![]() |
![]() |
Anantra![]() |
...ฉันเข้าใจดีถึงความเจ็บปวดที่เธอได้รับ มันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับฉัน แตกต่างกันแค่เหตุและผลของมันเท่านั้น......
หัวใจแทบจะหยุดเต้น เหมือนทุกอย่างหยุดอยู่แค่นั้น ฉันแทบไม่มีแรงที่จะประคองตัวเองให้ยืนอยู่ได้ สิ่งที่ฉันได้ยินมันคืออะไรกัน มันเป็นเรื่องจริง หรือผู้หญิงคนนั้นจงใจจะแกล้งฉัน"พี่อร พี่อรต้องช่วยปอนะคะ..ปอไม่รู้จะทำยังไงแล้ว..."
เธอคนนั้นยังคงพูดต่อ ร้องไห้ คร่ำครวญ อ้อนวอนให้ฉันช่วยเธอ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เธอพยายามจะพูดให้ฉันเห็นใจเธอ...แต่หูฉันอื้อเกินกว่าที่จะได้ยินคำเหล่านั้น
เธอจะให้ฉันทำยังไง ในเมื่อฉันก็เสียใจไม่แพ้เธอ ถ้าความเจ็บปวด เสียใจสามารถนับออกมาเป็นตัวเลขได้ ความเจ็บปวดของฉันก็คงไม่น้อยไปกว่าเธอ อาจจะมากกว่าซะด้วยซ้ำ..
แต่มันต่างกัน..ต่างกันตรงที่ว่าเธอกำลังจะมีลูก ลูกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาคนที่ฉันรัก
"แล้ว...จะให้พี่ช่วยยังไง" ฉันถามออกไป คำถามโง่ ๆ ที่ฉันรู้คำตอบอยู่แล้วว่าฉัน
ควรจะต้องทำยังไง
"พี่อร ต้องเลิกกับพี่อ้น...นะพี่อรนะคะ" เธอบอก กึ่งขอร้อง
"แล้วอ้นรู้เรื่องนี้หรือยัง" ฉันพยายามที่จะเข้มแข็งถามออกไป ทั้งๆ ที่ใจกำลังจะแตกสลาย
"รู้แล้ว...แต่เขาห้ามไม่ให้ปอบอกพี่ เขาไม่อยากให้พี่เสียใจ เขากลัวพี่จะเลิกกับเขา....นะพี่อรนะคะ หนูไม่รู้จะทำยังไงแล้ว"
นี่เขารู้แล้วเหรอเนี่ย แต่ทำไมถึงไม่บอกฉัน เขาคิดจะปกปิดฉันไปถึงเมื่อไหร่ แล้วถ้าฉันเกิดแต่งงานกับเขาไปก่อนที่จะรู้เรื่องนี้ มันจะเป็นยังไงต่อไป ไม่ยุ่งวุ่นวายไปกันใหญ่เหรอ...
ฉันรู้สึกโกรธเขาขึ้นมาทันทีที่เขาปกปิดความจริง เขาทำแบบนี้ทำไม ไม่นึกถึงใจฉันเลย เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำแบบนี้กับฉัน
"ปอไม่ต้องห่วงหรอก..ยังไงพี่ก็ต้องเลิกกับเขา" ฉันพูดออกไปทั้งน้ำตา ไม่รู้ว่ามันไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่
"ขอบคุณมากนะคะพี่อร..ขอบคุณจริง ๆ" เธอพูดไป สะอื้นไป
"ไม่ต้องคิดมากนะ..เดี๋ยวจะมีผลกระทบต่อเด็กในท้อง ทำใจให้สบาย"
ฉันพูดออกไปจากความรู้สึกจริง ๆ จากใจที่ปวดร้าว มันคงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดที่ฉันควรจะทำ ฉันเข้าใจดีถึงความเจ็บปวดที่เธอได้รับ มันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับฉัน แตกต่างกันแค่เหตุและผลของมันเท่านั้น
เธอเจ็บปวดที่เขาไม่เลือกเธอ ทั้ง ๆ ที่เธอรักเขาจนหมดหัวใจ รักจนยอมได้ทุกอย่าง
ส่วนฉันเจ็บปวดที่โดนเขาหักหลัง หลอกลวงจนถึงนาทีสุดท้าย
ถึงตอนนี้ฉันเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่า อ้นอยากจะแต่งงานกับฉันจริง ๆ เขาอาจจะแค่อยากหนีปัญหาที่เขาเป็นคนก่อเท่านั้น แต่มันก็คงไม่สำคัญอะไรอีกแล้วล่ะไม่ว่าเขาจะตั้งใจหรือไม่ ถึงยังไงฉันก็ต้องเลิกกับเขาอยู่ดี
ฉันจะบอกพ่อกับแม่ว่าอย่างไร เมื่อตะกี้ฉันเพิ่งยืนยันกับท่านทั้งสองอยู่เลยว่า ฉันมั่นใจที่จะแต่งงานกับเขา เขาคือคนที่ฉันเลือกแล้ว
ฉันได้แต่ร้องไห้ ร้องมันอยู่อย่างนั้น มันคงเป็นสิ่งเดียวที่ฉันทำได้ตอนนี้
"กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง......." เสียงนาฬิกาปลุกดังมาแต่ไกล เสียงค่อย ๆ ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาจนฉันต้องตื่น...
วันนี้แล้วสินะ ที่อ้นกับคุณแม่ของเขาจะมาคุยเรื่องแต่งงานของเรา งานแต่งงานที่เป็นไปไม่ได้
ฉันบอกพ่อกับแม่ว่าถ้าอ้นมาถึงให้กลับไปก่อน เพราะฉันไม่ค่อยสบาย ยังไม่พร้อมที่จะตกลงอะไรทั้งนั้น
แปลกที่พ่อกับแม่ยินยอมแต่โดยดี โดยปราศจากคำถามใด ๆ ท่านคงจะรับรู้ได้จากดวงตาที่บวมช้ำของฉัน
หลังจากนั้นฉันก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง...ร้องไห้...ฉันคงทำได้ดีที่สุดแค่นั้น
อ้นกับคุณแม่ของเขาคงจะมาถึงแล้ว ฉันจำเสียงรถได้ เขาจะสงสัยไหมนะว่าทำไมฉันถึงไม่ลงไปพบเขา เขาจะรู้รึยังว่าฉันรู้แล้ว เรื่องของเขากับผู้หญิงคนนั้น..
ฉันแอบมองเขาผ่านทางหน้าต่าง เห็นแม่เดินออกไปส่งพวกเขาที่หน้าบ้าน ขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
วันนี้เขาแต่งตัวสุภาพเรียบร้อยมากกว่าปกติ ส่วนคุณแม่ของเขาก็แต่งตัวสวย ดูเนี้ยบไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หรือทรงผม พวกเขาคงจะให้เกียรติฉันและครอบครัว ทำให้มันถูกต้องอย่างเป็นทางการ
น้ำตามันเริ่มไหลออกมาอีกแล้ว ถ้าเรื่องไม่เป็นแบบนี้ ป่านนี้ฉันคงจะนั่งเคียงคู่อยู่กับเขา นั่งฟังผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตกลงพูดคุยกันถึงวันอันแสนสุขของเราสอง
ฉันแอบเห็นสีหน้าที่ผิดหวังของเขา ก่อนกลับเขาเหลือบมองขึ้นมาทางหน้าต่างห้องนอนของฉัน ฉันรีบปิดม่านลงทันที เขาคงรู้ว่าฉันโกหกเรื่องไม่สบาย แล้วเขาจะให้ฉันทำยังไงในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ ฉันคงแต่งงานกับเขาไม่ได้
สักพักคุณแม่เดินเข้ามาในห้อง ฉันยังคงนอนร้องไห้อยู่บนเตียง คุณแม่เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ ฉันลูบหัวฉันเบา ๆ อย่างอ่อนโยน ฉันโผเข้าไปกอดแม่ที่ตัก ร้องไห้...
"แม่ไม่รู้หรอกนะว่าลูกมีเรื่องอะไรกัน คนเราถ้าคิดจะร่วมชีวิตกันแล้ว ต้องมีความอดทน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้อภัย แม่อยากให้เราคุยกันนะลูก การเงียบไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดี ลูกสองคนคบหากันมาก็นาน ถ้ามันไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ยกโทษให้กันเถอะนะลูกนะ"
ฉันทำได้อย่างเดียวคือร้องไห้ ฉันไม่กล้าบอกแม่เรื่องที่อ้นไปทำผู้หญิงท้อง ไม่กล้าบอกใครทั้งนั้น
ฉันเอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง เฝ้าแต่คิดวกไปวนมาถึงเรื่องราวของเรา มันเจ็บปวด มันทรมานเกินกว่าที่จะรับไหว ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงต้องมาเกิดขึ้นกับฉันด้วย ทำไมอ้นถึงไม่ยอมบอกความจริงกับฉัน เขาทำแบบนี้ทำไม
ทุกอย่างมันค่อย ๆ ถูกเฉลยออกมาจากความนึกคิดของฉันเอง หลายครั้งที่เขามาช้า คุยโทรศัพท์บ่อยขึ้น แต่ฉันไม่เคยเอะใจอะไร ช่วงหลัง ๆ ที่เขาดูแปลกไป ดูเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เขาคงคิดเรื่องผู้หญิงคนนั้น
เขาคงไม่รักฉันแล้ว เขาถึงได้ทำแบบนี้ แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร ความรักความอบอุ่นที่ฉันสัมผัสได้ แววตาของความห่วงใยจากเขา สิ่งเหล่านั้นมันคงไม่จริง ฉันคงคิดไปเองฝ่ายเดียว
เสียงโทรศัพท์มือถือดังไม่หยุด มันดังติดต่อกันมาหลายรอบแล้ว แต่ฉันก็ปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น ไม่รับ....มันไม่ใช่ใครนอกจากเขา เขาคงอยากจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ฉันไม่อยากรับ ไม่รู้จะพูดอะไร มันพูดไม่ออก มันคงไม่มีประโยชน์ที่จะคุย หรือปรับความเข้าใจอีกต่อไปแล้ว มันไม่มีทางอื่น...
เขายังคงพยายามโทรหาฉัน สลับกับส่งข้อความ แต่ฉันไม่แม้แต่จะเปิดอ่านหรือรับ...
ฉันยังคงร้องไห้ไม่หยุด เหมือนกับเสียงโทรศัพท์ที่มันก็ดังไม่หยุดเหมือนกัน มันเหมือนจะขาดใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ ฉันควรจะทำยังไง บอกตรง ๆ ว่าฉันยังทำใจไม่ได้ มันยังไม่อยากยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น มันเร็วเกินไป ฉันไม่เคยเตรียมใจมาก่อนเลย ไม่เคยแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ
เสียงโทรศัพท์เงียบไปแล้ว อ้นคงหมดความอดทนที่จะโทรหาฉันอีกต่อไป ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู 43 missed call และ 12 Messages ทุกเบอร์ล้วนแล้วแต่เป็นเขา ฉันค่อย ๆ กดอ่านทุกข้อความอย่างช้า ๆ...
จนถึงข้อความสุดท้าย...
"ถ้าอรไม่ยอมรับโทรศัพท์ ผมจะไปหาเดี๋ยวนี้"
ได้ยินเสียงรถของเขามาแต่ไกล ฉันรีบไปโผล่หน้าต่างมองดู เขาจริง ๆ ด้วย นี่เขากล้ามาจริง ๆ เหรอเนี่ย
เขามาถึงแล้ว และกำลังเดินเข้ามาในบ้าน...
ได้ยินเสียงคุณแม่บอกอ้นว่า ฉันไม่สบาย แต่อ้นก็ยังยืนยันจะขอพบฉันให้ได้..
คุณแม่คงใจอ่อน ยอมให้เขาขึ้นมาหาฉัน...
"อร ทำไมทำแบบนี้ ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์ ผมรู้นะว่าคุณโกหกเรื่องไม่สบาย" อ้นพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสียทันทีที่เห็นหน้าฉัน
"เป็นอะไรรึเปล่าอร ร้องไห้ทำไม" น้ำเสียงของเขาอ่อนลงทันที เขาคงตกใจที่เห็นว่าฉันกำลังร้องไห้
ฉันได้แต่เงียบ ไม่แม้แต่จะมองหน้าเขา..ไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของฉัน แต่น้ำตานี่สิ มันไม่ยอมหยุดไหล ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ..
อ้นเข้ามานั่งคุกเข่าข้าง ๆ ฉัน เขาคงจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาถึงได้เงียบไป ไม่ถามต่อ ได้แต่นั่งเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ ฉัน
"อ้น เราคงต้องเลิกกันแล้วนะ" ฉันพูดขึ้นมาก่อน
"ไม่นะอร ไม่นะ.. ยังไงอ้นก็จะไม่เลิกกับอร" เขารีบพูดขึ้นมาทันที พร้อมกับจับมือฉันไว้แน่น
ฉันได้แต่ร้องไห้ มันสะเทือนใจ เหมือนใจจะขาด ฉันรักเขามาก ไม่อยากเลิกกับเขาเหมือนกัน แต่เขาจะให้ฉันทำยังไง ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้
"ไม่ได้หรอกอ้น...อ้นยังมีภาระที่ต้องกลับไปดูแล เชื่ออรนะ" ฉันพยายามทำใจแข็งพูดออกไปทั้งน้ำตา
เขามองหน้าฉันอย่างวิงวอน ไม่อยากให้ฉันทิ้งเขาไป แต่มันจะมีทางไหนที่ดีกว่านี้อีก มันไม่มี...
"อ้นไม่อยากเลิกกับอร อ้นรักอร..อรอยู่ข้าง ๆ อ้นนะ อย่าทิ้งอ้นไป" เสียงของเขาสั่นเครือ จับมือฉันไว้แน่น
"...อยู่กับอ้นนะ อย่าทิ้งอ้นไป" เขากำลังร้องไห้ น้ำตาผู้ชาย ฉันเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
อ้นคุกเข่าก้มหน้าร้องไห้อยู่ตรงนั้น มันทำให้ฉันร้องไปพร้อม ๆ กับเขา มันเจ็บปวดและทรมาน ที่ต้องจากกันทั้ง ๆ ที่ยังรัก...มันเจ็บยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
"อ้น...อ้นต้องเข้มแข็งนะ...กำลังจะเป็นพ่อคนอยู่แล้ว...อย่าร้องไห้" ฉันพูดไปสะอื้นไป...
เราสองคนกอดกันร้องไห้อยู่อย่างนั้น...มันคงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้กอดเขาแบบนี้ เขาเป็นเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน เขาเป็นได้ทั้งเพื่อนที่ดีที่สุด และก็เป็นคนรักที่ดีที่สุด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราสองคนจะต้องมาลงเอยแบบนี้ เหมือนฟ้าดินกลั่นแกล้ง บางทีฉันกับเขาอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อคู่กัน ต่อให้พยายามสักแค่ไหนก็ไม่มีทางเป็นไปได้
"อร...รออ้นก่อนนะ อ้นจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เราจะต้องได้อยู่ด้วยกัน ขอเพียงแต่อรยังคงรัก และเชื่อมั่นในตัวผม"
อ้นดูจริงจัง จนฉันรู้สึกกลัว ฉันคิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าเขาจะทำยังไงต่อไป ส่วนตัวฉันเองก็เริ่มลังเล....ใช่ฉันยังคงเชื่อมั่นในตัวเขา ฉันรักเขามากเกินกว่าจะตัดใจ ฉันไม่รู้ว่าจะอยู่ได้ยังไงเมื่อไม่มีเขาอยู่เคียงข้าง
ฉันควรจะตัดสินใจยังไงดี มีแค่สองทางเท่านั้น คือ ให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง เผื่อทุกอย่างมันจะดีขึ้น แล้วฉันกับเขาก็จะได้อยู่ด้วยกัน กับตัดใจเพื่อความถูกต้อง แต่ฉันคงจะต้องเสียใจ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะทำใจได้ อาจจะตลอดชีวิต
"อ้นทำผิดไปแล้ว และอ้นจะไม่ยอมทำผิดอีกเป็นครั้งที่สอง ขอเพียงแต่อรให้อภัย...กลับมาเป็นกำลังใจให้อ้นเหมือนเดิมนะครับ" เขาจับมือฉัน มองหน้าฉันเหมือนกับต้องการคำตอบ สายตาของเขาแน่วแน่ ทั้ง ๆ ที่มันยังมีคราบน้ำตาติดอยู่ แต่มันบ่งบอกได้ถึงความจริงใจที่เขามีให้กับฉัน
ฉันพยักหน้าตอบเขา...ทั้ง ๆ ที่ในใจมันยังลังเล...แต่ฉันไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ ฉันรักเขามาก รักจนยอมได้ทุกอย่าง ความรักมันมีอิทธิพลเหนือทุกสิ่ง
ฉันใช้ความรักทั้งหมดที่มีตอบตกลงกับเขา..ความรักอย่างเดียวจริง ๆ
อะไรจะเกิดก็ช่าง รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันต้องการเขา..และเขาก็เลือกฉัน..เรารักกัน คงไม่มีอะไรจะมาขวางกั้นความรักที่เรามีให้ต่อกันได้...
เมื่อวันที่ : 27 ธ.ค. 2547, 20.20 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...