![]() |
![]() |
ผ้าขาวม้า![]() |
..."ไอ้หมาวัด....3#$@**@%....." อึ๋ย อีกแล้ว แค่ได้ยินคนเค้าตะโกนด่าหมาที่วัดทีไรเจ็บใจแทนมันทุกที ใช่อยากจะเกิดเป็นหมาวัดสักหน่อย ถ้า...
ตอน : Temple Dog (ดอกรัก)
"ไอ้หมาวัด....3#$@**@%....."อึ๋ย อีกแล้ว แค่ได้ยินคนเค้าตะโกนด่าหมาที่วัดทีไรเจ็บใจแทนมันทุกที ใช่อยากจะเกิดเป็นหมาวัดสักหน่อย ถ้าเลือกเกิดได้ คงเกิดเป็นคนที่ด่ามัน แล้วให้ไอ้คนที่ด่ามาเกิดเป็นหมาแทนสักหน่อยเถอะ.. คนเราก็แปลกเนาะชอบเลี้ยงหมา แต่พอหมาโตขึ้น นิสัยไม่ได้ดังใจเจ้าของ (ทั้งๆที่ไอ้เจ้าของเป็นคนสอนหมาเอง) หรือ หมาเราไปกัดใครเข้า ...จนทนไม่ได้แล้วโว้ย ก็ทิ้งอีกแล้ว เป็นกรรมของเจ้าหมา แล้วมันเป็นยังไงไม่รู้เป็นค่านิยม หรือเป็นแฟชั่นที่ต้องทิ้งหมาที่วัด ฉันอยากรู้จริงๆ ใครมันเป็นเจ้าของพฤติกรรมแรกๆที่ ทิ้งหมาที่วัด ทำไปได้ ทำบุญก็ทำที่วัดเพราะมีพระบุญจะได้สนองเราเร็วๆ พอจะทำบาปยังจะมาที่วัดอีก คิดได้ยังงัย..? (แกล้งโง่หรือเปล่า) แล้วสังเกตไหมว่าหมาเพศอะไรที่คนนิยมทิ้งกันมากที่สุด..ติ๊ก..ต๊อก..



มันเป็นอย่างไรกัน กะอีแค่หมาตัวเมียทำไม๊ ทำไม ต้องทิ้งกันด้วย ข้ออ้างก็ เดี๋ยวมันท้อง (ก็ทำหมันมันซะสิย่ะ จะได้ไม่ท้อง..จบ..)
เห็นเหตุการณ์พวกนี้ทีไรก็อดสงสารหมาไม่ได้สักที ยิ่งเป็นหมาวัดด้วยแล้ว เพราะบ้านฉันอยู่หลังวัด เข้าวัดทุกวัน(ไม่ได้มาทำบุญหรอกน่ะ แค่เดินผ่าน อย่าเข้าใจผิด..)จึงทำให้คลุกคลีกับหมาวัดเป็นพิเศษ อาหารที่มันกินก็เศษอาหารที่พระฉันเสร็จ แล้วขอโทษอย่าคิดน่ะว่าเศษอาหารที่เหลือต้องมากมายพอเลี้ยงดูพวกมัน คิดเอาเองสิว่าการที่คนมาทำบุญใส่บาตร ไม่ได้ทำทุกวัน อาหารมันจะมากทุกวันได้ยังไงกัน ไอ้ตัวไหนเจ๊งกว่า นักเลงกว่า เข้มแข็งกว่าก็อิ่มมากกว่า แต่ตัวไหนป่วย ขี้กลัว แก่ไปก็ได้กินนิดเดียว บางทีก็อดกินไปด้วยซ้ำ แถมโรคผิวหนัง เป็นหมาใส่ชุดเกราะกันกระสุนก็แพร่หลายนิยมติดกันทั่วไปทั้งวัดอีก เกากันระนาว ใครเห็นก็ยิ่งรังเกียจ
บ้านฉันเคยเลี้ยงหมามาหลายตัว แล้ว บางตัวก็ตาย บางตัวก็ถูกขโมย บางตัวก็หาย (มีบางตัวเป็นหมาตัวผู้..ไปติดใจสาวบ้านไหนเข้า พอเค้าย้ายบ้านไป มันก็จะตามเค้าไปอยู่ด้วย..) จนตัวสุดท้ายเมื่อประมาณ4-5 ปีเป็นหมาที่พี่สาวฉันเอาหมา ชื่อ ยู่ยี่ เพื่อนเค้าให้มาอีกที ไอ้ตัวนีเป็นโรคมะเร็งผิวหนังตาย เพราะเป็นหมาเผือก ตอนนั้นฉันยังเรียนอยู่หมอบอกว่าค่ารักษาแพง แม่ก็เลยเอากลับมา ตั้งแต่มันตายไปที่บ้านก็ไม่เคยได้เลี้ยงหมาอีกเลย
จนเมื่อ ประมาณวันที่ 10 ธันวา 48 ตอนเช้า ฉันยังไม่ออกไปหาแม่ (เพราะปกติแม่จะไปทำงานก่อน แล้วฉันถึงเดินไปหาให้แม่ไปส่งที่ท่ารถ) แม่โทรมาว่าเจอหมาที่วัดหน้าตาตลกดี..อืม..น่าคิด ฉันก็เฉยๆไว้ก่อน เดี๋ยวเจอก่อน ถ้าท่าทางดีก็ OK. พอฉันเดินไปหาแม่ ฉันเจอลูกหมา สีน้ำตาลเข้ม-ดำ เป็นหมาตัวเมีย ตัวน้อยๆ หน้าตาเหมือนหมาขี้กลัวเดินอยู่..ฉันคิดขึ้นมาทันที..ใช่ตัวนี้เปล่าว่ะ.. พอแม่เดินมาแม่ก็บอกว่าตัวนี้แหละ..เท่านั้น..ฉันก็เลยขอให้แม่เอามาเลี้ยงที่บ้าน แม่ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวดูก่อน ถ้าตอนเย็นแม่เจอมันอีกครั้งก็จะเอามาเลี้ยง แต่ถ้าไม่เจอก็

เราสองคนแม่ลูก ก็เลยต้องทำกรรมวิธี การตั้งชื่อให้หมาภายในเย็นนั้น ชื่อสารพัดชื่อต่างไหลเข้ามาในหัวฉัน แต่มาสรุปที่ชื่อของแม่ คือ ดอกรัก ฉันถามแม่ว่าทำไมต้องชื่อดอกรัก แม่บอกเพียงว่าก็พอใจตั้งชื่อนี้มีอะไรรึเปล่า อูย.......โดนประโยคนี้เข้าก็ถอยดิ.... ตั้งแต่นั้นมาไอ้เจ้าดอกรักก็เลยเป็นสมาชิกในบ้านฉันทันที
ยินดีต้อนรับ "ดอกรัก"
เมื่อวันที่ : ๒๗ ต.ค. ๒๕๔๙, ๑๔.๐๖ น.
โฮ่งๆ สวัสดีจ้ะ ดอกรัก