![]() |
![]() |
Caramel![]() |
...
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวระหว่างความรักของคนสองคนที่แตกต่างอายุกันความผูกพันของทั้งสองคน
ความรักของยายก...





เมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ประมาณสัก 3 เดือนเห็นจะได้มั้ง

ผ่านมาเมื่ออไม่กี่เดือนนี้นะ เราได้มีโอกาสไปเยี่ยมคุณ ย่าของเราที่ " South America"


เลยถือโอกาส

แล้วก็ไปพักผ่อนในตัวซะด้วย


ไปเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าอีกด้วย เราพอที่จะมีเพื่อนอยู่บ้างนะสมัยที่เราเล็กๆนะ

เราไม่ได้อยู่ที่โน้นตลอดเวลา

ที่ โน้น (อเมริกาใต้) แล้วที่ผ่านมาเราก็ได้พบกับเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจเรื่องหนึ่งเกิด
ขึ้นมา

เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ตอนที่เราเป็นเด็กเรียน HightSchool (มัธยม)แล้ว
เวลาใกล้สอบปิดเทอมใหญ่เราจะเป็นอะไรที่ดีใจมากๆเลย

ที่จะทำข้อสอบให้ดีด้วยอ่ะ เพราะอะไรเหรอก็เพราะว่า ถ้าเราสอบเสร็จแล้วหลังสอบไม่
เกินหนึ่งอาทิตย์)ป๊า กับ ม๊า จะต้องส่งเราไป อเมริกาใต้ นะซิ

กับคุณย่าช่วงโรงเรียนปิดเทอมนะเราก็เลยชอบนะสิ บ้านคุณยายเราเป็น ซุปเปอร์
มาร์เก็ต

ย่อยๆที่ในจังหวัดๆหนึ่งที่โน้นคุณยายเรามีขายหมดตั้งแต่ ไม้จิ้มฟัน






และก็

ลูกค้าก็เยอะมากพวกร้านค้าย่อยนะแล้วเราก็ได้มีเพื่อนจากการที่เราไปหาคุณย่าทุกๆปี
ในเวลาที่โรงเรียนปิดเทอมเราก็คบกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็มีอยู่ ห้า-หก คน แล้วครั้ง
ล่าสุด

เพื่อนคนหนึ่งของเราเธอได้แต่งงานไปแล้วแล้วเธอก็มีลูกสาวฝาแฝดด้วยสิ

ของเธอทำงานรับราชการ (นักบิน ทหารอากศ) ทั้งสองต่างทำงานด้วยกันทั้งคู่จึงไม่
ค่อยที่จะมีเวลาอยู่ด้วยกันมากนักเท่าไหร่แล้วพอเกิดได้ลูกแฝดขึ้นมาเพื่อนของเรา
Martar เธอก็ได้ไปรับแม่ของเธอจากต่างอำเภอมาเพื่อที่จะได้มาช่วยเลี้ยงลูกแฝดของ
เธอ

สองเดือนเองหลังจากที่คุณยายมาอยู่กับ มาร์ต้า คุณยายก็ปรกติดีมาโดยตลอดจนกระ
ทั่งหลานแฝดอายุได้ ประมาณสัก หกขวบครึ่ง มีอยู่วันหนึ่งคุณยายเป็นลมล้มลงหมด
สติปล่อยให้หลานทั้งสอง เดินเล่นอยู่ในบ้านไม่รู้ว่านานเท่าไหร่จนกระทั่ง มาร์ต้าได้
กลับจากที่ทำงานมาพบเห็นแม่ของเธอนอนอยู่บนพื้นแล้วลูกๆของเธอก็เดินไปเดินมา
ป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ห่างเธอก็ได้โทรฯเรียกรถพยาบาลมารับแม่ของเธอโดยทันทีหลังจากที่
เธอได้โทรฯเรียกรถไปไม่นานทางโรงพยาบาลก็ได้ส่งรถพยาบาลมารับแม่ของเธอเลย

หมอก้ได้เดินออกมาจากห้องตรวจแล้วก็บอกกับมาร์ต้าว่า ! คุณแม่ของคุณจะต้องเข้า
นอนในโรงพยาบาลนี้ก่อนนะวันนี้เพราะผมตรวจพบอะไรบางอย่างที่ผิดปรกติในตัวของ
แม่คุณครับ คุณผู้หญิง

คุณหมอ


โปรดเถอะคะ

คุณหมอก็ไม่ยอมตอบคำถามของเธอเลยนะใน
ตอนนั้นเพียงพูดแต่ว่า ขอเวลาให้ผมตรวจเพื่อให้แน่ใจอีกสักครั้งก่อนนะครับ!!
อืม เธอก็ตกลงสรุปคุณยายต้องนอนที่โรงพยาบาล รุ่งขึ้น มาร์ต้าก็ได้ไปเยี่ยมแม่ของ
เธอผ่านไปได้สามวันหลังจากที่เธอได้ทนรออย่างกระวนกระวายใจแล้วนะ

คุณหมอก็เรียกเธอเข้าไปพบที่ห้องตรวจ (ห้องพักนายแพทย์) คุณหมอ
ก็ได้บอกกับ มาร์ต้า ว่า ผลการตรวจได้ออกมาแล้วครับคุณแม่ของคุณเป็นโรค.....?
โรคอะไรค่ะหมอ? โรคมะเร็งในสมอง !!

อีกทีสิคะคุณแม่ดิฉันเป็นโรคอะไรนะคะ?? โรคมะเร็งในสมองครับ ฮ้า โอ๊ะ
คุณแม่




แล้วทำไมดิฉันไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลยล่ะคะเนี่ยคุณหมอ แล้วพอมีทางที่จะรักษาไห๊มคะ
คุณหมอ??

ท้ายแล้วผมขอแนะนำว่า ทางที่ดีคุณควรจะเก็บเอาเงินที่คุณจะมาเสียเป็นค่ารักษา
พยาบาลเธอผมคิดว่าเอาเก็บเอาไว้ เป็นทุนการศึกษาให้เด็กทั้งสองคนจะดีกว่านะ
ครับ ขอโทษที่ผมได้พูดออกมาแบบนั้นหน๊ะครับคุณผู้หญิง



แล้วคุณแม่ของดิฉันจะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่คะคุณหมอ? มาร์ต้าถามต่อไป
จากผลการวินิจฉัยที่ได้ออกมาแล้วผมคิดว่าเธอคงจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือนหรือว่า 1 ปี
นะครับไม่เกินไปกว่านี้



หล่ะคะคุณหมอ ก็เพราะว่าเธอเป็นขั้นสุดท้ายแล้วนะสิครับ



ดิฉันจะต้องทำอย่างไรดีค่ะลูกดิฉันก็ยังเล็กอยู่ทั้งสองคนเลยนะคะ




เธอก็เอาแต่ร้องไห้ต่อหน้าของนายแพทย์ผู้นั้นคะเพื่อนๆ ส่วนเวลาที่เธอกลับไปถึงบ้าน
ลูกแฝดของเธอก็จะคอยถามกับเธอว่า " คุณแม่ขา คุณยายไปไหนค่ะ?เราคิดถึง
คุณยายคะคุณแม่ อุ๊บส์ มาร์ต้าเธอถึงกลับ หลั่งน้ำตาออกมากับคำถามของลูกสาว
ทั้งสองของเธอ



พอเธอเล่ามาถึงตรงนี้ตัวเราเองก็แทบที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่หน๊ะเราสงสารเด็กทั้ง
สองคนจังเลยอ่ะเราบอกให้เธอหยุดเล่าก็ได้นะเธอก็ตอบว่าไม่เธออยากที่จะระบายมัน
ออกมาหน๊ะเพราะเธอคิดถึงเรามากๆในช่วงเวลานั้นแต่เธอไม่มาสารถที่จะบินมาหาเราได้
โอเคเราก็บอกให้เธอเล่าต่อไปถ้าเธอเล่าแล้วมันทำให้เธอสบายใจขึ้นมะเราก็ไม่ห้าม
เธอ มาร์ต้าเธอก็ได้เล่าต่อไปอีกเรื่อยๆว่า

เลยมีแต่ทรุด กับทรุดลงไปนะ ส่วนลูกแฝดทั้งสองก็รบเร้าหาแต่คุณยายอยู่ทุกวันทุกวัน
จนวันหนึ่ง มาร์ต้าเธอทนไม่ไหวและอีกอย่าง สามีของเธอก็ได้หยุดพักผ่อนอยู่กับบ้าน
Longweekend เธอก็ได้พาครอบครัวของเธอไปที่โรงพยาบาลเพื่อที่จะให้เด็กๆได้พบกับ
คุณยายของแกนะสิ







พอไปถึงโรงพยาบาลพอเห็นคุณยายเท่านั้นแหละก็วิ่งเข้าไปกอดคุณยาย คุณยายก็กอด
ตอบหลานทั้งสอง แล้วคนน้องก็ได้พูดขึ้นมาว่า คุณยายค่ะ ผมของคุณยายไปไหน
หมดล่ะค่ะ?

ถึงได้เหม็นจังเลยอ่ะ เหม็นเหมือนกับ สุนัขที่ตายแล้วกำลังขึ้นอืดเลยนะคะ ทำไม
เหรอ?

สามารถที่จะทำอะไรได้เพราะว่ามันคือความจริงหน๊ะที่แม่ของเธอก็เป็นอย่างนั้นจริงๆซะ
ด้วยสิ
แล้วคนน้องก็พูดขึ้นมาอีกว่าคุณยายขา หนูคิดถึงคุณยาย
มากๆค่ะ หนูด้วย คนพี่พูดบ้าง หนูคิดถึงมากกว่า หนูมากกว่า ทั้งสองถกเถียงกันเรื่อง
ใครคิดถึงคุณยายมากกว่าน้อยกว่า คุณยายค่ะเมื่อไหร่คุณยายจะกลับไปบ้านของ
เราค่ะคุณยาย คนพี่ถาม หนูจะได้ให้คุณยายถักผมเปียให้กับหนูนะคะแล้วคุณยาย
ก็จะไปเดินไปส่งพวกหนูที่โรงเรียนแทนคุณแม่หน๊ะคะ คุณแม่ชอบเร่งให้พวกหนูแต่งตัว
เร็วๆไม่เหมือนคุณยายๆ จะเป็นคนเลือกเสื้อผ้าให้กับพวกหนูทุกๆวันเวลาที่คุณยายอยู่
บ้าน



ของหลานสาวทั้งสองคนแต่ไม่พูดอะไรเอาแต่ร้องไห้
คุณยายเป็นอะไรคะทำไมน้ำมันไหลออกมาจากตาของคุณยายล่ะคะ
คุณยายร้องไห้คนพี่พูด ไม่ใช่คุณยายไม่ได้ร้องไห้คนน้องตอบกลับ
ใช่สิคุณยายร้องไห้นะ ซุซาน ไม่ใช่ ใช่ ไม่ใช่ ใช่ ไม่ใช่ เถียงกันอยู่ตรงนั้นนั่น
แหละ
ซูซานคุณยายอย่าร้องไห้นะคะใครทำอะไรคุณยายบอก หนูมาหนูจะไปตีเขา
ให้แทนคุณยายค่ะ อย่าร้องนะ นะ นะ อย่าร้องไห้ หนูเช็ดน้ำตาให้นะคะคุณยาย
ซูซานเธอก็ได้เอามือเล็กๆของเธอไปปาดเช็ดน้ำตาให้กับคุณยายของเธอนะ


หลังจากนั้นอีกไม่นานเท่าไหร่ทั้งหมดก็กลับไปบ้านเพราะว่าหมดเวลาเยี่ยมไข้แล้ว
เอาเป็นแบบรวบรัดเลยนะเพราะเราก็เริ่มที่จะเศร้าขึ้นมาอีกแล้วนะเราเขียน
เรื่องนี้ในเวลานี้นะ อยู่ต่อมาอีกไม่ถึง สามอาทิตย์ หลังจากนั้น ทางโรงพยาบาล
ก็ได้โทรศัพท์ไปหา มาร์ต้า ที่ๆทำงานของเธอแจ้งข่าวร้ายว่า คุณแม่ของเธอได้เสียชีวิต
ลงแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา








เธอก็ได้จัดการลางานทันทีแล้วเธอก็ได้โทรฯไปบอกกับสามีของเธอที่ ฐานทัพอากาศ
แล้วเธอก็มาจัดการเรื่องรับ ศพ แม่ของเธอไปดำเนินการตามพิธีทางศาสนา หลังจากนั้น
ส่วนเด็กทั้งสองเห็นคุณยายนอนในโลงศพ ก็ไม่รู้ ได้แต่พร่ำถามกับ แม่ว่า คุณแม่ขา
ทำไมคุณยายนอนในนั้นหล่ะคะ ทำไม่คุณยายตัวเย็นจังค่ะ ทำไมคุณยายไม่พูดคะคุณ
แม่ ทำไมคุณยาย ไม่ลุกขึ้นมาทำอาหารให้กับพวกหนูค่ะ คุณยายนอนในนั้นไม่อึดอัด
เหรอคะคุณแม่?


บอกว่า คุณยายเสียแล้ว คุณยายได้ไปยู่บนสวรรค์กับ God แล้ว เด็กๆก็ไม่เข้าใจนะต่าง
ก็เขย่า เรียกให้คุณยายลุกขึ้นมาให้ได้นะ แต่คุณยายก็ไม่ฟื้นตื่นขึ้นมา ให้แกเลยนะสิ
คุณยายใจร้าย!! Zalina พูดตะโกนออกมา ใช่คุณยายใจร้าย
คนเล็กเสริมขึ้นมาอีก หลังจากนั้นพอทำพิธี อะไรเรียบร้อยแล้วทุกอย่างก็ปรกติ แต่ต่อ
มาหลังจากนั้นงาน ศพ ของคุณยาย ซูซานน่า ก็ไม่ยอมทานข้าว ทานอาหาร เอาแต่เศร้า
ซึมคิดถึงคุณยาย ถามแม่ถามพ่ออยู่ตลอดเวลา ว่าอยากที่จะไปหาคุณยายที่ได้ไปอยู่
บนฟ้ากับ พระเจ้าฯ เหตุการณ์ก็เป็นอย่างนั้นมา ช่วงระยะหนึ่งประมาณได้ สี่เดือนหลัง
จากนั้น วันนึงหลังจากที่มาร์ต้า ได้กลับมาจากทำงาน เธอก็ต้องเสียใจอีกครั้งหนึ่ง
นั้นก็คือ ซูซานน่า ได้ทำอะไรลงไปโดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
จนถึงกับเสียชีวิต มาร์ต้ากลับมาถึงบ้านก็ได้ร้องเรียกลูกสาวทั้งสองเหมือนปรกติ
แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากเด็กทั้งสอง มาร์ต้าเธอก็ได้ขึ้นไปดูบนห้องนอนของลูกน้อย
สิ่งที่เธอได้เห็น นั่นก็คือ เด็กน้อยทั้งสองนอนกอดกับอยู่บนเตียงนอน คนพี่ยังหายใจ
รวยรินอยู่ ส่วนคนน้อง ไม่มีลมหายใจซะแล้ว

เรียกสติกลับคืนมาได้เธอรีบโทรศัพท์ ไปเรียกรถพยาบาลโดยทันที แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว
ซูซานน่า ได้ตายไปก่อนหน้าที่เธอจะมาเห็นซะแล้วนะ




มาร์ต้าเธอก็ได้สำรวจไปทั่วห้องเธอก็ได้ พบเห็น กระดาษตกอยู่ข้างเตียงนอนของ
เด็กๆหนึ่งแผ่น มีข้อความเขียนเอาไว้ด้วยลายมือของ ซูซาน ตัวขยุกขหยิก มีใจความว่า
คุณแม่ขาพวกหนูคิดถึงคุณยายพวกหนูจะไปอยู่กับคุณยายที่บนสวรรค์ หนู ไม่สาม
รถที่จะทนคิดถึงคุณยายอีกต่อไปได้
หนูได้ เอา น้ำยา ที่คุณแม่เอาไว้ใส่ให้เจ้าต้นไม้เวลาแมลงมันมากัดกิน ใบ
และดอกของต้นไม้มาดื่มคะ. หนูไปหาคุณยายก่อนนะคะคุณแม่แล้วหนูจะกลับมาหาคุณ
แม่นะคะ ถ้าหนูได้พบกับคุณยาย ที่บนสวรรค์หน๊ะคะหนูไปไม่นานหรอกคะแล้วหนูจะ
กลับมาก่อนที่คุณแม่จะกลับมาจากที่ทำงานนะคะคุณแม่ขา
ซูซานน่า
มาร์ต้าเธอได้อ่านจม.ฉบับนั้นไปด้วยน้ำตาที่นองหน้า



เพราะว่าตอนนี้เธอได้สูญเสียลูกน้อยของเธอไปแล้วหนึ่งเหลือเพียงหนึ่งอาการก็ร่อแร่
เต็มทีแล้วนะยังโชคดีที่ ซ่ารีน่า ได้ดื่มเข้าไปไม่มาก ถึงมือหมอทันเวลาหมอได้ช่วยชีวิต
เอาไว้ได้ทันนะ ช่างน่าสงสารจังเด็กน้อยที่มีความรักให้กับคุณยายของเธอ
ซูซานน่าจงหลับเถอะหลับให้สบายนะและเราก็หวังว่าเธอก็คงที่จะได้
พบ กับคุณยายของเธอบนสวรรค์สมกับความตั้งใจของเธอนะ เราขอให้เธอจงมีความสุข
กับคุณยายในโลกใบนั้นที่เธอได้เลือกที่จะไปแล้วนะ
ด้วยรัก.....
คาร์ราเมล์

เรื่องนี้ก่อนนะแล้วเราจะกลับมาเล่าต่อเรื่องเที่ยวของเราหน๊ะขอจบเพียงแค่นี้ก่อนก็แล้ว
กัน เพราะเราไม่สามรถจะพูดหรือเขียนอะไรออกมาในตอนนี้ได้อีกแล้วนะมันสะ
ทือนใจมากๆเลยต้องขอโทษด้วยนะคะเพื่อนๆ
เมื่อวันที่ : 03 ม.ค. 2547, 00.40 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...