![]() |
![]() |
เปิดฟ้า ก้องหล้า![]() |
...เดือนพฤศจิกายน ของปีนี้ ฝนตกหนักเป็นเวลาสามวันสามคืนติดกัน กรมอุตุนิยมวิทยาวัดระดับน้ำฝนได้ 120 ม.ล. กว่า อากาศหนาวเย็น บรรดาสัตว์ป...
เดือนพฤศจิกายน ของปีนี้ ฝนตกหนักเป็นเวลาสามวันสามคืนติดกัน กรมอุตุนิยมวิทยาวัดระดับน้ำฝนได้ 120 ม.ล. กว่า อากาศหนาวเย็น บรรดาสัตว์ป่าต่างแยกย้ายหนีเข้าป่าลึก หรือหลบซ่อนในถ้ำบนภูเขา ด้วยสัญชาติญาณ ซึ่งสัตว์ป่ามีความรอบรู้เรื่องการดำรงชีวิตรอดและการหลบหนีภัยได้ดีกว่ามนุษย์คืนนั้นมีเสียงดังลั่นสนั่นหวั่นไหว เสียงไม้โค่นล้มหักดังลั่นสั่นระเนระนาดเป็นระยะเวลานาน ต้นไม้ล้มระเนระนาด เสียงคึก ๆ คึก ๆ กึกก้องไปทั่ว บ้านเรือนก็พังระเนระนาดไปเป็นแถบ บรรดาสัตว์เลี้ยงส่งเสียงร้องครู่หนึ่งก็เงียบหายไป เพราะถูกน้ำดินโคลนพัดจมไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถช่วยเหลือมันได้ แม้แต่หัวของตนเองก็ไม่สามารถช่วยได้
เสียงดังนั้นปานทะเลบ้าที่มีคลื่นซัดฝังสูงขนาดยอดมะพร้าวก็ว่าได้ บรรดาสัตว์ที่มีชีวิตอยู่ก็มารวมกันบนเนินเชิงภูเขา หลายคนได้หายไป ญาติพยายามหาก็ไม่เจอ วัวควายถูกน้ำพัดพาไปหมด ไก่หมูก็หายเกือบหมด มีน้ำหลากเข้ามาในบริเวณบ้าน ในบ้านมีน้ำและโคลนสูงแค่สะเอว น้ำสีดินโคลนขุ่นข้นมีดินอยู่ภายในพื้นบ้านประมาณเกือบถึงสะเอว พอน้ำเริ่มลดดินก็ลดตามไปด้วย
จินตนาเป็นลูกสาวของกำนันคนดังในหมู่บ้าน ขณะนี้เสื้อผ้าเปียกบอนเพราะช่วยขนของและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยเท่าที่จะทำได้
ทันใดงูตัวหนึ่งลอยตามน้ำมา เมื่อมาเจอฝาบ้านมันก็พยายามจะเลื้อยและยึดฝาบ้านเป็นที่หลบภัยป้องกันอันตรายให้แก่ตนเอง
ร่างกายหนาวสั่นยังมาไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะเสื้อผ้าถูกน้ำพัดพาไปหมดแล้ว ขณะที่ตัวบ้านสามารถต้านทานต่อกระแสน้ำได้ ขณะนั้นจินตนาอยู่ในบ้าน เมื่อบ้านล้ม ก็กระโจนลงน้ำหรือดินโคลนก็ไม่ทราบชัดในขณะนั้น เธอไม่สามารถว่ายน้ำได้ ก็ลอยไปตามกระแสน้ำ บางครั้งถูกของแข็งมากระทบเจ็บจนจุกเกือบสิ้นชีวิต และได้พบกันต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งมีเถาวัลย์ห้อยย้อยลอยอยู่ด้วย จินตนาสามารถจับเชือกและโหนตัวต้านกระแสน้ำอยู่ได้ จนกระทั้งกระแสน้ำลดลงใกล้จะหมด จินตนาสามารถเดินลุยโคลนแค่เข่าได้ เสารั้วยังมีอยู่บ้าง บางส่วนของหลังคา ฝาบ้าน ถูกน้ำพัดพาไปหมด
จินตนาสุดหนาวแสนหนาว เสื้อผ้าเปียกก็ไม่มีเปลี่ยน ไฟฟ้าก็ไม่มี ตะเกียง ไฟฉาย แม้แต่ไม้ขีดไฟก็ไม่มี ทันใดนั้นจินตนาเห็นสิ่งหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่กับไม้ฝาที่โผล่น้ำ คิดว่าคงจะเป็นเถาวัลย์ เชือก หรือเศษผ้าของบ้านใดบ้านหนึ่งที่ลอยอยู่เหนือน้ำ
แต่การเคลื่อนไหวนั้นมันใกล้เข้ามา เกือบจะถึงที่เธอกำลังยืนอยู่ จึงเอามือไปจับแหย่ดู มันเย็น ๆ นิ่ม ๆ ทันใดนั้น งูมันเกิดความกลัวรีบกระเสือกกระสน เพื่อให้พ้นจากภัยที่จะเกิดขึ้น จินตนาเสียววาบถึงไขสันหลัง เมื่อรู้ว่าเป็นงูตัวใหญ่ ถ้างูมันแว้งกัดเธออาจจะเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้
"สิ้นเคราะห์ไปที มันไปทางโน้นแล้ว คงจะไม่ใช่งูพิษ ถ้ามันเป็นงูพิษ ก็นับว่าเสี่ยงมาก"
ครู่หนึ่งมีเสียงดังดิ้นจนน้ำฟุ้งกระเทือนอยู่ในบริเวณที่เดียว จินตนาพยายามสังเกตผ่านความมืดไป พอจะสันนิษฐานได้ว่า เจ้างูใหญ่กำลังดิ้นเพราะติดอยู่กับอะไรสักอย่างหนึ่งที่มันไม่สามารถดิ้นหลุดได้ พรุ่งนี้คงรู้จินตนาคิด
ขณะนั้นมีขอนไม้ขนาดเท่าต้นตาลยาวประมาณ 5 เมตรลอยมาตามโคลนตามน้ำ จินตนาก็เอื้อมมือไปจับหัวไม้ไว้ได้และลงจับให้แน่น รั้งมันให้มาติดกับกับต้นไม้ จินตนาพยายามใช้แรงดันถ่วงกับกระแสน้ำที่ดันขอนไม้ให้ลอยลงไป จนสว่างเธอไม่ได้หลับเหมือนกับผู้คนอื่น ๆ บางคนที่กำลังหลับสนิทอยู่ในห้องแอร์ เธอพยายามช่วยชีวิตตนเองสุดความสามารถ
ใกล้สว่าง น้ำและดินโคลนก็แห้งลง มีแต่โคลนเหลืออยู่ในหลุม ที่ลุ่มต่าง ๆ ในบ้าน จินตนาไปได้เห็นขอนไม้วางแนบอยู่กับพื้นและต้นไม้และแรงดันของเธอ บนนั้นมีตะขาบ กิ้งกือ อยู่หลายตัว
จินตนาเดินไปดูที่งูมันดิ้นอยู่เมื่อคืน ปรากฏว่าเป็นงูสีดำเขมื่อม ลำตัวใหญ่เท่ากับแขนของเธอ ลำตัวยาวนอนอยู่ในตาข่ายกองหนึ่ง คงเป็นเพราะกรรมหรือโชคร้ายของงูเองที่มาเจอตาข่ายเข้า ถ้ามันสามารถผ่านไปได้ปานนี้คงจะมีความสุขกับอิสระเสรีภาพในการดำรงชีวิตอยู่
จินตนาก็ไม่กล้าปล่อยมันในขณะ นี้ เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายกับตน เธอเฝ้าแต่มองมันอย่างปลงอนิจจังด้วยความสังเวช และสงสาร จินตนาจะช่วยเหลือได้อย่างไร ถ้าคนอื่นมาพบเข้า แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
"จินต์ จินต์" เสียงร้องเรียกจากหลาย ๆ คนมีทั้งเสียงของผู้หญิงและผู้ชาย ที่เป็นเสียงของพวกญาติ เธอขานรับ คนกลุ่มหนึ่งก็ได้ตรงมายังที่อยู่ของจินตนา พร้อมด้วยอาหารแห้ง เสื้อผ้า ยาสีฟัน แปรง ผงซักผ้า น้ำ ฯลฯ
จินตนาได้รับสิ่งเหล่านั้น เธอพบว่าแท็งก์น้ำมันสามารถต้านแรงกระแสน้ำได้ ยังมีน้ำใช้ น้ำดื่ม เธอจึงจัดแจงอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าและนำอาหารมารับประทาน พร้อมน้ำดื่ม ความหิวก็ได้สลายหมดสิ้นไป
ชาวบ้านได้ช่วยกันตรวจค้นพบว่า พ่อแม่และคุณยายของจินตนาได้เสียชีวิตไปแล้ว ชาวบ้านกำลังนำศพเหล่านั้นไปไว้ที่วัด เพื่อบำเพ็ญกุศลศพพร้อมกับผู้อื่นที่ได้เสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมาก
จินตนามองเห็นสภาพบ้าน เมื่อก่อนเป็นป่าหมาก มะพร้าว ลองกอง ทุเรียน แต่บัดนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนไปหมดสิ้นแล้ว มีแต่ทรายและโคลนตมเป็นพื้นเรียบจุดหน้ากลอง มีแต่ทรายกับทราย ทรายสุดลูกหูลูกตาและมีสิ่งก่อสร้างหรือกิ่งไม้ต้นโต ๆ โผล่อยู่ตลอดทาง
จินตนาเห็นภูเขาหัวโล้นหมด ภูเขากลายเป็นสีดินแดงเป็นแถบยาว ๆ จากฟ้าลงสู่ดิน บางที่ดินแหว่งเป็นลานราบกว้างสุดลูกหูลูกตา
จินตนาต้องสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต คือการสูญเสียพ่อแม่ผู้บังเกิดเกล้า ทรัพย์สิน สมบัติ แล้ว ต้องสูญเสียสัตว์เลี้ยงอีกมากมาย ความเศร้าโศกเสียใจมันมหาศาลยิ่งนัก ไม่สามารถนำสิ่งที่เสียไปทดแทนมาได้ แม้ว่ามีเงินเป็นหมื่นล้านแสนล้านก็ตาม
บรรดาญาติก็นำศพของคุณพ่อคุณแม่ไปบำเพ็ญกุศลที่วัด ในวัดมีเสียงร้องไห้ระงมเซ็งแซ่ บางคนก็ปล่อยโฮออกมา เป็นที่น่าสังเวชยิ่งนัก
จินตนาสามารถเก็บความรู้สึกไว้ได้ว่าท่านได้เสียไปแล้วก็ย่อมไม่สามารถที่จะให้ท่านมีชีวิตขึ้นมาได้อีก นอกจากจะมีอภินิหารเท่านั้น และเป็นเรื่องของธรรมชาติ จึงทำให้จินตนาปลงตกได้
วันนี้มีการสวดพระอภิธรรมรวมกันไม่น้อยกว่า 105 ศพ เสร็จพิธี ญาติ ๆ ที่มาอยู่เป็นเพื่อนและปลอบใจก็ทยอยกลับกันบ้างแล้ว ญาติอีกส่วนหนึ่งมาส่งจินตนาที่บ้านและนอนอยู่เป็นเพื่อน
จินตนายังนึกภาพทุ่งโคลนที่เกิดขึ้นมาแทนที่ต้นไม้และอาคารต่าง ๆ ตลอดระลึกถึงคุณพ่อคุณแม่ และญาติที่ต้องจากป่าอีกมากมาย จินตนาเองยังโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ แต่ก็เกือบกลายเป็นความวิปโยคจากงูเห่าไปแล้ว เดชะบุญ บุญยังช่วยไว้ เพราะได้ทำความดีมาแล้วบ้าง
จินตนายังนึกภาพย้อนก่อนที่จะมีฝนตก ดินโคลนถล่มในครั้งนี้ ภาพเหล่านั้นส่องบรรเจิดจ้าขึ้นในสมองของจินตนา
มีภาพของคนที่นอนรับจ้างนายทุนขึ้นไปถางป่า ทำไร่ และโค่นไม้แล้วชักลากให้นายทุนไป เขาจะเอาไปทำอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าคนพวกนั้น คนเหล่านั้นได้ค่าจ้างแรงงานพอได้ประทับใจในชีวิต
ผู้รับจ้างมีหลายคน ถางป่าทุกวัน ทำให้ป่าหมดไป ตอไม้ที่ถูกตัดโค่นไปแล้วก็ผุเป็นจำนวนมาก หลายร้อยไร่ที่ถูกทำลาย เพราะน้ำมือของคนพวกนี้
บางคนไปถ่างป่าเป็นของตน เผาทำไร่ เลื่อนลอย จากปีละครั้ง ๆ ละ 5 -- 10 ไร่ ถ้าเลื่อนไปทุกปี ป่าถูกทำลายไป 100 ไร่ 500 ไร่ ถึง 1,000 ไร่ ต้นไม้ก็ตายหมด และผุไปตามกาลเวลา
คนที่ทำลายป่า ได้ประโยชน์จากไม้แต่ละต้นจนกลายเป็นผู้ร่ำรวยด้วยเงินและทรัพย์สิน ก็ยังไม่มีการจบสิ้น แต่ยังส่งเสริมและทำลายป่าไม้ ลำคลอง อื่น ๆ อีก
บางคนเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่จะต้องอนุรักษ์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ แต่กลับเป็นคนที่นำคนมาถางทำร้ายป่าเสียเอง เมืองไทยนี้ช่างทำเจ็บปวดเหลือเกิน เพราะข้าราชการเหล่านั้น เป็นคนที่ทำงานรับใช้และสนองพระบรมราชองค์การของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้รัฐธรรมนูญปกครองประเทศ โดยใช้เงินที่เก็บจากภาษีราษฎรทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาษีจ่ายตรงหรือภาษีจ่ายทางอ้อม เป็นค่าใช้จ่ายตามงบประมาณเดือนละมาก ๆ บุคคลเหล่านั้นเคยผ่านการสาบานตนเองเพื่อความจงรักภักดี และเพื่อช่วยเหลือประชาชน แม้แต่ในรัฐธรรมนูญ ยังกำหนดหน้าที่ให้ทุกคนจะต้องปกป้องรักษาประชาธิปไตย ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ของชาติไทยให้รอดพ้นและปราศจากอันตรายใด ๆ
ประชาชนจะต้องป้องกันปกปักรักษาพื้นแผ่นดินนี้ ภูเขานี้ ป่าเหล่านี้ ให้ดำรงอยู่เพื่อเป็นมรดกสืบทอดต่อไปชั่วลูก หลาน เหลนในภายหน้า
มีสมัยหนึ่ง เป็นระยะสงครามแย่งชิงประชาชน มีการสนับสนุนให้ประชาชนถางป่า ทำไร่ ปลูกยางพารา โดยบอกว่า เรามาช่วยท่าน (ประชาชน) ให้ที่ทำกินแก่ท่าน ซึ่งถ้ารัฐบาลไม่ให้แก่ท่าน เราจะหมดตัวเฉพาะกลุ่มนายทุน ที่สามารถรับผลประโยชน์อะไรบางอย่าง เ ราจะต้องร่วมกันกำจัดรัฐบาลโกงกิน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวให้หมดไป ประชาชนจะต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
เมื่อฝนตกลงมา 3 -4 วันแล้ว ปริมาณของน้ำฝนมากทำให้ดินชุ่มน้ำ อมน้ำ และอุ้มน้ำ เมื่อก่อนรากไม้มันชอนไชประสานกันช่วยยึดดินไม่ให้ดินหลุดร่วงหล่นลงมาได้
เมื่อตอไม้ผุกร่อนกลายเป็นผงธุลีดิน ก็ไม่มีวัตถุอันใดที่เป็นเครื่องผูกยึดดินอีกต่อไป ทำให้ดินหลุดจากหินบนภูเขาและหล่นลงมา เกิดการทบกระแทกกัน ทำให้ดินเหล่านั้นร่วงลงมา
มันไหลปล้อนลงมาจากยอดเขา หล่นทับกันมากขึ้นจนถึงเชิงเขาและตกลงมาไหลไปตามลำน้ำสู่ท้องทุ่ง กลายเป็นทะเลโคลนทำลายทรัพย์สินสมบัติของประชาชนเสียหายมากมาย
ซึ่งผลอันนี้เกิดมาจากประชาชนทำร้ายตนเอง โดยการไม่รู้เท่าถึงการณ์จากเศษเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขายื่นมาให้ หรือโยนมาให้โดยไม่ตั้งใจ มันทำร้ายลูกหลานของเรา ซึ่งสุดจะประเมินค่าได้
จินตนาคิดว่าถ้าข้าราชการของประเทศเรายังแสวงหาผลประโยชน์จากนายทุนสามานย์โดยทำงานเพื่อช่วยให้นายทุนทำร้ายประชาชนไปเรื่อย ๆ ย่อมจะไม่กระทบกระเทือนในระยะต้น ๆ แต่นาน ๆ วันเข้า เมื่อไรเหตุการณ์มันมากเข้า ๆ เมื่อเกิดความเสียหายทำให้ประชาชนส่วนมากได้รับอันตราย เดือดร้อน ไม่คุ้มกับผลประโยชน์จากค่าจ้างเล็กน้อยที่บุคคลเหล่านั้นได้รับ
จินตนาสูญเสียอาคาร พ่อแม่และพืชผัก ผลไม้ สัตว์เลี้ยงจำนวนมากมหาศาล ขณะที่คนรับจ้างถางป่านั้นเขามีอะไรเพียงเล็กน้อย ที่เขาได้รับความเสียหาย แต่ญาติพี่น้องของเขาได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล เช่นกัน
สำหรับนายทุนนั้นก็ยังมีชีพอยู่อย่างสบาย แต่ผลประโยชน์ที่เขาได้กระทำไว้ก็ได้รับความเสียหายมากมาย เช่นกัน มิใช่เฉพาะตัวเขา บรรดาญาติพี่น้องมิตรสหายและลูกหลานก็ได้รับเช่นกัน
ผลย่อมตกทอดสู่ผู้นั้นเสมอ มันเป็นกฎแห่งกรรม ใครทำไว้ย่อมได้รับทั้งทางตรงและทางอ้อม ในมิช้าก็เร็ว
จินตนาคิดต่อไปอีกว่า
"มีบางตระกูลมีเงินมรดกตกทอดไว้ ทำให้ลูกหลานแย่งชิงกัน เข่นฆ่ากันจนได้รับความพินาศฉิบหาย เพราะของที่ได้นั้นได้รับมาจากความไม่ชอบธรรม
งานศพของคุณพ่อคุณแม่ของจินตนา เป็นการบำเพ็ญมหากุศลเป็นครั้งสุดท้าย มีญาติพี่น้อง ผู้มีเกียรติ เพื่อนสนิทมิตรสหายมากมายมาให้กำลังใจแก่จินตนา
ก่อนถึงพิธีสวดพระอภิธรรม คณะเจ้าภาพได้นิมนต์พระสงฆ์ผู้อาวุโสได้แสดงพระธรรมเทศนา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ หรือเป็นมรณานุสติแก่ญาติพี่น้องและแขกผู้มีเกียรติของคุณแม่
พระท่านปรารภว่า ผลย่อมเกิดมาจากเหตุ เหตุก็สัมพันธ์กับผลที่เกิดขึ้น ไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นมาเองโดยไม่มีสาเหตุมาก่อน ที่ทำให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ เพราะดินถล่มลงมากับน้ำฝน เพราะว่าดินไม่มีสิ่งคุ้มกัน เช่น รากไม้ รากหญ้า และต้นไม้นานาพันธุ์
เพียงไม่กี่คนไปแผ้วถางจนเตียน ป่าไม้หมดเขา เขาแต่ละลูกที่เกิดผลขึ้นวันนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันทั่วหน้า บางคนไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่า มีการตัดไม้ทำลายป่า แต่บางคนได้รับผลประโยชน์จากป่าเหล่านั้นบ้างเช่นกัน สำหรับคนที่พลอยรับกรรมไปเต็ม ๆ นี่ซิ ช่างน่าเสียใจ แต่ถือว่าเป็นผลรวมของเคราะห์กรรม ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ และยอมรับความทุกข์นั้น ๆ ด้วยความเต็มใจ
จินตนาปลงตกได้ตั้งแต่วันแรกแล้ว จิตใจของเธอคงจะสงบเรียบร้อยและเปี่ยมด้วยความสุข ท่ามกลางความทุกข์ยากที่ประดังเข้ามาอย่างมากมาย
เมื่อวันที่ : 20 ต.ค. 2558, 07.25 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...