...พรุ่งนี้เขาคงจะขุดทองที่ซ่อนเอาไว้ขึ้นมา อาจจะเป็นสร้อยทองเส้นโปรดของพอล่าที่มีเหรียญรูปหัวใจซึ่งมีตัวหนังสือว่า "รักเธอ" แล้วเขาคงจะไปทำมหันตกรรมกัน ตะแกสงสารทั้งสองคน โดยเฉพาะพอล่า เธอคงจะต้องรอชดใช้กรรมที่ทำไว้ตลอดชาตินี้ หรือไม่ก็ชาติหน้า ! เจ้าปีเ...

ลมหนาวต้นฤดูของปีนี้เริ่มพัดมาแล้ว คนทำสวนที่ต้องการความหนาวเย็นสำหรับพืชผลของเขาพากันเตรียมตัว ที่ปลูกไม้ผลเตรียมบังคับให้ต้นไม้ออกดอก ที่ปลูกผักเมืองหนาวเตรียมแปลงเพื่อหว่านเมล็ด

ปีเตอร์กับพอล่าและชายสูงอายุเจ้าของสวน สาละวนอยู่กับงานทั้งวัน ช่วยกันใส่ปุ๋ยและรดน้ำฉีดยา พอเย็นลงก็แยกกันจากสวนกลับที่พักและทำงานอื่นต่อ ชายผมสีดอกเลาทำกับข้าวเย็นให้ตัวเอง ปีเตอร์ไปรดน้ำผักสวนครัวที่ปลูกไว้ แล้วกลับมารดน้ำดอกไม้ข้างบ้านของตะแก พอล่าหุงข้าวและทำ "แกงผักกาด" เหมือนเมื่อกลางวัน เหมือนเมื่อเช้า และเหมือนเกือบจะทุกมื้อของวันก่อนๆ เตรียมไว้ให้ปีเตอร์กับตัวเธอ

เดือนหนึ่งๆทั้งสองคนจะกินข้าวกับผักกาดอย่างเดียวประมาณยี่สิบห้าวัน เครื่องปรุงแกงผักกาดของพอล่าคือ ผักกาดจอ น้ำปลาและน้ำพริกแกง หรือไม่ก็ผักกาดจอ กะปิกับพริกสองสามเม็ด เอาผัดกับน้ำมัน อย่างนี้เรียกว่า "คั่วผักกาด" วันที่เหลือจากยี่สิบห้าวันอาจเป็น แกงหอยขมที่งมได้ในสระบ้าง ตีนไก่ปิ้งซื้อที่หน้าวัดบ้าง หรือปลากระป๋องถ้าเป็นวันเงินเดือนออก

"ผมเก็บเงิน เจ้านาย" ปีเตอร์บอก เมื่อชายสูงอายุทำท่าแปลกใจที่ถามทีไร ปีเตอร์กับพอล่าก็ตอบว่ากินแกงผักกาด หรือไม่ก็คั่วผักกาดแทบทุกมื้อ ตะแกกลัวว่าทั้งสองผัวเมียจะเป็นโรคขาดอาหารตายเสียก่อนที่จะได้ขนเงินขนทองกลับไปเยี่ยมบ้านที่เมืองนาย

แล้วเย็นวันหนึ่งปีเตอร์ก็เดินมาหาชายสูงอายุที่ครัว เขาถือโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังมาด้วยเครื่องหนึ่ง

"เจ้านาย ฟังหน่อยเปิ้ลอู้ว่ายังใด" ปีเตอร์กดปุ่มที่โทรศัพท์แล้วยื่นให้ชายสูงอายุ ตะแกรับเอามาฟัง..."ขออภัยคะ ยอดเงินของคุณคือศูนย์บาทศูนย์สตางค์ กรุณาเติมเงินด้วยคะ !"

"ปีเตอร์ เขาบอกว่าเงินหมดแล้วต้องไปซื้อบัตรมาเติม นายเอาโทรศัพท์ ใครมา ?"

"ผมซื้อมาเองเจ้านาย เป็นของเก่าเขาบอกว่ายังอู้ได้แถมหลายเดือน" ปีเตอร์บอก เขากับพอล่ากินแกงผักกาด กับคั่วผักกาดเกือบจะอย่างเดียวเท่านั้นมากว่าสองเดือน เพื่อจะได้ซื้อโทรศัพท์มือถือเก่ามาเครื่องหนึ่ง ไว้โทรคุยกับเพื่อนร่วมเชื้อชาติ บางครั้งเขาก็จะได้ข่าวจากพ่อแม่ที่บ้านซึ่งต้องเดินทางไปโทรอีกเมืองหนึ่งที่มีเครือข่ายติดต่อกับทางเมืองไทยได้ การสื่อสารไร้พรมแดนจริงๆ มันพากิเลสแพร่สะพัดไปทั่วโลก ไม่แยกชั้นวรรณะ เชื้อชาติและศาสนา !

ตั้งแต่นั้นมาปีเตอร์ก็จะต้องมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นอีกเดือนละสามร้อยบาท เป็นค่าบัตรเติมเงินโทรศัพท์ แต่ดูเขากับพอล่าก็มีความสุขดี ปีเตอร์มาถามชายผมสีดอกเลาบ่อยๆ เมื่อเขามีปัญหากับตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ปุ่มกดของโทรศัพท์ และแกก็คิดว่าอีกไม่นานคงจะต้องเปิดโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษอีกแล้ว

เพื่อไม่ให้เงินที่เติมในแต่ละเดือนเหลือจนถูกตัดทิ้งไป ปีเตอร์จะต้องพยายามใช้โทรศัพท์มือถือของเขาโทรมาถึงแกบ้าง บางครั้งเขาจะโทรมารายงานจากปลายสวนว่า "เจ้านาย ผมรดน้ำชมพู่เสร็จแล้ว จะให้ทำอะไรต่อ ?" คำถามอย่างนี้เมื่อก่อนเขาจะเดินมาถามเอง....

แล้วเวลาสำคัญที่ชายสูงอายุเจ้าของสวนรอคอยก็มาถึง ชมพู่ในสวนออกดอกและติดลูกอีกครั้ง ไม่นานงานห่อชมพู่ก็เริ่มขึ้น ตะแกบอกทั้งสองหนุ่มสาวผัวเมียว่า ปีนี้ถ้าขายชมพู่ได้กำไรดีจะมีรางวัลให้

สามคนนายจ้างหนึ่งกับสองลูกจ้างหนุ่มสาว มุดเข้ามุดออกอยู่ใต้ต้นชมพู่ ช่วยกันห่อมันอย่างตั้งอกตั้งใจ ชายสูงอายุนึกถึงกำไรที่จะมาเลี้ยงปากท้องแก และเงินเดือนที่จะต้องจ่ายให้ลูกจ้าง

ระหว่างทำงานบางทีปีเตอร์ก็จะมีคำถามแปลกๆ มาถามชายสูงอายุ "เจ้านาย คนกรุงเทพเขาทำงานอะไรกัน ? " หรือบางที "เจ้านาย อกตัญญูแปลว่าอะไร ? " เขาจำมาจากละคร ที.วี. ที่ดูไปเมื่อคืนนี้ ...

พอล่าฮัมเพลงรักไทยใหญ่เบาๆเมื่อมุดไปมุดมาอยู่ใต้ต้นชมพู่ ขณะที่กำลังห่อลูกของมัน เธอกำลังคิดถึงทอง ถ้าได้รางวัลจริงก็จะซื้อทอง เธอชอบแต่ทองเท่านั้น !

ปีเตอร์ร้องเพลงสอดรับเสียงฮัมของพอล่า เมื่อเขาปีนกิ่งชมพู่เพื่อช่วยห่อลูกที่อยู่สูงขึ้นไป ปีเตอร์กำลังคิดถึงมอเตอร์ไซค์ สมบัติที่ชายหนุ่มทั้งหลายใฝ่ฝันที่จะได้เป็นเจ้าของ บางครั้งทั้งสองคนจะร้องเพลงประสานกันเบาๆ และหัวรั่วต่อกระซิกขณะที่กำลังห่อชมพู่จากต้นหนึ่งไปอีกต้นหนึ่ง... มันเป็นช่วงเวลาของงาน ความสุขและความหวัง !

ชายสูงอายุยิ้มเมื่อได้เห็นปีเตอร์กับพอล่าทำงาน เหมือนนกน้อยสองตัวร้องเพลงโลดเต้นไปตามกิ่งไม้ แกนึกไปถึงหนังอินเดียตอนที่พระเอกกับนางเองกำลังเริงระบำและร้องเพลงกันอยู่ในสวนดอกไม้ หนังที่แกเคยดูสมัยหนุ่ม...!

แต่แล้วอีกสองวันต่อมา ทั้งปีเตอร์และพอล่าก็เปลี่ยนไป ปีเตอร์เงียบ ไม่พูดเล่น ไม่ช่างซักช่างถามอย่างเคย พอล่าก็ซึม หน้าเธอหมองลง นกน้อยจากป่าใหญ่แห่งรัฐฉานหยุดร้องเพลงเสียแล้ว ! ชายสูงอายุสังเกตว่าบางทีทั้งสองคนจะหยุดห่อชมพู่และเถียงกันเบาๆ แล้วพอล่าก็ร้องไห้ คงจะเป็นเรื่องขัดแย้งระหว่างผัวเมีย ตะแกไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วย

เหตุการณ์ยังเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้การทำงานในสวนเงียบกริบ ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีเสียงคุยกัน มีแต่เสียงเหยียบใบไม้กรอบแกรบเท่านั้น จนกระทั่งงานห่อชมพู่รุ่นแรกจบลง เย็นนั้นปีเตอร์เดินเข้ามาหาชายผมสีดอกเลาที่ครัว

"เจ้านาย พอล่าบ่มีเลือดมาสองเดือนแล้ว" ปีเตอร์บอก ชายสูงอายุรู้สึกตกใจ นี่เองคือที่มาของความเงียบ !

"เอ๊ะ ! ก็นายเคยว่าพอล่ากินยาคุมอยู่ไม่ใช่หรือ ?"

"ตอนนั้นยาหมด ผมบ่าได้มาขอเบิกเงินเจ้านายไปซื้อ " ปีเตอร์เล่าถึงที่มาของเรื่อง แล้วเขาก็พูดต่อ

"ผมจะขอยืมเงินเจ้านาย ผมจะไปเอาออก" ชายสูงอายุเย็นวาบไปทั้งตัว แต่แกก็ไม่แน่ใจว่าฟังปีเตอร์พูดถูกหรือผิด

"อะไรนะ ? นายจะทำอะไร ? "

"ผมจะให้พอล่าไปเอาออก" คราวนี้ชัดเจน

"แล้วนายจะไปทำที่ไหน ? รู้ที่หรือ ?" ตะแกถาม

"รู้ เจ้านาย ผมโทรศัพท์ไปถามเพื่อนแล้ว เขาพาไปได้ ผมขอยืมเจ้านายสาม พันบาท" ปีเตอร์บอก ชายผมสีดอกเลานิ่งเงียบ รู้สึกตื่นตระหนกกับเรื่องที่ได้ยิน แกไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ปีเตอร์กำลังจะทำ

"เฮ้ย ! ปีเตอร์ บาปนะ ! นายเคยบวชมาแล้ว บาปมากจริงใหม ? เราไม่ให้เงินนายไปทำอย่างนั้นหรอก" แกไม่ขอร่วมบาปกับปีเตอร์และพอล่า

"ถ้าจะทำ นายไปขุดทองที่ซ่อนเอาไว้เอาไปขาย แล้วไปทำกันเอง อย่ามาเอาเงินเรา" แกยืนยันอีกครั้งที่จะไม่ร่วมทำบาป

"เจ้านาย ถ้าไม่ไปเอาออกผมจะเอาเงินที่ไหนไปออกลูกที่โรงหมอ แล้วไผจะเลี้ยงลูก พอล่าก็ต้องทำงาน มีลูกอ่อนไผจะจ้าง เจ้านายจะจ้างผมคนเดียวเงินก็บ่าพอใช้ ผมมาทำงานเมืองไทยจะเอาเงินกลับไปให้พ่อแม่ที่บ้าน ผมมีลูกบ่าได้" ปีเตอร์บอกเหตุผลของเขา ชายสูงอายุนิ่งไป แกเริ่มจะเข้าใจ ตะแกไม่ได้นั่งอยู่ในปัญหาจริงๆอย่างเขา แต่ก็ยังรับกับสิ่งที่ทั้งสองคนจะทำไปไม่ได้

"ปีเตอร์ อย่าเพิ่งไปทำ รออีกสามวัน ! " ชายสูงอายุประวิงเวลาทำบาปของสองหนุ่มสาวไว้ แต่ก็คิดไม่ออกว่าถ้าแกเป็นปีเตอร์กับพอล่าแกจะทำยังไงดี พอล่ายังเด็กมากเพิ่งจะอายุสิบแปดเท่านั้น ไป "เอาออก" แล้วทำงานต่อที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าเอาไว้ก็ต้องขุดทองทั้งหมดขึ้นมาขายแล้วยังมีปัญหาเรื่องงานตามมาอีกมากมาย

หรือว่าจะให้พอล่ากลับบ้านไปออกลูกแล้วค่อยกลับมาใหม่ แต่จะมาได้อีกหรือเปล่า ! กว่าพอล่าจะกลับมาปีเตอร์ก็อาจจะมีเมียใหม่ไปแล้ว ตะแกสับสนไม่น้อยกว่าเจ้าของปัญหา และก็ยังหาทางออกให้เขาไม่ได้

ระหว่างการรอคอยซึ่งไม่รู้ว่ารออะไร ทั้งสามคนต่างก็วิตกกระวนกระวาย ทั้งสวนมีแต่ความเงียบ พอล่าดูจะหนักกว่าเพื่อน เธอเซื่องซึมไม่พูดไม่จา

คืนวันที่สาม วันสุดท้ายของการประวิงเวลา ชายสูงอายุนอนคิดถึงทางออกของเรื่องนี้เหมือนเมื่อคืนก่อนๆ แกยังคิดไม่ออกเหมือนเดิมว่าจะให้ทั้งสองคนทำยังไง แกสลดใจมากกับสิ่งที่ปีเตอร์กับพอล่าจะต้องทำ พรุ่งนี้เขาคงจะขุดทองที่ซ่อนเอาไว้ขึ้นมา อาจจะเป็นสร้อยทองเส้นโปรดของพอล่าที่มีเหรียญรูปหัวใจซึ่งมีตัวหนังสือว่า "รักเธอ" แล้วเขาคงจะไปทำมหันตกรรมกัน ตะแกสงสารทั้งสองคน โดยเฉพาะพอล่า เธอคงจะต้องรอชดใช้กรรมที่ทำไว้ตลอดชาตินี้ หรือไม่ก็ชาติหน้า ! เจ้าปีเตอร์ด้วย
เสียงโทรศัพท์ในบ้านดังขึ้นตอนสี่ทุ่ม ตะแกแปลกใจ ใครนะโทรมาดึกๆอย่างนี้ !

"ฮัลโหลเจ้านาย " ปีเตอร์นั่นเอง ! เขาคงโทรมาจากกระต๊อบที่พัก
"พอล่าเลือดมาแล้ว มันหยุดไปเองแล้วมันก็มาเอง พ่อล่ายังบ่มีลูก เจ้านาย !" เสียงปีเตอร์ละล่ำละลักมาจากโทรศัพท์มือถือของเขา

ชายสูงอายุวางโทรศัพท์ลงช้าๆ แกเดินกลับไปที่เตียงนอน มุดเข้าไปในผ้าห่ม แล้วหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว...

เมื่อวันที่ : 04 เม.ย. 2548, 14.58 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...