยู่บนพื้น
ถ้าเธอเดินผ่านไป มันจะไปหนักอะไร
มันหนักก็ต่อเมื่อเธอไปอยากได้มัน แล้วก็ยกมันขึ้นมาเท่านั้น
พอเธอยกหินขึ้นมา ก็บ่นว่า มันหนักจังเลย มันหนักจังเลย...
มันหนักก็วางลงสิ จะไปแบกไว้ทำไม...
วางไม่ได้...
ทำไมวางไม่ได้...
ไม่รู้ วางไม่ได้ แล้วก็บ่นว่า มันหนังจังเลย มันหนักจังเลย... '
คนเราก็เป็นเสียอย่างนั้น ถึงได้เป็นทุกข์กันอยู่ทุกวันนี้อย่างไร
อารมณ์ก็เหมือนกัน
ควมสุข ความทุกข์ก็เหมือนกัน
จะอะไรเสียอีกละ
ก็รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ สิ่งเหล่านี้มันก็ไม่แน่ทั้งนั้น
เหมือนหินก้อนนั้น
ไปแบกไว้ มันก็หนักเท่านั้นละ
แต่มีหินไหม...มี
หินนั่นยังมีอยู่
มีไว้ทำไม
มีเพื่อให้รู้ รู้แล้วก็ละ
'มี...แต่ไม่เอา'
มาวันนี้
สิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นโชคร้ายในวันนั้น
กลับเป็นประโยชน์เสียจริงๆ