![]() |
![]() |
Anantra![]() |
...ถ้าวันนั้นฉันไปงานนั้นกับเขาก็คงดี ถ้าฉันไม่ติดทำthesisที่จะต้องส่งในวันรุ่งขึ้น ฉันคงไป เหตุการณ์นี้ก็คงไม่เกิด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า 5ปีที่เราคบกันมันจะจบลงเพียงแค่วันนั้นที่ฉันพลาดไป แค่วันนั้น วันเดียว เท่านั้น......
ตรู๊ด..ตรู๊ด..เสียงโทรศัพท์มือถือดังแต่เช้า ฉันที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ในผ้าห่มอุ่น ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ มือไขว่คว้าไปยังโต๊ะข้างเตียง เอื้อมหยิบนาฬิกาปลุกขึ้นมาดู
" 8 โมง ใครกันนะโทรมาแต่เช้า" ฉันรำพึงพร้อมกับลุกขึ้นอย่างงัวเงียไปรับโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง..หน้าปัดโทรศัพท์กำลังกระพริบแสดงชื่อคนที่ฉันคุ้นเคย..
" อ้นเหรอ? โทรมาแต่เช้าเชียว" ฉันพูดไปอย่างอารมณ์ดี
"................" ปลายสายเงียบสนิท
"อ้น...ทำไมเงียบล่ะ" ฉันถามอย่างสงสัย
"เอ่อ..อร..เราเลิกกันเถอะนะ"
ฉันเงียบไปชั่วขณะ อึ้งไปกับคำพูดของเขา บางทีหูฉันอาจจะเพี้ยนไปก็ได้
"อ้นขอโทษ..อ้นมันไม่คู่ควรกับอร"
ฉันยังคงเงียบ สับสน ไม่เข้าใจ ทำไม ในใจคิดวนอยู่อย่างนั้น
"มันเกิดอะไรขึ้นคะ" ฉันกลั้นใจถามอีกครั้ง
"อ้นคิดเรื่องนี้มานานแล้วนะ ถึงเวลาแล้วที่อ้นควรจะพูดความจริง ไม่อยากให้อรเสียใจ ถ้ามารู้ทีหลัง" เขาเงียบไปสักพัก แล้วก็เริ่มพูดต่อ
"อ้นติดต่ออยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง เขาเป็นรุ่นน้องของอ้นเองตอนมัธยม เราเจอกันเมื่องานเลี้ยงรุ่น เขารักอ้นมาก แม้แต่เรื่องของอร เขาก็รู้ แต่เขาก็ไม่ว่าอะไร อ้นสงสารเขา อ้นขอโทษนะอร หวังว่าเราคงจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นะครับ"
อ้นแฟนคนปัจจุบันของฉันกำลังบอกเลิกฉัน เราคบกันมานานตั้งแต่่มหาวิทยาลัย สิ่งที่ฉันเคยสงสัย ต่าง ๆ นา ๆ กำลังจะกลายเป็นเรื่องจริง...
ใช่แล้วฉันนึกออกแล้ว เขาเคยเปรย ๆ เรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งให้ฉันฟังหลังจากที่เขาไปงานเลี้ยงรุ่นในวันนั้น แต่ฉันไม่ค่อยจะได้สนใจฟังเท่าไหร่ คิดว่าคงไม่มีอะไร เพราะเขาก็มักจะเล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไรให้ฉันฟังอยู่เป็นประจำ
ตั้งแต่นั้นมีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไป ถึงแม้จะไม่เด่นชัด แต่ฉันก็สามารถสัมผัสได้ถึงมัน ความรักที่จืดจางลง ฉันมักจะคิดอยู่เสมอว่ามันไม่มีอะไรหรอกเราคบกันมานาน มันก็ต้องมีบ้าง ความเข้าใจเท่านั้นที่จะช่วยให้ความรักคงอยู่ ฉันมักจะเชื่อกับทฤษฎีนี้ที่ผู้ใหญ่ หรือตามหนังสือต่าง ๆ มักจะบอกแบบนี้ และฉันก็เห็นด้วยกับมัน
ถ้าวันนั้นฉันไปงานนั้นกับเขาก็คงดี ถ้าฉันไม่ติดทำthesisที่จะต้องส่งในวันรุ่งขึ้น ฉันคงไป เหตุการณ์นี้ก็คงไม่เกิด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า 5ปีที่เราคบกันมันจะจบลงเพียงแค่วันนั้นที่ฉันพลาดไป แค่วันนั้น วันเดียว เท่านั้น...
ฉันเงียบ เงียบ เงียบสนิท ไม่มีเสียง ไม่มีแรงแม้แต่จะอ้าปาก..ปากแห้ง หูอื้อ..ทำไมท้องมันถึงได้ปั่นป่วนแบบนี้ ใจเต้นรัวในอกอย่างกับจะระเบิด..
"ฮัลโหล ฮัลโหล อร ฟังอยู่รึเปล่า"
ฉันตั้งสติ..สูดลมหายใจเข้าอย่างช้า ๆ กลั้นใจ
"ไม่เป็นไรค่ะ อรเข้าใจ..แค่นี้แล้วกันนะคะ" ฉันรีบวางหูอย่างเร็วที่สุด ปล่อยโฮออกมา ร้อง ร้อง ร้อง มันอยู่อย่างนั้น
จบแล้วความรักของฉัน ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไม ทำไม ฉันเฝ้าถามตัวเองอยู่อย่างนั้นว่าฉันทำผิดอะไร ไม่ดีตรงไหน เฝ้าแต่คิด คิด คิด แล้วก็โทษตัวเองอยู่อย่างนั้น
ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง นี่ฉันหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ จำไม่ได้ แล้วก็ไม่สนใจมันด้วย รู้แต่ว่าตอนนี้ปวดหัวมาก ทำไมมันถึงได้ปวดแบบนี้นะ ทรมานจัง อยากให้มันเป็นแค่ฝันไป น้ำตาเจ้ากรรมเริ่มไหลออกมาอีกแล้ว ฉันค่อย ๆ หลับตาลง อย่างช้า ๆ อยากหลับแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย ความเศร้าเริ่มวนเวียนเข้ามาอีกครั้ง
ฉันรีบลุกขึ้น สูดลมหายใจเข้าไปให้เต็มปอด แล้วบอกกับตัวเองว่า ฉันจะต้องเข้มแข็งแล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้า กำจัดร่องรอยเจ็บช้ำ เผื่อมันจะหายไปพร้อมกับสายน้ำ
สักพักโทรศัพท์มือถือเครื่องเดิมก็ดังขึ้นอีกครั้ง..
"อ้น"ฉันเรียกชื่อของเขารีบวิ่งไปรับโทรศัพท์ บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจ
แต่ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอคือ จอย เพื่อนสนิทของฉันเอง
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไร เสียงปลายสายก็รีบพูดมาก่อนซะแล้ว
"นี่ใย อร แกอยู่ไหนเนี่ย..ฉันมารอแกนานแล้วนะ.."
"จริงด้วยสิ" ฉันรีบหันไปมองนาฬิกาบนหัวเตียง 10โมงกว่าแล้ว ฉันเผลอหลับไปนานขนาดนั้นเชียวเหรอเนี่ย
"ขอโทษที จะรีบไปเดี๋ยวนี้จ้ะ พอดีมีเรื่องนิดหน่อย แล้วเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง แค่นี้ก่อนนะ"
ฉันรีบตัดสายทันที เพราะรู้นิสัยเพื่อนรักดี ไม่อยากฟังมันบ่น
วันนี้ฉันนัดกับจอยจะไปช้อปปิ้งกัน หาซื้อชุดสวย ๆ สักชุด เพื่อที่จะใส่ไปในงานเลี้ยงรับปริญญาของฉัน วันแห่งความสำเร็จที่ฉันรอคอย ไม่นึกเลยว่ามันจะเป็นวันที่ฉันจะต้องเศร้าที่สุดด้วย
ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัว และออกจากบ้านด้วยความรวดเร็ว โชคดีจังที่บ้านของฉันอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า..ฉันจึงสามารถไปถึงที่หมายได้ในเวลาไม่นานนัก..
ระหว่างทางปล่อยใจให้ล่องลอยไป คิดอะไรเรื่อยเปื่อย มองไปทางไหนก็เห็นแต่คู่รัก จริง ๆ ก็ไม่ได้มากมายอะไรนักหรอก แต่ฉันให้ความสนใจกับทุกคู่รักเป็นพิเศษ เหมือนต้องการจะตอกย้ำความเจ็บปวด ให้มันยิ่งลึกลงไป
คิดถึงอ้นจัง เขากำลังทำอะไรอยู่ จะนึกถึงฉันบ้างไหม เขาจะรู้ไหมว่าฉันเสียใจ คิดไปน้ำตาก็เริ่มเอ่อขึ้นมาอีก จนฉันต้องเหลือบสายตามองขึ้นไปข้างบน เพื่อให้น้ำตามันไหลย้อนกลับไปไม่ไหลออกมา..
"สถานีต่อไป สยาม Next station Siam" เสียงจากพนักงานขับรถประกาศขึ้น
ถึงซะทีนะ ป่านนี้ใยจอยคงจะรอฉันแก่วแล้วล่ะ..
นั่นไงใยจอยกำลังยืนเท้าสะเอวมองมาแต่ไกล คงจะเตรียมตัวสวดฉันยกใหญ่เป็นแน่ แต่ผิดคาดเมื่อใยจอยเห็นหน้าฉันเธอกลับไม่พูดอะไร จอยคงเชื่อแล้วล่ะว่าฉันมีเหตุผลจริง ๆ ก็แน่ล่ะตาบวมปูดถึงขนาดนั้น
"มาช้าไปหน่อย ขอโทษนะจ๊ะ" ฉันพูดไปพร้อมกับหัวเราะแหะ แหะ ตามนิสัยของฉันเวลาที่ทำผิด..
ใยจอยมองหน้าฉันเหมือนอยากถาม แต่ก็ไม่พูดอะไร น้ำตามันไหลออกมาอีกแล้ว มันคงวนกลับมาหลังจากที่มันไหลย้อนกลับเข้าไป ฉันกอดเพื่อนไว้แน่น ร้องไห้โฮออกมา
"ฉันเลิกกับอ้นแล้วล่ะแก ฉันเลิกกับเขาแล้ว" พูดไปสะอื้นไป เวลานี้ฉันต้องการเพื่อนที่สุด เพื่อนที่พร้อมจะปลอบใจ เข้าใจ
จอยพาฉันไปนั่งในร้านโดนัทแห่งหนึ่ง ยื่นกระดาษทิชชู่ให้ แล้วก็ไปซื้อโกโก้เย็นของโปรดมาให้ เหมือนต้องการจะปลอบใจ
"เป็นไปได้ยังไงแก ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย" ใยจอยโพร่งขึ้นมา หลังจากเงียบไปนาน คงจะอัดอั้น อยากรู้เรื่องราว จนฉันอดขำไม่ได้กับท่าทีของเธอ
"มันเป็นไปแล้ว" ฉันพูดไปพร้อมกับดูดน้ำไปด้วย ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย อาจจะเป็นเพราะสถานที่ ผู้คนพลุกพล่าน เดินกันขวักไขว่ เสียงพูดคุย ทำให้บรรยากาศในขณะนั้นไม่เหมาะกับความเศร้าเลยสักนิด
ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้จอยฟังอย่างละเอียด ตั้งแต่ต้น ตั้งแต่รับสาย ทุกคำพูดที่เขาบอกกับฉันอย่างไม่ผิดเพี้ยน ใยจอยตั้งใจฟังอย่างเงียบ ๆ ซึ่งผิดกับนิสัยของเธอที่มักจะชอบแย่งพูดอยู่เป็นประจำ
จอยเป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันมักจะเล่าอะไรต่ออะไรให้ฟังโดยที่ไม่เขินอาย หรือตะขิดตะขวงใจ เธอเป็นเพื่อนสมัยมัธยมของฉัน และที่สำคัญเธอไม่เคยมีแฟนเลย ผิดกับฉันที่มักจะหวั่นไหวไปกับคนที่มาชอบพออยู่เสมอ
จอยเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ตาโต หน้าตาจัดว่าน่ารักเลยล่ะ พูดเก่ง เรียนหนังสือเก่ง มั่นใจในตัวเอง อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ล่ะมั๊งที่เพื่อนผู้ชายในห้องมักจะกลัวเธอ เพราะเธอมักจะชอบทำหน้าที่แทนคุณครูประจำชั้นอยู่เป็นประจำ แต่ถึงกระนั้นเธอก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน สามารถปรึกษาได้ทุกเรื่องแม้กระทั่งเรื่องของความรัก จอยมักจะพูดเสมอว่า
"ฉันเห็นแกเป็นแบบนี้ทีไร ทำให้ฉันกลัวความรักทุกทีเลย ให้ตายสิ"
มันก็จริง ความรักของฉันมักจะจบลงด้วยความเศร้า ถ้านับครั้งนี้ ก็คงจะครบ 3 ครั้งพอดี
เมื่อวันที่ : 29 ต.ค. 2547, 19.57 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...