![]() |
![]() |
Anantra![]() |
...ความรักคือเกมส์อย่างหนึ่ง...ฉันคิดแบบนั้นเสมอ...ย่อมมีผู้แพ้และผู้ชนะ..เพราะฉะนั้นถ้าเกิดวันนึงฉันจะต้องพ่ายแพ้...ฉันก็จะยอมรับมันด้วยความเต็มใจ...
ถึงแม้ฉันจะมั่นใจในตัวอ้น แต่มันก็อดที่จะกังวลไม่ได้ มันยังไม่แน่ใจว่าบทสรุปจะเป็นเช่นไร ยังไม่มีอะไรแน่นอนคืนนั้นฉันแทบจะไม่ได้นอน ภาพของปอ และคำที่เธอต่อว่าฉันยังคงวนเวียนอยู่ในความนึกคิดตลอด ฉันรู้สึกผิด ผิดที่รับปากแล้วทำไม่ได้ ผิดที่ฉันเห็นแก่ตัวเก็บเขาไว้ โดยไม่นึกถึงใจเธอ...
แต่จะทำยังไงได้...ความรักคือเกมส์อย่างหนึ่ง...ฉันคิดแบบนั้นเสมอ...ย่อมมีผู้แพ้และผู้ชนะ..เพราะฉะนั้นถ้าเกิดวันนึงฉันจะต้องพ่ายแพ้...ฉันก็จะยอมรับมันด้วยความเต็มใจ ถึงแม้ว่ามันจะต้องเจ็บปวด แต่ก็ยังดีกว่าที่จะต้องให้เขามาจำใจอยู่กับฉัน มันเจ็บปวดยิ่งกว่า...
ตอนนี้ฉันไม่อยากสนใจอะไรทั้งนั้น เธอต่างหากที่ทำตัวเองทั้ง ๆ ที่รู้..เธอต่างหากที่เป็นคนผิด ที่คิดจะมาแย่งคนรักของฉัน...มันก็สมควรแล้วนี่กับสิ่งที่เธอได้รับ ฉันจะมานั่งคิดมากทำไม ฉันควรจะดีใจด้วยซ้ำที่คนที่เขาเลือกคือฉัน
เหตุการณ์กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง อ้นพยายามที่จะทำตัวให้เป็นปกติเหมือนวันก่อน ๆที่เรารักกัน มีแต่ใจฉันเท่านั้นที่มันรู้ดีว่า มันไม่เหมือนเดิม ทั้ง ๆ ที่เขาก็รับปากกับฉันอย่างหนักแน่น
คนทั้งคน อ้นจะจัดการกับปัญหานี้ได้ยังไง มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ แม้แต่ตัวฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะหาทางออกจากปัญหานี้อย่างไรดี...
อ้นพยายามที่จะไม่พูดถึงเรื่องนั้น ฉันเองก็เหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่มันอยากจะรู้ใจจะขาด แต่มันก็ไม่กล้าที่จะถามออกไป มันไม่อยากทำลายบรรยากาศดีดีที่เราอยู่ด้วยกัน...
จนวันหนึ่งอ้นบอกกับฉันว่า คุณแม่รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว พรุ่งนี้อ้นกับคุณแม่ของเขาจะไปจัดการเรื่องนี้กัน
"อร..ไม่ต้องเป็นห่วงนะ คุณแม่รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว และท่านก็เข้าใจ ท่านจะพยายามพูดกับผู้ใหญ่ของปอให้" อ้นบอกเพื่อให้ฉันสบายใจ
ถึงแม้จะอย่างนั้นก็เถอะ ฉันก็ยังไม่วางใจอยู่ดี มันคงจะไม่ง่ายดายอย่างที่เขาพูด
วันนี้แล้ว...วันที่จะรู้ผลว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร...
ฉันนั่งรออย่างใจจดใจจ่อ ไม่เป็นอันทำงาน เหลือบมองดูโทรศัพท์อยู่เรื่อยว่าเมื่อไหร่ อ้นจะโทรมา...
เลิกงานแล้ว แต่เขาก็ยังไม่โทรกลับมา...เขาบอกกับฉันเมื่อเช้าตอนโทรมาว่าให้ฉันรอโทรศัพท์เขา ถ้าธุระเสร็จเร็วเขาจะมารับฉัน แต่จนป่านนี้เขาก็ยังไม่โทรมา
ฉันนั่งรอเขาไปเรื่อย ๆ....
แต่จนแล้วจนเล่า เขาก็ยังไม่โทรมา ฉันเลยตัดสินใจกลับ...ไม่อยากโทรไป...ไม่รู้ว่าเขาจะว่างรับสายหรือเปล่า...
ระหว่างทาง ฉันนั่งถือโทรศัพท์ไปตลอดทาง เผื่อว่าเขาจะโทรมา แต่ก็ไม่มี...
ถึงบ้านแล้ว...เขาก็ยังไม่ติดต่อกลับมา...ฉันได้แต่รอ....รอจนเผลอหลับไป...
อ้นมาหาฉันที่บ้าน...
แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว...
เขามากับผู้หญิงคนนั้น...
เขาจูงมือเธอคนนั้นอย่างทะนุถนอม...เดินเข้ามาหาฉัน...และบอกกับฉันว่า...
"อ้นเสียใจนะอร..เราคงอยู่ด้วยกันไม่ได้...ลืมอ้นซะเถอะ" อ้นพูดพร้อมกับจูงมือเธอคนนั้นเดินจากไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมา
ปอหันมามองฉัน แววตาของเธอยิ้มเยาะ เหมือนเธอกำลังจะบอกกับฉันว่า ในที่สุดเธอก็คือผู้ชนะในเกมส์รักครั้งนี้...
"อ้น..อ้นอย่าทิ้งอรไป..อ้น" ฉันร้องไห้ปานจะขาดใจ...ตะโกนร้องเรียกเขาอย่างไม่อายใคร
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก...มันเป็นแค่ความฝัน...แต่มันเป็นฝันร้าย...ฝันร้ายที่เหมือนจริง...
ฉันคงจะคิดมากไปก็เลยฝัน แต่มันก็ยังน่ากลัว ฉันจำสายตาคู่นั้นได้ สายตาของผู้ชนะ...ของเธอคนนั้น
แต่จนป่านนี้แล้ว เขาก็ยังไม่โทรมา ฉันร้อนใจอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น อยากรู้บทสรุป
หรือว่ามันจะเป็นจริงอย่างฝันเมื่อกี้ ฉันน้ำตาคลอขึ้นมาทันที ใจหายวาบเมื่อคิด...
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ฉันจะทำยังไงต่อไป ฉันจะอยู่ยังไง...ยิ่งคิด น้ำตามันก็ยิ่งไหล..
ฉันกลัว..กลัวจะต้องเสียเขาไป...ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม...
สว่างคาตา ฉันนอนไม่หลับตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจากความฝัน มันไม่สามารถข่มตาให้หลับได้
มันทรมานกับความคิดของตัวเองที่ฟุ้งซ่าน คิดไปต่าง ๆ นานา
ฉันไม่สามารถจะทนต่อไปได้อีก..ฉันกดโทรศัพท์ไปหาเขาทันที...
สัญญาณโทรติดดังขึ้น...ยังไม่มีคนรับ...
ดังนานพอสมควร...สักพักก็มีคนรับสาย...
"สวัสดีค่ะ" ปลายสายพูดขึ้นมา เป็นเสียงผู้หญิง
"เอ่อ...ขอโทษนะคะ สงสัยคงจะโทรผิด" นี่ฉันกดผิดไปได้ยังไงกันนะ
ระหว่างที่ฉันกำลังจะวางหู ปลายสายรีบพูดขึ้นมาทันที
"คงโทรไม่ผิดหรอกค่ะพี่อร...พี่อ้นกำลังหลับอยู่น่ะค่ะ มีอะไรจะฝากไว้ไม๊คะ"
ฉันจำเสียงนั้นได้ในทันที ปอนั่นเอง แล้วทำไมเธอถึงยังอยู่กับอ้น แล้วยังมารับโทรศัพท์ของเขาอีก เธอมีสิทธิ์อะไร...ขนาดฉันเอง คบกับเขามาตั้งนาน ฉันยังไม่เคยที่จะรับโทรศัพท์แทนเขาเลยสักครั้ง นอกเสียจากว่าเขาจะอนุญาต...
ฉันตกใจ ทำอะไรไม่ถูก วางหูทันที...ฉันยังคงอึ้งกับสิ่งที่ได้รับรู้ ได้แต่ถามตัวเองว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้ มีแต่คำว่า ทำไม ลอยอยู่เต็มไปหมด...
ฉันยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่...น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว...ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น หรือร่ำไห้...
สักพักโทรศัพท์เครื่องเดิมก็ดังขึ้น...หน้าปัดแสดงชื่อเขาของฉัน...อ้นนั่นเอง...
ฉันกดรับโทรศัพท์ทันทีโดยอัตโนมัติ...
"อร..เมื่อกี๊ อรใช่ไม๊..." อ้นถามขึ้นมาทันที
ฉันซึ่งได้แต่ยืนเงียบ...นิ่งอยู่ได้สักพัก...ก็ร้องไห้โฮออกมาทันที...
"อ้นทำแบบนี้กับอรทำไม....หลอกอรทำไม...ฮือ ฮือ...ทำไม"..
"มันไม่ใช่อย่างที่อรคิดนะ อรกำลังเข้าใจผิด" เขาพยายามอธิบาย
แต่ฉันไม่อยากจะฟังอีกต่อไปแล้ว เขายังจะมาแก้ตัวอะไรอีก มันฟังไม่ขึ้น
"อร..อรรออ้นก่อนนะ...อ้นกำลังจะไปหาอร..จะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง...รอผมก่อนนะ"
พูดจบเขาก็รีบวางหูไป
ฉันได้แต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น...มันหยุดไม่ได้...
สักพักเขาก็มาถึง...เขาขึ้นมาหาฉันทันที...
"อร ผมขอโทษ ฟังผมก่อนนะ" เขาพูด
ฉันได้แต่ร้องไห้ ส่ายหัวปฏิเสธที่จะรับฟัง...มันเหนื่อย และทรมาน ฉันคงจะทนมันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
"อ้นขอโทษที่ไม่บอกอรก่อน..กว่าอ้นจะถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว คิดว่าอรคงจะหลับไปแล้ว เลยไม่ได้โทรบอก...ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้" เขาพยายามอธิบายให้ฉันเข้าใจ
"เรื่องทั้งหมดเรียบร้อยแล้วนะอร...ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันแล้ว รวมทั้งอ้นกับปอด้วย...มันเป็นข่าวดี อรควรจะดีใจนะครับ" เขาพูดอีก
แต่มันยากที่จะรับฟัง...แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ ทำไมถึงตามเขากลับมาด้วย นี่น่ะเหรอข่าวดี...
"เรื่องเมื่อเช้า อ้นอธิบายได้นะครับ...อรฟังอ้นก่อนนะ" เขาพูด
ฉันมักจะใจอ่อนกับเขาเสมอ ไม่เคยมีครั้งไหนที่ฉันจะโกรธเขาได้นาน
"ร้องไห้ ขี้มูกโป่งเหมือนเด็ก ๆ อีกแล้ว" เขาพูดพร้อมกับจับหัวฉันอย่างอ่อนโยน
อ้นจะรู้ใจฉันเสมอ เขารู้ว่าควรจะรับมือกับฉันยังไงเวลาที่ฉันโกรธ...
เขายื่นกระดาษทิชชู่ให้ฉันเช็ดน้ำตา แล้วก็ปล่อยให้ฉันสงบสติอารมณ์สักพัก...
"ไหนล่ะ อธิบายมาสิ" ฉันพูดอย่างงอน ๆ
เขาแอบขำฉันเล็ก ๆ จนฉันรู้สึกอาย
"ขำอะไรอ่ะ.."
"ก็ขำอรน่ะสิ...ขี้งอนจริง ๆ เลย" เขาพูดอย่างอารมณ์ดี
มันพลอยทำให้ฉันอดขำตัวเองไปด้วยไม่ได้ ฉันคงไม่มีวันที่จะโกรธเขาได้แน่ ๆ
อ้นบอกฉันว่า ช่วงนี้ปอจะมาอยู่ที่บ้านเขาไปก่อน จนกว่าเด็กจะคลอด เพราะที่บ้านของปอไม่ค่อยมีคนอยู่ คุณแม่เลยเป็นห่วงเกรงว่าจะไม่มีคนคอยดูแล จึงชวนให้มาอยู่ด้วยกัน และที่ทำให้ฉันโล่งอกก็คือ ปอจะนอนห้องเดียวกับคุณแม่ของอ้น ไม่ใช่ห้องอื่น
อ้นยังอธิบายให้ฉันฟังอีกว่า ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ด้วยดี...แต่...
แต่มีข้อแม้....คือ อ้นจะต้องแต่งงานกับปอ ไม่มีการผูกมัด ใด ใดทั้งสิ้นระหว่างพวกเขา
เมื่อเด็กคลอดออกมาอ้นจะเป็นอิสระทันที และปอก็จะได้ไม่ถูกมองว่าท้องไม่มีพ่อ ไม่ต้องอับอายขายหน้าคนอื่น ๆ ส่วนเด็กในท้องจะว่ายังไงค่อยตกลงกันอีกทีหนึ่ง
สิ่งที่เขาพูด มันทำให้ฉันถึงกับอึ้ง ฟังดูเหมือนง่าย แต่มันยากที่จะทำใจยอมรับ ฉันคงทนไม่ได้ที่อ้นจะต้องไปเข้าพิธีแต่งงานกับคนอื่น มันยากจริง ๆ สำหรับการทำใจในเรื่องนี้
อ้นมองหน้าฉันเหมือนกับต้องการฟังคำตอบจากฉัน ว่าฉันจะว่ายังไงกับเหตุการณ์ที่มันจะต้องเกิดขึ้น...
บอกตรง ๆ ว่าฉันตกใจมากในสิ่งที่เขาบอก...มันคงจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ สำหรับเขา แต่ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากจะขึ้นชื่อว่าแย่งสามีของคนอื่น และก็คงไม่มีผู้หญิงคนไหนเมื่อแต่งงานไปแล้วอยากจะเลิก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการแต่งงานที่ถูกจัดฉากขึ้นเพื่อแก้หน้าของทั้งสองฝ่ายก็ตามที
"แล้วงานแต่งงานจะเริ่มเมื่อไหร่คะ" ฉันถามออกไปด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ
"เดือนหน้าแล้ว...คุณแม่ไม่อยากให้รอนาน เพราะปอท้องเกือบจะ 4 เดือนแล้ว อยากให้มันเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"
เดือนหน้าเหรอ?...มันเร็วเกินไป ฉันยังไม่ทันได้ทำใจเลย...ทำไมมันถึงได้เร็วแบบนี้...
นี่ฉันจะต้องยอมรับมันหรือนี่..คนรักของฉันกำลังจะไปแต่งงานกับคนอื่น...มันช่างน่าสมเพชตัวเองจริง ๆ...
ฉันนั่งก้มหน้ารับฟังเรื่องราวต่าง ๆ จากเขา น้ำตาแห่งความเสียใจมันไหลออกมาอย่างไม่สามารถจะหยุดได้...ทำไมฉันจะต้องตกอยู่ในสภาพนี้...ทำไมโชคชะตาจะต้องเล่นตลกกับฉันด้วย ทำไม...
อ้นได้แต่นั่งมองหน้าฉัน จับมือฉันไว้ ซับน้ำตาให้ฉัน...เขาจะสามารถรับรู้ถึงความเศร้าเสียใจที่อยู่ในใจฉันได้หรือเปล่า...เขาจะเข้าใจในความรู้สึกของฉันรึเปล่า...
มันเจ็บไปหมด แต่อะไรจะเจ็บกว่ากันระหว่างยอมเสียสละ กับ ทนอยู่อย่างเจ็บช้ำ
มันคงเท่ากัน มันแทนกันไม่ได้ ใครไม่เคยเจอก็คงไม่รู้ไม่มีวันเข้าใจ
ฉันรักเขามาก รักจนหมดหัวใจ แต่เรื่องนี้ก็ทำให้ฉันลำบากใจมากเช่นกัน ฉันคงทนรับมันไม่ไหว
"อร ขอเวลาหน่อยนะ" ฉันบอกเขาทั้งน้ำตา "ขอเวลาให้อรได้ทบทวนอะไรต่ออะไรบ้าง เรื่องทั้งหมดอรเข้าใจ เข้าใจดีทุกอย่าง แต่อ้นคงไม่รู้ ว่ามันทรมานแค่ไหน ที่ต้องทนดูคนที่ตัวเองรักไปแต่งงานกับคนอื่น" ฉันเริ่มร้องไห้ พูดไปร้องไป ระบายความอัดอั้นในใจให้เขาฟัง
เขากอดฉันไว้แน่น...
"อ้นอยากจะบอกกับอรอีกครั้ง ไม่ว่าอรจะตัดสินใจยังไง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อ้นก็ยังยืนยันคำเดิมว่า อ้นรักอร และจะรักตลอดไป ไม่มีใครมาแทนที่อรได้...ขอให้อรจำไว้" เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ครั้งนี้คงจะเป็นครั้งที่หนักที่สุดที่ฉันจะต้องตัดสินใจว่า ฉันควรจะอยู่ หรือควรจะไป...
ฉันรู้ตัวดีว่าฉันคงทนไม่ได้ที่จะเห็นเขาทั้งสองแต่งงานกัน...
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการแต่งงานแค่ชั่วคราวก็ตามที...
เมื่อวันที่ : 12 ม.ค. 2548, 14.27 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...