......จันทร์ทิพย์นิมิตเห็นเทวดาและนางฟ้าใส่ชฎาสองตน ปรากฏกายอยู่ในสวนบุปผาชาติที่มีกลิ่นอันหอมจรุง ทั้งสองตนร่ายรำด้วยลีลาอ่อนช้อยงดงามอยู่ตรงหน้า มีปราสาทราชวังสีทองอร่ามอยู่เบื้องหลัง......

ถ้าการต้องตกงานและต้องถูกยึดรถยนต์ที่กำลังผ่อนอยู่เป็นความหวาดวิตกของมนุษย์เงินเดือนโดยทั่วไปละก็ จันทร์ทิพย์ สาวผู้ดูเหมือนจะเคร่งในจริยธรรมและค่อนจะหัวอนุรักษ์ก็มีความวิตกนั่นเช่นกัน...

จันทร์ทิพย์ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์สาวของโรงแรมเอื้องผาลอดจ์ จอดรถยนต์เก่าคันเล็กของเธอไว้หน้าประตูสำนักของพ่อปู่เทพ เธอมองไปยังบ้านไม้ใต้ถุนสูงที่เก่าคร่ำ เชื้อราบนฝาผนังบ้านและคราบน้ำฝนที่เชิงชายจับเป็นด่างดวงมองเห็นได้ชัด หลังคาไม้แป้นเกล็ดมีตะไคร่ขึ้นเขียวเป็นหย่อมๆ ไม้หลายแผ่นหมดอายุแล้ว มีแผ่นสังกะสีสอดรับไว้แทนกันฝนรั่ว

ความเก่านั้นทำให้บ้านหลังนี้ดูขลังและลึกลับ มันอยู่ใต้ไทรต้นใหญ่ แวดล้อมด้วยต้นลำไยเก่าแก่อายุหลายสิบปี หมากไทยสูงระเกะระกะสลับไปกับมะม่วงป่า ทำให้บริเวณบ้านร่มครึ้มเยือกเย็น

จันทร์ทิพย์รู้ทันทีว่ามีกระแสบางอย่างแล่นเข้ามาในตัวเธอ เมื่อก้าวเข้ามาในบริเวณสำนักของพ่อปู่ มันเหมือนกับทุกครั้งที่เธอกำลังย่างก้าวเข้าสู่ประตูบ้านอื่นๆ เพื่อหาคำตอบจากศาสตร์ลี้ลับ อย่างเช่นบ้านอาจารย์กำจัดที่เก่งทางดูดวงแห่งบ้านหนองหอย บ้านป้าศรีพรรณหมอดูไพ่ยิบซีที่หลังวัดอุโมงค์ บ้านลุงบุญทาหมอดูลูกแก้วชื่อดังที่ดอยสะเก็ด และที่กุฏิหลวงพ่อทองวัดบ้านป่าที่สันกำแพงซึ่งดูทางในได้แม่นยำเหมือนตาเห็น

เธอจะรู้สึกขนลุกซู่ทุกครั้งที่ก้าวเข้าไปในสถานที่แบบนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาชีวิตของจันทร์ทิพย์วนเวียนอยู่กับสิ่งลี้ลับ เธอยึดเอาอาถรรพ์และไสยศาสตร์ทั้งหลายเป็นเครื่องชี้นำชีวิตอย่างจริงจัง

จันทร์ทิพย์เดินตรงไปที่บ้านเก่าหลังนั้น หมาไทยสีดำตัวหนึ่งเห่ากรรโชกขึ้น

"มีคนอยู่ใหมคะ ? " เธอร้องถามไปเมื่อมาถึงบันไดบ้าน มีเสียงดุหมา แล้วหญิงชราคนหนึ่งก็เดินออกมาจากในบ้าน

"มาหาอาจารย์ค่ะ ตอนนี้อาจารย์ว่างใหมคะ ?" เธอถามหญิงชราคนนั้น

"อ๋อ เชิญ กำลังว่างพอดี" แล้วหญิงคนนั้นก็พาเธอเข้าไปในห้อง คงเป็นห้องรับแขกเพราะมีเสื่อปูอยู่ด้านหนึ่งและมีหมอนอิงเก่าๆวางอยู่สี่ใบ อีกด้านหนึ่งมีตู้กระจกใส่ธูปเทียนกับของกระจุกกระจิกอื่นๆอยู่เต็ม ข้างฝามีรูปเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงใส่กรอบติดอยู่สามรูป

หญิงชราเชิญให้เธอนั่ง แล้วจัดแจงหาน้ำเย็นมาต้อนรับ และแกก็หายเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่ง ครู่เดียวก็กลับออกมา

"เชิญเข้าไปได้ เชิญค่ะ" หญิงชราคนนั้นบอก
ห้องนั้นเปิดหน้าต่างไว้เพียงบานเดียวจึงดูมืดขมุกขมัว ชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนพรมสีน้ำเงินเข้ม แต่งขาวทั้งชุด ลูกประคำสีดำเป็นมันที่คล้องไว้รอบคอตัดกันกับเสื้อคอกลมสีขาวที่สวมอยู่ มีผ้าขาวพาดอยู่บนไหล่

ชุดขาวทำให้เขาดูเด่นอยู่บนพรมสีเข้มกับบรรยากาศขมุกขมัวนั้น จันทร์ทิพย์ทรุดตัวลงนั่ง ก้มลงไหว้ชายคนนั้น แล้วมองไปที่ที่บูชาข้างๆตัวอาจารย์ ชั้นบนและชั้นรองของโต๊ะหมู่บูชามีพระพุทธรูปปางต่างๆหลายองค์ ที่ชั้นล่างลงมาเป็นรูปปั้นชายแก่มีหนวดเครายาวปิดทองไว้ประปราย ตรงฐานรูปปั้นนั้นมีกระดาษเขียนติดไว้ว่า "พ่อปู่เทพ" ใกล้กันมีรูปปั้นเด็กหัวจุกยืนอยู่ น่าจะเป็นกุมารทอง ! มีด้ายสายสิญจน์กลุ่มหนึ่งพร้อมกับมีดปลายแหลมซึ่งลงอักขระไว้ที่ใบมีด และมีขวดแก้วใบเล็กใส่น้ำมันสีเหลืองวางอยู่ใกล้ๆกัน ส่วนเชิงเทียน ขันน้ำมนต์ กระถางธูปและพานใส่ธูปเทียนวางอยู่ที่พื้นห้อง

"มีปัญหาอะไรละ ?" เสียงอาจารย์ถามขึ้นเบาๆ เป็นเชิงต้อนรับ เสียงนั้นกังวาลมีอำนาจในตัว ผิวเขาคล้ำแต่ก็เนียนสะอาด นัยน์ตาวาวดังตาเสือ ผมยาวดำสนิทที่หวีเรียบถูกรวบไว้ด้านหลัง ดูคล้ายพราหมณ์พิธี

"หนูอยากให้อาจารย์ดูให้หน่อยค่ะ" จันทร์ทิพย์บอกกับชายในชุดขาวสวมลูกประคำ

"อาทิตย์หน้านี้ที่ทำงานเขาจะเอาพนักงานออกเยอะ หนูจะถูกออกด้วยหรือเปล่า" นี่คือสาเหตุที่เธอต้องลางานดั้นด้นมาถึงที่นี่

อาจารย์พยักหน้าช้าๆ เป็นการรับรู้ปัญหา "คุณเกิดวันอะไร ?" เขาถามเธอ จันทร์ทิพย์บอกวันเดือนปีเกิดกับอาจารย์ผิวคล้ำ อาจารย์มองหน้าของเธอเขม็งอยู่ครู่หนึ่งแล้วหลับตาลงช้าๆ นิ่งอยู่พักใหญ่แล้วก็ลืมตาขึ้น

"ไม่ดีเลย ! ปีนี้ราหูทับลัคนา แล้วยังเป็นปีเบ็ญจเพสของคุณด้วย" แล้วอาจารย์ก็บอกต่อไปอีก "ตามตำราพรหมชาติ คุณจะต้องมีไฝเล็กๆที่หน้าอก มันจะเกิดขึ้นพร้อมกับตอนที่มีเรื่องร้ายๆอย่างนี้" เขาไม่ได้ตอบคำถามเธอตรงๆ

จันทร์ทิพย์ใจหาย หลังจากเรียนจบเธอใช้เวลาถึงสี่ปีที่โรงแรมใหญ่นี้ จึงได้เลื่อนตำแหน่งจากพนักงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์มาเป็นตำแหน่ง "ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์" ของโรงแรม ไม่มีใครอยากถูกออกจากงานในตอนนี้แม้ว่าจะได้เงินชดเชย ในสถานการณ์อย่างนี้การหางานใหม่เป็นเรื่องที่แสนยาก ที่ไหนๆมีแต่ให้คนออก และรถยนต์คันเล็กของเธอก็เพิ่งจะผ่อนมาได้เพียงสองเดือนเท่านั้น

"อาจารย์มีทางช่วยใหมคะ ? " เธอถามด้วยท่าทีกระวนกระวาย
"ต้องให้พ่อปู่เทพช่วย แต่เอายังนี้ดีกว่า คุณกลับไปตรวจดูตามที่บอกไว้ก่อน ถ้ามันมีจริงค่อยกลับมาทำพิธี วันนี้พอเท่านี้ก่อน" อาจารย์บอกกับเธอ และเป็นการจบการดูดวงชะตาไปในตัวสำหรับวันนี้ เธอเสียค่ายกครูเพียงสิบเก้าบาทใส่ลงในพานธูปเทียนบูชาพ่อปู่ตามที่อาจารย์บอก

จันทร์ทิพย์กลับมาบ้าน และโดยทันทีเธอรีบตรวจดูร่างกายตามที่อาจารย์บอกไว้ แล้วก็ต้องตกใจ จริงอย่างที่อาจารย์บอกไม่ผิด ! หน้าอกด้านซ้ายมีไฝสีน้ำตาลแดงอยู่เม็ดหนึ่ง มันเล็กมาก เธอไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อนเลย เล็กขนาดหัวเข็มหมุดเท่านั้น...

"เป็นยังไงละ มีหรือไม่มี ?" อาจารย์ในชุดขาวถามเสียงเรียบเมื่อเธอกลับไปที่สำนักพ่อปู่อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

"มีจริงๆค่ะ อาจารย์ หนูอยากให้อาจารย์ช่วย" เธอรีบบอกทันที

"ได้ ! จะขอให้พ่อปู่เทพช่วย ต้องลบมันออกด้วยน้ำมันจันทน์" แล้วเขาก็บอกให้เธอจุดธูปจุดเทียน ว่านะโมสามจบ ให้นึกถึงพ่อปู่เทพ อธิษฐานขอความช่วยเหลือจาก พ่อปู่ ธูปที่เธอใช้จุดคงจะผสมกำยานไว้ด้วย จึงส่งกลิ่นหอมประหลาด
จากนั้นอาจารย์ก็หลับตาลงในท่าสมาธิ ตัวตั้งตรงไม่ไหวติงดังรูปปั้น พักหนึ่งตัวของเขาเริ่มสั่น แขนขาเกร็ง หายใจดังฝืดฟาดๆ จันทร์ทิพย์มองดูร่างของอาจารย์ด้วยใจเต้นระทึก แต่อีกพักเดียวร่างนั้นก็เป็นปกติ แล้วก็ลืมตาขึ้น...

"เข้ามาใกล้ๆสิลูก ! ...ไฝนี้มันร้ายนักพ่อจะเอาออกให้" เสียงของอาจารย์เปลี่ยนไป กลายเป็นเสียงคนแก่ พ่อปู่เทพแน่ๆ ! จันทร์ทิพย์ขนลุกด้วยความศรัทธาพร้อมขยับตัวเข้าไปใกล้ร่างพ่อปู่ ยังไม่รู้ว่าพ่อปู่จะทำยังไงต่อไป

พ่อปู่เทพเอื้อมไปหยิบขวดน้ำมันสีเหลืองใสจากที่บูชา เปิดฝามันออก
"ทำเสื้อให้หลวมหน่อยสิ ! พ่อจะทาน้ำมันจันทน์ลบให้ เข้ามาอีกลูก เข้ามาอีก " เสียงแหบเครือของพ่อปู่สั่ง

จันทร์ทิพย์หน้าแดง ทีนี้เธอรู้แล้วว่าพ่อปู่เทพจะช่วยเธอแบบไหน แต่จะยังไงก็เถอะ ! ถ้ามันแลกกันได้กับเรื่องตกงานเธอก็ยอมที่จะแลก จันทร์ทิพย์ "ทำเสื้อให้หลวม" ตามที่พ่อปู่สั่งด้วยความขวยเขิน

"ข้างไหนละ ?" พ่อปู่เทพถาม "ข้างซ้ายค่ะ" เธอตอบเสียงเบา
พ่อปู่บอกให้เธอเอามือประสานไว้บนตัก เอาน้ำมันจันทน์ในขวดเทใส่ปลายฝ่ามือขวาของพ่อปู่เอง กลิ่นหอมของมันกระจายไปทั่วห้องที่มืดสลัวปนกับกลิ่นธูปที่ผสมกำยาน

"ก้มตัวลงสิลูก ! เข้ามาใกล้ๆพ่ออีก หลับตาเสีย" เสียงพ่อปู่สั่ง !

แล้วพ่อปู่ก็สอดฝามือเข้าไปที่หน้าอกข้างซ้ายของเธอ อีกมือหนึ่งจับหัวเธอไว้ไม่ให้เงยขึ้น จันทร์ทิพย์ก้มหน้าและหลับตานิ่ง เธอได้ยินเสียงพ่อปู่บริกรรมคาถาเบาๆในขณะที่ใช้น้ำมันจันทน์ถูวนไปทั่วบริเวณไฝร้าย พ่อปู่ทำซ้ำไปซ้ำมาเพื่อให้น้ำมันซึมเข้าเนื้อ แล้วก็ขยายวงใช้ฝ่ามือวนไล้กว้างออกไปจนทั่วหน้าอกด้านซ้ายของจันทร์ทิพย์ มีเสียงเป่า "เพี๊ยง" ลงที่กระหม่อมของเธอเป็นระยะๆ เสียงบริกรรมคาถาดังขึ้นๆ
จันทร์ทิพย์เริ่มรู้สึกว่าตัวชาและร้อนผ่าวไปทั่วร่าง เคลิบเคลิ้มคล้ายกับฝัน เสียงบริกรรมคาถาของพ่อปู่กลับดังแต่เพียงแว่วๆ... ใจเธอเต้นแรง ! คงเป็นด้วยอาคมขมังที่ลงกระหม่อมผสมกับฤทธิ์ของน้ำมันจันทน์ เสียงสวดมนต์ของพ่อปู่ยังไม่หยุด และการลบไฝร้ายก็ยังทำต่อไป ...

ฤทธิ์ของมนต์ตราทำให้มือทั้งสองข้างของจันทร์ทิพย์สั่นระริกจนต้องกำมันเข้าไว้ด้วยกันแน่น เธอใจหวิวๆเหมือนกำลังจะเป็นลม ! ความรู้สึกเริ่มเลือนลาง จันทร์ทิพย์นิมิตเห็นเทวดาและนางฟ้าใส่ชฎาสองตน ปรากฏกายอยู่ในสวนบุปผาชาติที่มีกลิ่นอันหอมจรุง ทั้งสองตนร่ายรำด้วยลีลาอ่อนช้อยงดงามอยู่ตรงหน้า มีปราสาทราชวังสีทองอร่ามอยู่เบื้องหลัง...

แล้วพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิก็จบลง เสียงอาจารย์ดังขึ้นมาแทนเสียงสวดมนต์ของพ่อปู่เทพ

"เอาละ ! เสร็จแล้ว คงจะหมดเคราะห์เสียที ไฝนี้คุณจะเห็นมันอยู่อีกสักพัก แต่ความจริงพ่อปู่ลบมันออกไปแล้ว" จันทร์ทิพย์ยังหน้าแดงซ่านด้วยฤทธิ์มนต์ขลังของ พ่อปู่ เธอรีบจัดเสื้อแสงให้เข้าที่ ก้มลงกราบที่รูปปั้นพ่อปู่ หยิบเงินที่เตรียมใส่ซองมาวางลงในพานธูปเทียนหน้าที่บูชาอย่างครั้งก่อน แต่คราวนี้ร้อยสิบเก้าบาท แล้วก็ไหว้ลาอาจารย์ เธอกลับไปทำงานด้วยความสบายใจขึ้นกว่าเดิมมาก

คืนนั้นเอง จันทร์ทิพย์ฝันไปว่าพ่อปู่เทพมาทำพิธีกรรมนั้นให้กับเธอถึงที่บ้านอีกครั้ง บนเตียงนอนด้วยซ้ำไป ในฝันนั้นพิธีที่พ่อปู่ทำนานกว่าเมื่อตอนกลางวัน และเมื่อใกล้พิธีศักดิ์สิทธิ์จะจบ จันทร์ทิพย์ก็เห็นเทวดากับนางฟ้าอย่างเมื่อกลางวัน คราวนี้ทั้งสองตนร่ายรำเข้าก่ายกอดรัดรึงกันเป็นพันละวัน ในสวนที่เดียรดาษด้วยมวลบุปผาชาติ เธอตกใจตื่นขึ้นเมื่อพ่อปู่ออกจากฝันไปแล้ว กายไหวสะท้านด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน

จันทร์ทิพย์ฝันอย่างคืนแรกในอีกหลายคืนต่อมา เธอตื่นขึ้นกลางดึกพร้อมกับความมั่นใจในตัวเองที่เพิ่มขึ้นทุกวัน พ่อปู่เทพช่างเมตตาเธอเหลือเกิน !

แล้วก็ถึงวันพิพากษา ! ก่อนบ่ายโมงหน่อยหนึ่ง เสมียนแผนกบุคคลเดินเข้ามาในครัวสต๊าฟของโรงแรม เขาตรงไปที่บอร์ดติดประกาศ พนักงานโรงแรมที่นั่งอยู่ในห้องอาหารของครัวสต๊าฟพากันยืนขึ้น คนที่ยังกินข้าวกลางวันไม่เสร็จหยุดอาหารกลางวันไว้เพียงแค่นั้น ทุกคนใจเต้นและเดินเข้ามารุมล้อมบอร์ดประกาศ

เสมียนคนนั้นมีหน้าที่นำทั้งข่าวดีและข่าวร้ายมาติดที่บอร์ดประกาศนี้ เขาเป็นเหมือนกับยมทูตซึ่งจะเอาชื่อคนที่ได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกมาบอกคนในโรงแรมสี่ดาวนี้

แผ่นประกาศของโรงแรมที่มีชื่อพนักงานดีเด่นประจำเดือนถูกหยิบออกมาติดก่อน มันเป็น"บัญชีแผ่นทอง" ไม่มีคนสนใจ ! ต่อมาก็เป็น "บัญชีหนังหมา" ! เขาหยิบรายชื่อคนที่จะถูกเลิกจ้างออกมาติดเป็นรายแผนกไป

จันทร์ทิพย์เดินตามคนอื่นๆเข้าไปดูประกาศเหล่านั้น เธอใจระทึกเหมือนกับพนักงานทุกคน ขออย่าให้มีชื่อเธออยู่ในประกาศนั้นเลย " เจ้าประคุณ ! พ่อปู่ช่วยลูกด้วยเถิด !" เธอนึกอธิษฐาน

พวกพนักงานเบียดเสียดกันเข้าตรวจดูรายชื่อ คนที่พบชื่อตัวเองก็ถอยออกมาช้าๆพยายามซ่อนความผิดหวังไว้ในหน้า บางคนก้มหน้าลงแล้วแหวกวงเพื่อนออกมาเงียบๆ ไม่ยอมสบตาใคร ที่เป็นพนักงานหญิงจะมีน้ำตาคลอ พวกเธอนึกไปถึงลูกๆที่จะต้องมีแม่เป็นคนตกงาน ตรงนั้นมีแต่ความรันทดของพนักงานโรงแรมเอื้องผาลอดจ์

จันทร์ทิพย์กวาดตาดูรายชื่อในแผ่นประกาศของแผนกเธอ ไม่มีชื่อเธออยู่ในนั้น ! เธอยืนตรวจดูถึงสองรอบจนแน่ใจแล้วถอนใจช้าๆอย่างโล่งอกแล้วค่อยๆ แหวกเพื่อนๆที่ยังรุมล้อมประกาศนั้นออกมา... สาธุ ! พ่อปู่เทพช่วยเธอไว้ได้จริงๆ

คืนนี้จันทร์ทิพย์ก็ฝันถึงพ่อปู่เทพอีก ครั้งนี้พ่อปู่ทำพิธีลบไฝร้ายให้เธอที่หน้าอกทั้งสองข้าง ! ทั้งยังทำแปลกใหม่กว่าเดิม แล้วคราวนี้ก็ช่างเนิ่นนานเสียเหลือเกิน นานกว่าทุกๆคราว...ใจของจันทร์ทิพย์เต้นระรัว เนื้อตัวเกร็งด้วยฤทธิ์แห่งมนตรา !

เมื่อตอนพิธีใกล้จะจบเธอก็ได้นิมิตเห็นเทวดากับนางฟ้าคู่เดิม กำลังอยู่ในสวนบุปผาสวรรค์ที่บานสะพรั่ง หมู่ผึ้งพากันบินว่อนเข้าเคล้าเกสร เทวดากับนางฟ้าทั้งสองตนเริงระบำเกี่ยวกระหวัดกันด้วยท่วงทีลีลาที่พิสดารพันลึก อย่างที่เธอไม่เคยนึกมาก่อน... จันทร์ทิพย์ผวาตื่นขึ้นกลางดึกพร้อมกับเหงื่อที่เปียกโชกทั่วทั้งร่าง ! รู้สึกอ่อนระโหยประหนึ่งใจจะขาด

ตอนเช้าขณะที่กำลังจะอาบน้ำ จันทร์ทิพย์พยายามเพ่งดูไฝที่พ่อปู่เทพลบพิษไปแล้วจากกระจกเงาว่ามันจะจางลงไปหรือยัง... ดูมันจางลงไปนิดหนึ่งแล้ว แต่ที่หน้าอกข้างขวา คล้อยลงไปข้างล่างสักหน่อยนั่นสิ กลับมีไฝผุดขึ้นมาอีกเม็ดหนึ่ง ! ใหญ่กว่าเม็ดข้างซ้ายหน่อยหนึ่งด้วยซ้ำไป

จันทร์ทิพย์หนาวสะท้านอยู่หน้ากระจก ใจสั่นระริกขึ้นมาในบัดดล เธอนึกไปถึงพิธีกรรมที่พ่อปู่ทำให้เป็นพิเศษเมื่อคืนนี้ สาธุ ! พ่อปู่ช่างล่วงรู้เสียนี่กระไร ใจของจันทร์ทิพย์เต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธาอย่างล้ำลึกในตัวพ่อปู่เทพ ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจเรื่องตกงานอีกแม้แต่นิดเดียว และโดยส่วนลึกแล้วกลับกลัวว่าไฝเม็ดใหม่นี้จะจางหายไปเสียด้วยซ้ำ !

เมื่อวันที่ : 20 พ.ค. 2548, 10.43 น.
จินตนาการกระเจิงเลยค่ะ อ่านแล้วบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง