![]() |
![]() |
รันนรา![]() |
...บ้านของผมเป็นบ้านไม้กึ่งปูนหลังใหญ่ พื้นยกสูง..พอที่จะกั้นห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ ได้ ชั้นบนเป็นห้องนอนของแม่กับพ่อ.....
ตอน : 1
บ้านของผมเป็นบ้านไม้กึ่งปูนหลังใหญ่พื้นยกสูง..พอที่จะกั้นห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ ได้
ชั้นบนเป็นห้องนอนของแม่กับพ่อ..ขึ้นไปอีกชั้นเป็นห้องผมกับน้องอยู่ติดกัน
ห้องผมจะมีระเบียงยื่นออกจากตัวบ้านไปเล็กน้อย..เป็นที่ที่ผมมักจะใช้นอนเล่นและอ่านหนังสือ
และบางทีผมก็เอาไว้พักสายตา มองลอดกิ่งใบของต้นมะม่วงที่ปลูกเป็นรั้วนั้นไปบ้านข้าง ๆ
ซึ่งมีแต่ป้าชั้นกับลุงขาว..อาศัยกันอยู่เพียงสองคนเท่านั้น
นาน ๆ ทีผมจึงจะมองไปที่บ้านหลังนั้นสักที
****
เพื่อนบ้านหลังนี้ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบ้านของผมเป็นอย่างมาก
แค่กิ่งมะม่วงยื่นเลยเขตเข้าไปหน่อย ลุงขาวก็ช่วยมาตัดให้
ไม่สนใจว่าจะมีดอกมีผลติดอยู่มากน้อยแค่ไหน
แค่ผมเปิดเพลงเสียงดังไปนิด..แกก็ช่วยเตือนด้วยการตะโกนบอกว่าเบา ๆ หน่อยโว้ย
แม่เคยบอกว่าชีวิตของป้ากับลุงคู่นี้น่าสงสาร
ลูกเต้าโตแล้วก็ย้ายหนีไปหมด..เพราะการปากร้ายขี้บ่นของแกนี่แหละ
ลุงขาวเป็นทหารเก่า..เจ้าระเบียบและดุชะมัด
ส่วนป้าชื้นเป็นครู ครูแก่ใส่แว่นเหมือนครูไหวใจร้ายเดี๊ยะเลย
มาวันหนึ่งบ้านนี้ก็มีสิ่งน่าสนใจเกิดขึ้นมา
คืนนั้นประมาณสี่ทุ่ม..ผมก็ได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอด
พอดีผมยังไม่หลับ..นั่งทำการบ้านงุด ๆ อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ
จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงเตรียมสอบเข้ามหาฯลัย..ต้องขยันทำการบ้านและอ่านหนังสือจนดึกเป็นพิเศษ
ด้วยความแปลกใจ..นานเท่าไรแล้วนี่กับการที่จะมีใครมาเยี่ยมป้ากับลุงคู่นั้น
ผมเลยเดินออกไปดูที่ระเบียง มองลอดใบมะม่วงออกไป
เห็นรถยนต์คันหนึ่ง ยี่ห้ออะไรไม่ได้สังเกต สังเกตคนที่ก้าวออกมาจากรถมากกว่า
หนึ่งเป็นชายอายุคงไร่เรี่ยกับพ่อของผม..สองเป็นหญิงอายุก็คงใกล้เคียงกับแม่ของผม
ส่วนอีกหนึ่ง..อุว๊าว!
ผมขยี้ตา
หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ..ขณะที่ตะลึงจ้องมองภาพที่เห็นตรงหน้า
*****
จะบรรยายว่ายังไงดี?
ร่างผอมเล็ก..ในเสื้อยืดขาวลายการ์ตูนสีชมพู ยืนอยู่ใกล้โคมไฟแสงสีส้ม
มันอาบร่างของเธอ..จนผิวขาวใส..ผมดำปรกหน้าผาก..ตาหวานปากแดง..อายุอานามยังคะเนไม่ถูก
แต่พอเหลือบตาลง..กางเกงขาสั้นสีขาวนั้น..ทำให้ผมรู้ว่าเธอคงไม่เด็กกว่าผมไปสักกี่ปี
ขาสวยออกขนาดนั้น
**********
ในอ้อมกอดของเธอมีอะไรชนิดหนึ่ง
สีน้ำตาลเข้ม มองแทบไม่เห็นอันไหนหัวอันไหนหู
เห็นแต่ลิ้นแดงที่แลบออกมา
มันพยายามดิ้นรนให้พ้นอ้อมอกของเธอ..ส่งเสียงงี๊ดง๊าด
เธอจุ๊ปากขมวดคิ้ว..แล้วก็ยอมปล่อยลงบนพื้น
พอเธอยืดกายขึ้น..ผมก็ต้องเปลี่ยนใจ
พร้อมกับการกลืนน้ำลาย..ผมเดาใหม่ว่าเธอคงอายุเท่าผม
ยอมให้แก่กว่าสองปีเลยเอ้า
เอื๊อกส์
**************
เช้าวันนั้นผมเลยต้องตื่นเช้าเป็นพิเศษ
ประตูที่จะเปิดไประเบียงถูกทำงานอีกครั้ง หยั่กไย่ฝุ่นผงร่วงกราว
มันถูกปิดตายมานานแค่ไหนแล้วนี่?
ผมฉวยไม้กวาดมากวาด..ทำเป็นคนขยันแต่เช้า
สายตาก็ชำเลืองข้ามรั้ว..รถคันนั้นยังจอดอยู่..เธอยังไม่กลับแน่ ๆ
เธอคงมาเยี่ยมป้ากับลุงพร้อมกับแม่และพ่อของเธอ..วันนี้เป็นวันหยุด..เธอคงไม่รีบกลับ
แต่ทำไมตื่นสายจัง?
กวาดจนไม่รู้จะกวาดอะไร..เธอก็ยังไม่ตื่น
เลยเอาเสื่อมาปูนอน..ฉวยหนังสือเล่มหนึ่งติดมือมาด้วย
อากาศยามเช้าสดชื่น..เสียงนกกาฟังแล้วเพลินดีจัง
ยกมือที่มีหนังสือขึ้นอ่าน
แล้วก็หลับปุ๋ย
ตกใจตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะได้ยินเสียงหมาเห่า
พร้อมกันนั้นก็ได้ยินเสียงตวาดเล็ก ๆ ของเจ้าของหมา
ค่อย ๆ หรี่ตาดู แล้วก็ใจหายวาบ
เธอมาอยู่ที่ใต้ต้นมะม่วงนั้นตั้งแต่เมื่อไร?
รีบพลิกตัว..บอกตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมต้องแอบดูเธอ
มันตื่นเต้นไงก็ม่ายรุ
แสงยามเช้ายิ่งทำให้ทุกอย่างกระจ่างชัด
สาวน้อยคนนี้ไม่ว่าจะดูมุมไหนก็น่ารักเหลือเกิน
เธอสดใสอยู่ในเสื้อเชิร์ตรัดรูปไร้แขนสีอิฐ ซึ่งช่วยขับเน้นความขาวเนียนของผิวให้เห็นชัดยิ่งขึ้น
เธอกำลังวิ่งตามหมาของเธอ..ซึ่งกำลังกระโดดหยองแหยงแล้วโก่งคอเห่าอย่างเอาเป็นเอาตาย
อ้าว..มันกำลังเห่าผมหรือนี่?!?
เธอส่งเสียงเรียกหมาของเธอ
"รัน..เห่าอะไรอะ..รัน..เงียบนะ!!"
ผมยกมือแตะริมฝีปากตัวเอง..ผมไม่ได้เห่าซะหน่อย
"แน่ะ..ผิดที่หน่อยเดียวทำตัวเหลวไหลใหญ่แล้ว..ฉันบอกให้เงียบไง.."
เจ้าหมาตัวนั้นก็เชื่อฟังเจ้าของเหลือเกิน..มันกระโดนสี่ขาลอยจากพื้นแล้วเห่าอย่างเอาเป็นเอาตาย
โดดหยอง ๆ เหมือนหมาการ์ตูนไม่มีผิด
เธอเหลือบตาขึ้นมอง..มองว่าหมาของเธอเห่าอะไร
ผมหลบวูบ
หลบทำไมตอบไม่ได้..แต่ให้ตาย..ไม่กล้าสบตากับเธอจริง ๆ
"เห่าอะไรนะ..ลูกมะม่วง?..เกิดมาไม่เคยเห็นรึไง?..หรือเห่ามดแดง?.."
มันยังเห่าไม่หยุดยั้ง
"มานี่มา..เห่าอะไรง่าย ๆ อย่างงี้แล้วจะอยู่ที่นี่ได้หรือนี่..เราต้องอยู่อีกหลายวันเชียวนะ..กว่าจะสอบเอ็นท์ฯเสร็จ..."
รู้สึกว่าเธอจะจับหมากระต่ายตัวนั้นได้แล้ว
ได้ยินเสียงมันครางงืดๆ
"เก็บเสียงไว้ดีกว่า..เอาไว้เห่าใครที่ชอบแอบดูชาวบ้าน..หรือถ้าจะให้ดี..กระโดดกัดลูกกระเดือกเลย..รู้ไหม?"
ผมกลืนน้ำลาย ลูกกระเดือกแหลมเปี๊ยบกระดกขึ้นลง ตัดสินใจจะเถียงลงไปว่าผมไม่ได้แอบเสียหน่อย..เธอก็หันหลังเดินจากไป
มีแต่เจ้าหมาตัวนั้น..มันวางสองขาไว้ตรงบ่าของเธอ มองผมเขม็ง..แล้วเห่า
"อ๋อง"
นั่นมันหมาแน่รึเนี่ย?
ผมเก็บภาพนั้นไว้ในหัวใจโดยที่ตัวเองไม่ได้สั่ง
มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ..ยิ่งกว่าชิปตัวใดในโลกจะทำได้
มันเป็นการสั่งการของหัวใจ..ไวเสียกว่าแสง..วาบเดียวเก็บลึกถึงก้นบึ้ง
"ตายล่ะหว่า..ไอ้รัน..เอ็งชื่อเหมือนหมาของเธอเลย..แล้วเธอจะแยกออกรึว่าเอ็งเป็นหมาหรือคน?"
ผมรำพันกับตัวเอง
ดีดผึงจากเสื่อที่นอนนั้น..ทำให้หนังสือกระเด็นหวือออกจากอก
กระทบกับสันกำแพงแล้วกระเด้งตกลงไปในเขตรั้วบ้านเธอ
ผมตกใจ..จะเชื่อไหมนี่ว่าผมไม่ได้ตั้งใจ
เช็ดริมฝีปากตัวเองเล็กน้อย..พระเจ้าเข้าข้าง ซาตานเข้าทางดีแท้
ผมยักคิ้วให้กับตัวเอง
*****
สำรวจตัวเองในกระจก
หนุ่มน้อยตัวสูง..ต้องก้มเล็กน้อยเพื่อดูทรงผม
จริง ๆ ไม่ต้องดูก็ได้..ก็มันตั้งชี้โด่เด่ไปคนละทิศละทาง..มีบ้างที่โน้มลงมาปิดหน้าผาก..คิ้วเข้มเหมือนแม่...ตาโตเหมือนพ่อ..จมูกก็เหมือนพ่อ..แต่ปากหนาเหมือนแม่
ขมวดคิ้วเล็กน้อยให้ดูหล่อเข้าไว้
ยิ้มให้ตัวเอง...สำรวจลักยิ้มที่มีบ้างนิด ๆ พอเป็นพิธี
แล้วใส่เสื้อผ้า
**********
ลงมาเจอแม่..แม่ขยี้ตา
"มาเอาเงินที่แม่นี่.."
ผมงง
"ซื้อไรครับ?"
"ถ่านใส่นาฬิกาไง..มันหมดไปเมื่อไรไม่ยักรู้แฮะ?"
ผมยิ่งงงหนักขึ้น มองไปที่นาฬิกาข้างฝา มันชี้แปดโมงสี่สิบ
"หมดเสียที่ไหนล่ะแม่..ก็เห็นมันเดินแหง่ก ๆ อยู่นั่น.."
"อ้าวเหรอ.." แม่ทำเป็นอุทาน "นึกว่าสองทุ่มกว่า..ไม่น่าเชื่อว่าลูกแม่จะตื่นเช้าในวันหยุดกับเขาได้.."
ผมเพิ่งรู้ว่าเป็นมุกของแม่..หัวเราะถอนฉุน..แกล้งแบมือ
"ไหนละฮะ..เงิน"
"เอาไปทำไรล่ะ?"
"เอาไปซื้อเชือกมาร้อยมุกแม่ไงล่ะ.."
ท่านหัวเราะ
"หิวข้าวไหม?..แม่ไม่รู้ว่าจะตื่นเช้า..เลยยังไม่ได้ทำอะไรไว้ให้.."
ผมส่ายหน้า..ใจนึกถึงมาม่า
"ไม่ล่ะครับ.."
"ยังเหลืออีกห่อ..เอาไหมลูก?"
ผมวิ่งจู๊ดออกนอกประตู..บ้านผมกับมาม่านับเป็นศัตรูกันมาช้านาน
แม่คิดอะไรไม่ออกก็ต้มมาม่าให้ลูกกินได้แทบทุกวัน เรียกได้ว่าเห็นเป็นไม่ได้..ต้องฟาดให้เรียบ
"มาม่า..อาหร่อยยย"
ท่านทำเสียงเลียนแบบโฆษณา
************
ผมเดินเตร่ไปมาแถวหน้าบ้านตัวเองอยู่หลายรอบ
ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะสมเหตุสมผล
การที่มีหนังสือตกลงไปที่รั้วบ้านเธอแล้วนั้น..นั่นเป็นเรื่องที่น่ายินดีชนิดแหกปากตะโกนบอกโลกได้เลย
แต่การที่จะไปยืนกดออด..รอเธอมาเปิดประตู แล้วก็พูดว่า..ขอโทษครับ..ช่วยหยิบหนังสือให้ผมหน่อยได้ไหมครับ..พอเธอหยิบมาให้...แหม..คุณช่างเป็นคนมีน้ำใจดีแท้..ขอเบอร์โทรฯ หน่อยได้ไหมครับ?..นั้นจะทำได้แน่จริงหรือ?
ทำไม่ได้..ผมส่ายหัวพร้อมกับบอกตัวเอง
มือระดับนี้แล้ว..ต้องมีมาดมากกว่านั้น..สมองขบคิดไปมา
แล้วก็นึกออก
ดีดนิ้วตัวเองดังเป๊าะ..เดินไปที่ประตุหน้าบ้านหลังนั้น
กดออด
ในใจซ้อมสคริปท์ไปมา
"หวัดดีครับ..เอ่อ..ไม่ทราบว่า..เอ่อ..พอจะว่าง..เอ่อ..หยิบหนังสือให้ผม..เอ่อ..ที่มันตกอยู่ตรงรั้ว..เอ่อ..ผมชอบคุณจัง.."
ต้องเขกหัวตัวเอง
"ผมทำหนังสือตก..หยิบให้หน่อยนะครับ.."
ยังไม่ทันท่องสคริปท์ได้จบ..เธอก็มายืนที่หน้าประตูรั้ว
ไอ้รันของเธอยังเห่าอ๋อง ๆ
ที่คิดไว้ว่าจะบอกเธออย่างไรเลยลืมไปหมดสิ้น
"นั่นมันหมาหรือว่าชะมด?"
ถามออกไปโดยไม่ทันคิด
เธอหน้าบึ้ง
"มากดออดเพื่อถามแค่นี้ล่ะหรือ?"
ผมพยักหน้า..มันหนักและชาจนบังคับไม่ได้
"เห็นเห่ามาตั้งแต่เช้า..พอดีบ้านผมมีลูกชะม้อยที่แก้การเห่าของชะมดได้ชะงัก..เลยอยากจะเอามาให้ลองดู.."
เธอเลิกคิ้ว
"ชะม้อย?"
ผมพยักหน้า
"ไม่รู้จักหรือ..ใบมันเหมือนชะมวงดอกมันเหมือนชะพลู..ลำต้นสูงใหญ่เหมือนชบา..แต่ว่าผลของมันเป็นฝักแหลม ๆ เหมือนชะแลง..."
เธอเอียงคอ..ดวงตาใสแป๋ว..ยกมือหนีบ X ชื่อไพเราะของเธอไว้
"ต้นบ้าอะไร.."
ผมชี้หน้าเธอ
"ถ..ถ..ถูกต้องนะคร้าบ...."
เธอหัวเราะ
ยื่นหนังสือที่มือมาให้..ผ่านรั้วเหล็กที่เป็นบานประตู
"อยู่บ้านติดกันนี่หรือคะ?"
ผมพยักหน้า รับหนังสือไว้ กล่าวขอบคุณเธอเบา ๆ
"คุณเห็นหรือว่าผมอยู่ตรงนั้น.."
เธอพยักหน้าบ้าง..ดวงตาพราวระยิบราวหนังการ์ตูนญี่ปุ่น
"เห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว?"
ผมใจหาย..เธอเห็นได้ไง?
"คุณนอนไม่ปิดหน้าต่าง.."
ผมตาเหลือกค้าง..ลืมไปว่าหน้าต่างห้องผมตรงพอดีกับหน้าต่างบ้านของเธอ ไม่คิดว่าเธอจะได้อยู่ห้องนั้น
"แสดงว่า..."
เธอพยักหน้า ยิ้มจนตาหยี
"คราวหลังอายฟ้าดินบ้างนะคะ.."
ผมคอตก..เดินลงส้นกลับบ้านราวหุ่นยนต์
ทำไมนะ..ทำไมผมถึงชอบนอนใส่กางเกงชั้นในตัวเดียวด้วย
ทำไมนะ?
*************
เมื่อวันที่ : ๑๔ ธ.ค. ๒๕๔๘, ๒๒.๑๘ น.
อิอิ
มาลงเมนท์ไว้ซะหน่อย
อิอิ