นิตยสารรายสะดวก  Memorandum  ๑๒ กรกฏาคม ๒๕๕๓
สยายปีก #2
นายอิติฯ
...โถ!!!น้าตู..ปล่อยให้วัยรุ่นซีเครียดอยู่​​ได้ตั้งนาน..เห็นเราแล้ว​ก็ไม่บอก รู้อย่างนี้ปล่อยให้เดินหาเรามั่งก็ดี ​ไป๊!! ​ไป..เดี๋ยว​จะถึงเ...

ตอน : สาธุ



โถ!!!น้าตู..ปล่อยให้วัยรุ่นซีเครียดอยู่​​ได้ตั้งนาน..เห็นเราแล้ว​ก็ไม่บอก รู้อย่างนี้ปล่อยให้เดินหาเรามั่งก็ดี


​ไป๊!! ​ไป..เดี๋ยว​จะถึงเมืองท่าม่วงมืดค่ำ
"โอเซ..ครับ​"
เออ..ทำไมตอนนี้หัวสมองผมมันรู้สึกโล่งสบายๆ​หว่า มองซ้าย​และขวา เห็นรถเห็นคนมันก็ดูดีน่ามอง​ไปหมด หัวลำโพงมันช่าง​เป็นอะไร​​ที่น่าตื่นเต้นดีจริงๆ​ น้าชายผม แก​เอารถปิกอัพ MAZDA เก่าๆ​มารับติดแอร์ธรรมชาติอย่างดี

เส้นทาง​ที่น้าแก​ใช้ออกจากหัวลำโพงบอกตรงๆ​ครับ​ ผมคิด​จะจำ​แต่จำไม่​ได้​เพราะงง จนทุกวันนี้ผมก็ยังงง มาจำ​ได้อีก​ที่ ก็มาโผล่ บางแค-เพชรเกษม-สามพราน-นครชัยศรี เข้านครปฐม อ้อ!! ครั้งแรก​ที่เห็น​พระปฐมเจดีย์ช่าง​เป็นอะไร​​ที่ใหญ่โตจริงๆ​

สาธุ...​

ผมประนมมือจรดหน้าผากหนึ่ง​ครั้ง อยากเห็นมานานแล้ว​ครับ​​กับเจดีย์​ที่ใหญ่อลังการ อย่างนี้ ไม่รู้ว่าทุกๆ​คน ​ที่เคยเห็น เคยผ่าน​จะคิดเหมือนผมรึเปล่า


เข้าเขตราชบุรีคำเล่าลือ​ที่ว่า​เป็นเมืองโอ่ง​ได้มาเห็น​กับตาจริงก็วันนี้แหล่ะครับ​ ​เพราะดูแล้ว​สองข้างทาง​ที่รถน้าแกขับวิ่งผ่านอาชีพของคน​ที่นี่ ก็น่า​จะทำโอ่งขาย..จนกลาย​เป็นโลโก้ประจำจังหวัด​ไปเลย​ หกโมงเย็น ผ่านท่ามะกาถึงท่าม่วงจุดหมายแล้ว​..เย้ๆ​ (เย้.ในใจครับ​ดังไม่​ได้..กลัวน้าแกว่า​เอา)

เขื่อนจุฬาลงกรณ์(ชื่อเดิม) ทุกวันนี้เปลี่ยนกลับมา​เป็น "เขื่อนแม่กลอง" บ้านพักของน้าแกอยู่​ในนั้น​ครับ​ ​เป็นบ้านพักข้าราชการ​ที่ทำงานให้​กับกรมชลประทาน ​ซึ่งน้าผม​ได้ฝากงาน​เป็นลูกจ้างชั่วคราว​ที่นี่ให้ทำ

สองปี​กับงาน​ที่นี่ ​เพื่อนใหม่ๆ​ มิตรภาพใหม่ ​ความทรงจำใหม่ๆ​ ประสบการณ์ชีวิตการทำงานของวัน(แรก)ใหม่ ​กำลัง​จะเริ่มขึ้น​ครับ​




การทำ​ความรู้จักมักคุ้น​กับครอบครัวของน้า ไม่​เป็นปัญหาครับ​ ​เพราะน้าแก​จะพาครอบครัวขึ้น​​ไปหาแม่ผม​ที่โคราชอยู่​บ่อยครั้ง แกมีลูกชายคนเดียว เรียนอยู่​ชั้นประถม ๕ อ้อ!! ลืมบอก​ไปว่าผม​ต้องรออีก ๒ วัน ถึง​จะ​ได้ทำงาน ผม​ไปถึงวันเย็นวันศุกร์​พอดี ​ส่วน​เพื่อนบ้าน ผมมาถึงวันสองวัน ก็ถูกชะตาอยู่​คนหนึ่ง​ มีอายุแล้ว​ผมเรียกว่าลุงเชิด อายุแกประมาณ ๕๐ ต้นๆ​ แกอยู่​คนเดียวลูกเมียแกอยู่​สระบุรี เทียว​ไปเทียวมา

ลุงเชิดแกชอบดื่ม​เป็นพิเศษ ​กับแกล้มก็โปรตีนจากปลา​ที่แกหามานั่นล่ะ ​เพราะสังเกตรอบบ้านแก​จะมี​แต่พวกเครื่องมือจับปลา หลายๆ​บ้านก็มีครับ​​แต่ลุงเชิดแก​จะมีมากมาย​หลายอย่างเยอะกว่าบ้านอื่น ผมว่าผมเจอคน​ที่ชอบ Fishing ยิงตกตกปลาเหมือนกันเข้าแล้ว​ครับ​ แรกๆ​​จะถูกลุงแกชวนดื่ม ผมบอกปัดปฏิเสธไม่ดื่ม ​เพราะไม่เคยอีกอย่างสีมันออกแดงๆ​ขุ่นๆ​ น่ากลัวครับ​

ผมถามแกว่า มัน​คือเหล้าอะไร​

"เชียงชุนน่ะ..ไอ้หลาน น่านะ...​ลองดูหน่อย​"
คิดดูอีกทีผมว่าการดื่ม​เพื่อมิตรภาพ ​และมิตรสัมพันธ์​ที่ดี​กับ​เพื่อนบ้านดื่มนิดก็คงไม่เสียหายอะไร​ อีกอย่างการปฏิเสธผู้ใหญ่บ่อยๆ​มันออก​จะไม่งาม แม่สอนไว้ครับ​

ผมรับ "เชียงชุน" แม๊!! ชื่อมันเท่ห์จริงๆ​ ก็ไม่รู้หรอกครับว่า​มันแปลว่าอะไร​ รู้​แต่ว่ามัน​คือ เหล้าเชียงชุน เอ้า!!! เชียงชุนก็เชียงชุนวะ...​.​เป็นไง​เป็น​เป็นไง สักที​จะ​เป็นไร​ไป

ซื๊ด.ด.ด

ไอ้หย๋า...​.มันขมๆ​หวานแปร่งๆ​ยังไงพิกล หูตานี่ร้อนผ่าว มันร้อนท้องวาบ ขนลุกพรึ่บเลย​ครับ​
"อื๋อ...​นี่หรือ​คือเชียงซุน สมคำเล่าลือจริงๆ​"
"เอ้าๆ​..นี่กลับแกล้ม วันนี้ลุงต้มปลานิลตัวใหญ่ๆ​​กำลังร้อนๆ​"
หลังจากผมทรงตัว​ได้​กับ ก๊งแรก ผมว่าจริงๆ​แล้ว​ เหล้าเชียงชุนมันก็ไม่​ได้น่าเกลียดน่ากลัวอะไร​ ​แต่มัน​เป็นทางเลือกของคนราย​ได้น้อยอย่างลุงแกต่างหาก (ผมด้วย) ผมว่าดื่มแล้ว​​ถ้าไม่เดือดร้อน​ใครไม่สร้าง​ความรำคาญให้​ใคร ก็ไม่น่า​เป็น​ที่รังเกียจหรอกครับ​ วันนั้น​..ก๊งสอง..ก๊งสาม..ตามมาอย่างไหลรื่น.​แต่ก็พอประมาณครับ​ นี่แหล่ะครับ​..เหล้าชนิดแรก​ที่หนุ่มน้อย(หน้าหล่อ)อย่างผมดื่ม



วันจันทร์ผมตื่น​แต่เช้า​ ​เพราะวันนี้​ต้อง​ไปทำงานวันแรก น้าชายแก​แต่ง ชุดข้าราชการเต็มยศเลย​ครับ​ แม๊!!! ม๊ะจริงๆ​ แลดูน่าเคารพนับถือจริงหาก​ไปเดินแถวๆ​ ศาลากลางจังหวัดคงนึกว่า​เป็นผู้ว่าฯประมาณนั้น​ ​ถ้า​ไปเดินแถวโรงเรียนก็มาดครูใหญ่ล่ะ...​หาก​ไปนั่งในธนาคารออมสินตำแหน่งผู้จัดการสาขาคง​ต้อง​เป็นของแกแน่ๆ​ ​เพราะด้วยบุคลิกอ้วนๆ​ขาวๆ​ ผมบางพอประมาณดูแล้ว​ใช่ครับ​ สำหรับผมกางเกงยีน เสื้อเชิ้ตแขนยาว รองเท้าผ้าใบกระเป๋าสะพายหนึ่ง​ใบแค่นี้ก็เท่ห์สุดๆ​แล้ว​ครับ​

​ที่ทำงาน​กับบ้านของน้าชายห่างกันไม่ถึงสามกิโลเมตร ​ที่ทำงานอยู่​ข้างๆ​เขื่อนวิชิราลงกรณ์ ​แต่บ้านของแก​จะอยู่​หลังเขื่อน ผม​จะติดเรียกชื่อนี้ครับ​..​เพราะตอน​ที่ผม​ไปอยู่​ยังไม่เปลี่ยนชื่อมา​ใช้เขื่อน "แม่กลอง" ​ส่วนบ้านพัก​จะอยู่​ห่างเข้า​ไปในเขื่อน​ซึ่งน้า​ต้องขับรถผ่านเขื่อนทุกวัน

แรกๆ​ก็ตื่นเต้น​กับการเห็นประตูเขื่อน​และการไหลของน้ำ​ที่ออก​จะดูน่ากลัว พอวันสองวันผมก็เริ่มชิน​กับภาพเหล่านั้น​ เขื่อนแม่กลอง หรือเดิมชื่อ "เขื่อนวชิราลงกรณ์" ​ซึ่ง​ได้รับ​พระราชทานนามเปลี่ยนกลับมา​เป็นเขื่อนแม่กลองอีกครั้ง ​เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ ​เป็นเขื่อน​ที่สร้างกั้นลำน้ำแม่กลอง​ที่ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี สร้างเสร็จ​เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๓ ผมยังไม่เกิดเลย​ครับ​

พื้น​ที่ชลประทานประมาณเกือบๆ​ ๓ ล้านไร่ ของโครงการชลประทานแม่กลองใหญ่ ​ซึ่ง​เป็นโครงการชลประทาน​ที่ใหญ่​เป็นอันดับ ๒ ของประเทศไทย ​เป็นเขื่อน​ที่มี​ความสำคัญ​ที่สุดในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง ครอบคลุมพื้น​ที่ ในจังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม ​และสมุทรสาคร เพชรบุรีก็น่า​จะถึงครับ​

มาเล่าถึง​ที่ทำงานต่อครับ​ วันนั้น​ผม​ได้รับการว่าจ้าง​เป็นลูกจ้างชั่วคราว ​โดยอยู่​ใน​ส่วนของการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ของโครงการท่ามะกา-สองพี่น้อง ​ซึ่ง​ส่วนใหญ่เครื่องยนต์​ที่ซ่อมก็​เป็นจำพวกรถแทร็กเตอร์ รถตักล้อใหญ่ๆ​ หาก​ใครเคยเห็น..แค้มป์ของชุดขุดคลองชลประทานนั่นหละครับ​ รถพวกนั้น​แหล่ะ ​คือ งานซ่อม​ที่ผม​ต้องซ่อมใหญ่ๆ​​ทั้งนั้น​

ตัวผมเองก็ไม่มี​ความรู้มาด้านนี้เลย​ ​เพราะจบไฟฟ้า​กำลัง "​เอาน่า..เด็กฝาก" ​แต่น้าบอกว่าใหม่ๆ​​เป็นลูกมือ​เขาก็ช่วยหยิบจับโน่นนี่ เดี๋ยวนานเข้าจาก​ที่ไม่​เป็นไม่รู้เลย​ ทีนี้ล่ะเรา​จะ​ได้​ความรู้เพิ่มขึ้น​ ดีซะอีกนะรู้​ทั้งเรื่อง​ไฟฟ้าไหน​จะเครื่องยนต์อีกน้าแกว่าอย่างนั้น​ครับ​

เรื่อง​งานผมบ่ยั่นอยู่​แล้ว​ครับว่า​ไงก็ว่าตามกัน วันนั้น​มีหนุ่มรุ่นๆ​ผม มาเข้าใหม่​พร้อมกันอีกหนึ่ง​คน แถมมาอยู่​หน่วยเดียว​กับผมด้วย ผมเรียก​เขาว่า "พี่ตัวเล็ก" ​เพราะ​เขาตัวไม่ค่อยโต อัธยาศัยการพูดคุยดีมากๆ​ ​เขาจบ ช่างยนต์​โดยตรง

พี่​เขาโต​และเกิด​ที่นี่ (อย่างนี้​ต้อง..ตีซี้ครับ​) พี่​เขาบอกบ้านพักอยู่​ใกล้ๆ​วัดม่วงชุม ผมก็เคย​ได้ยินน้าแกคุยให้ฟังเหมือนกันเรื่อง​วัดม่วงชุม ​เพราะลูกชายแกเรียน​ที่นั่น ถาม​ไปถามมาก็อยู่​ใกล้ๆ​กันนี่เอง อยู่​ภายในเขื่อนเหมือนกัน ว่างๆ​​เขาบอก​จะพา​ไปเ​ที่ยววัดถ้ำเสือด้วย



"ห๊า!! อยากเห็นถ้ำแถวนี้มานานแล้ว​ ​ไป๊!! พี่​ไป เสาร์นี้เลย​น๊อ"
"เลิกงานก็​ไป​ได้..อยู่​ใกล้ๆ​บ้านพี่เอง"
"​ได้ครับ​พี่ เย็นนี้ผม​ไปรู้จักบ้านพี่เลย​​ได้ป่ะ"

ดู​เอานะครับ​พี่น้องนี่พึ่งทำงานวันแรกยังไม่พ้นวันเลย​ก็อยากเ​ที่ยวแล้ว​

 

F a c t   C a r d
Article ID S-3196 Article's Rate 7 votes
ชื่อเรื่อง สยายปีก --Series
ชื่อตอน สาธุ --อ่านตอนอื่นที่ตีพิมพ์แล้ว คลิก!
ผู้แต่ง นายอิติฯ
ตีพิมพ์เมื่อ ๑๒ กรกฏาคม ๒๕๕๓
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ ฉันเขียนให้เธออ่าน
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๑๙๕ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๑ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๓๒
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : นาม อิสรา [C-17184 ], [110.49.204.6]
เมื่อวันที่ : ๐๖ ก.ค. ๒๕๕๓, ๑๙.๕๙ น.

เซียงชุ้นหนึ่ง​​ เหล้าขาวผสมน้ำผึ้งหนึ่ง​​ สองอย่างนี้​​เป็นยาระบายชั้นดีสำหรับผม

ครึ่งค่อนแก้วก็พอ รุ่งเช้า​​เข้าห้องน้ำสะดวก​​โยธินเลย​​ครับ​​

​​ใครชวนผมกินเซี่ยงชุ้น ผม​​จะบอก​​เขาว่า "พักนี้ข้าท้องไม่ผูกว่ะ" ฮา ฮา

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น