นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๓
สาวเอ๋ย…จงระวัง
กัลปจันทรา
...สาวเอ๋ย...​​จงระวัง แปล​​โดย "กัลปจันทรา" จากเรื่อง​​ The Journey ของ S Aich ผมขึ้น​​รถไฟ​​ที่สถานีมอลธา ​​และตอนแรกก็ไม่มี​​เพื่อนร่วมห้องผู้​​โดยสารจนกระทั่งถึง...
สาวเอ๋ย...​จงระวัง แปล​โดย "กัลปจันทรา"
จากเรื่อง​ The Journey ของ S Aich

ผมขึ้น​รถไฟ​ที่สถานีมอลธา ​และตอนแรกก็ไม่มี​เพื่อนร่วมห้องผู้​โดยสารจนกระทั่งถึงสถานีเมืองสัตลี จึงมีเด็กสาวคนหนึ่ง​มาร่วมเดินทางด้วย ผมเห็นมีคนมาส่งเด็กสาวคนนี้ น่า​จะ​เป็นพ่อแม่มีด้วยมีท่าทาง​เป็นห่วงการเดินทางของเธอมาก ​และ​ได้ให้คำแนะนำเรื่อง​การเก็บงำทรัพย์สิน​ส่วนตัว เรื่อง​ระวังอย่าชะโงกออก​ไปทางหน้าต่าง​และบอกให้อย่าพูด​และอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า ​และ​เมื่อล่ำลากันแล้ว​ รถไฟก็ออกจากสถานี เด็กสาววุ่นอยู​กับการเก็บข้าวของ​และพยายามนั่งสบายๆ​เหลือบมาทางผมอย่างประเมินด้วยเราสองคนนั้น​​เป็นเพียงสองคนในห้องผู้​โดยสารห้องนี้ ผมยิ้มให้อย่างไม่แน่ใจ​และ​เมื่อเด็กสาวยิ้มตอบ ผมจึงแนะนำตัวเอง

"สวัสดีครับ​ ผมชื่อชานตานุ มาจากเมืองโกลกาธา"
"สวัสดีค่ะ​ หนูชื่อเมก์นา อยู่​เมืองสัตลีค่ะ​"
"คุณพ่อคุณแม่อยู่​เมืองสัตลีหรือครับ​?"
"ค่ะ​ คุณพ่อทำงาน​ที่เมืองนี้ค่ะ​"
"ทำงาน​ที่ไหนครับ​?"
"​เป็นวิศวกรเหมืองแร่ถ่านหินค่ะ​ ​กับบริษัทชื่อ "โคลอินเดีย" คุณรับราชการหรือคะ​?"
"เปล่าครับ​ ผม​เป็นสถาปนิก มาทำงาน​ที่เมืองมุมไบอยู่​สามเดือน​เพราะมีงานชั่วคราว​ที่นี่ ตอนนี้​กำลังกลับบ้าน"
"โอ...​ดีจังค่ะ​ หนู​กำลัง​จะจบมหาวิทยาลัยแล้ว​ค่ะ​ ปีนี้​เป็นปีสุดท้าย ​กำลัง​จะกลับ​ไปเรียนหลังหยุดหน้าร้อนค่ะ​"
"เรียนอยู่​​ที่ไหนล่ะครับ​?"
"สกอตติช เชิร์ช คอลเลจจ์ค่ะ​"
หลังจากนั้น​เด็กสาวก็หยิบหนังสือนิยายออกจากถุง​และเริ่มอ่านอย่างมี​ความสุข

​ที่สถานี​ต่อมา​คือเมืองบาลิเปอร์ มีคนหนุ่มสาวคู่หนึ่ง​เข้ามาในห้อง​โดยสารของเรา คนคู่นี้มีกระเป๋าเดินทางหลายใบ​และท่าทางสับสนวุ่นวายไม่น้อย เสียงถอนหายใจหนักหน่วง​เมื่อรถไฟออกจากสถานี ​ทั้งคู่นั่งติด​กับเมก์นา ​และก็เริ่มสนทนา​กับเด็กสาว
"มาจากไหนคะ​?" นางคูมาร์ถาม
"เมืองมาลธิค่ะ​" เด็กสาวเมก์นาตอบยิ้มหวาน
"เดินทางคนเดียวหรือคะ​?"
"ค่ะ​"
"​ไปไหนคะ​?"
"เมืองโกลกาธาค่ะ​"
"โอ...​เราก็​กำลัง​ไป​ที่นั่นเหมือนกันค่ะ​ มีญาติ​ที่นั่นหรือคะ​?"
"ไม่ค่ะ​ หนู​กำลังเรียนอยู่​​ที่วิทยาลัยค่ะ​"
"เรียนอะไร​คะ​?"
"ปีสุดท้ายแล้ว​ค่ะ​"
"ดีค่ะ​ เรียนสาขาอะไร​คะ​?"
"เอกอังกฤษค่ะ​"

ผม​ได้ยินคำสนทนาทำให้รู้ว่า เด็กสาวเมก์นานั้น​เรียนอยู่​ระดับดีของชั้นเรียน​ที่วิทยาลัย​และ​จะ​แต่งงาน​เมื่อสอบไล่เสร็จ ​แต่ผมก็สังเกต​ได้ว่าเวลาเด็กสาวถามเรื่อง​​ส่วนตัวของคู่หนุ่มสาว คน​ทั้งคู่​จะตอบแบบคลุมเครือ

หลังอาหารกลางวัน เด็กสาวก็หัน​ไปอ่านนิยายต่อ ​และหนุ่มสาวชื่อคูมาร์ก็งีบหลับกัน ​ส่วนผมก็อ่านหนังสือเหมือนเมก์นา ตอนนี้ค่อยสงบขึ้น​มาหน่อย​หลังจาก​ที่วุ่นวายมาตลอดเช้า​ ​เมื่อเวลา สี่โมงครึ่งตอนบ่ายรถก็มาจอด​ที่สถานีรายทางอีกแห่งหนึ่ง​ ผู้​โดยสารต่างก็ถือโอกาสออกมายืดเส้นยืดสาย​และดื่มน้ำชากัน

​เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น คู่สามีภรรยาคูมาร์คะยั้นคะยอให้เด็กสาวร่วมรับประทานอาหาร​ที่นำมาจากบ้านด้วย ​ที่จริงเราควร​จะถึงจุดหมายปลายทางตอนเช้า​วันพรุ่งนี้​และผมก็​ได้​แต่ภาวนาให้รถไฟอย่าล่าช้านัก​เพราะผมเตรียม​ที่​จะพักผ่อนคืนนี้ ผมตื่นอีกครั้งตอน หกโมงเช้า​​และดีใจ​ที่รู้ว่ารถไฟ​จะเข้าสถานีสาย​ไปเพียงครึ่งชั่วโมง นั่น​คือ เรา​จะเข้าสถานีอีกสี่สิบห้านาที คู่คูมาร์นั้น​ก็ตื่นแล้ว​​และวุ่นวายเตรียมสิ่งของ น่าแปลกใจ​ที่เด็กสาวเมก์นายังหลับอยู่​ ผม​กำลัง​จะปลุกเธอ​เมื่อนางคูมาร์ปลุกเธอเอง เด็กสาวลุกขึ้น​นั่งด้วยกิริยามึนงง ยืนขึ้น​​แต่ก็​ต้องนั่งลงอีกครั้งทันที ออกปากว่ามึนหัวคลื่นไส้ ครอบครัวคูมาร์ช่วยเธอเก็บข้าวของ ​เมื่อรถไฟเข้าจอด ​เขา​ทั้งคู่​ได้เข้าช่วยเธอลงจากรถไฟ เด็กสาวท่าทางไม่สบาย เดินเซนิดๆ​ ผมกล่าวลาเธอ​พร้อมหวังว่าเธอคงไม่​เป็นอะไร​มากก่อน​ที่ผม​จะออกจากสถานีรถไฟแห่งนั้น​

ผมไม่​ได้คิดถึงเรื่อง​เด็กสาวเมก์นาอีกเลย​ ด้วยดีใจ​ที่​ได้กลับมาอยู่​บ้านเสียทีหลังจาก​ที่​ต้องทำงานต่างเมืองเสียสามเดือน ​แต่​เมื่อเวลาผ่าน​ไปเพียงสองคืน ผมเห็นข่าวเกี่ยว​กับเด็กสาวคนหนึ่ง​ถูกฆ่า​ที่สถานีโคลคาธา​ที่เดียว​กับสถานี​ที่ผมเพิ่ง​ใช้ ​และมีรูปของเด็กสาวคนนั้น​ด้วย ทำให้ผมสะดุ้งตกใจอย่างนึกไม่ถึง ​เมื่อเห็นว่า​เป็นรูปของเด็กสาวเมก์นานั่นเอง ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งเลวร้าย​ได้เกิดขึ้น​​กับเด็กสาวคนนั้น​...​ท่าทางเธอแสน​จะมี​ความสุขในรถไฟ ​แต่ผมผิดหวังมาก​ที่หนังสือไม่​ได้ลงรายละเอียดเกี่ยว​กับฆาตกรรม มีเพียงว่า ศพ​ที่​กำลังเน่าเปื่อยถูกพบในห้องน้ำห้องหนึ่ง​​ที่​เป็นห้องน้ำสำหรับพนักงานรถไฟ คนขายของ​ได้แจ้งให้พนักงานรถไฟทราบถึงกลิ่นเหม็น​ที่ลอยมาจากห้องนั้น​ ​เมื่อพังประตูลงก็พบศพของเด็กสาว ตำรวจ​ได้สืบสวน​และ​ได้ข้อมูลเพียงว่า ​เมื่อสองวันก่อน มีชายคนหนึ่ง​พาร่าง​ที่เกือบหมดสติของเด็กสาวเข้า​ไป​ที่ห้องนั้น​​และล็อคประตูจากข้างนอก ​และ​เขา​ได้​ไปขอซื้อนมจากพ่อค้าขายน้ำชา บอกว่าน้องสาว​เขา​ต้องการนมเ​พระา​กำลังไม่สบาย หนังสือพิมพ์บอกอีกว่า การสืบสวนเรื่อง​ฆาตกรรมเรื่อง​นี้ยัง​เป็น​ไปอย่างต่อ​เนื่อง

อาทิตย์หนึ่ง​ผ่าน​ไป หนังสือพิมพ์ลงเรื่อง​ของเด็กสาวเมก์นาอีกครั้ง บอกว่า การสืบสวน​ได้เรื่อง​มาว่าชาย​ที่นำร่างของเด็กสาว​ที่เกือบไม่มีสติ​ไปไว้ในห้องนั้น​​และขังเธอไว้​คือนายคูมาร์ ​เมื่อ​เขากลับมาอีกครั้ง​เขา​ได้ข่มขืนเธอ​และพยายามบังคับให้เธอ​ไปขายตัว ​เขาทำ​แม้กระทั่งขายเธอจน​ได้รับเงินจากแมงดาคนหนึ่ง​ ​เมื่อเมก์นาปฏิเสธ​ที่​จะทำตาม สัตว์นรกในคราบคนตัวนั้น​​ได้​ใช้ปืนขู่​และเด็กสาวก็ยืนยัน​ที่​จะไม่ขายตัว​เป็นอันขาด ​พร้อม​ทั้งพยายามต่อสู้ด้วยการแย่งปืนจากนายคูมาร์ใจเหี้ยมคนนั้น​ ขณะ​ที่​กำลังชุลมุนกันนั้น​ ปืน​ได้ลั่นถูกเด็กสาวผู้เคราะห์ร้าย ทำให้เธอเสียชีวิต ตำรวจ​ได้ตามจับคู่สามีภรรยาคูมาร์​ได้แล้ว​ ​และรายงานว่า คู่นี้​เป็นคู่​ที่ทำงานร่วมกัน​เป็นกลุ่มอาชญากร​ที่มี​ความชำนาญในการหลอกลวงเด็กสาว​ที่เชื่อใจคนแปลกหน้า นำ​ไปบังคับให้ขายตัว รวม​ทั้ง​เป็นสมาชิกกลุ่มอาชญากร​ที่แลกเปลี่ยน​และขายเด็กสาวด้วย โธ่เอ๋ย...​เด็กสาวเมก์นา​เป็นเหยื่อ​ที่หลอกง่ายดาย​เพราะเธอเดินทางไกลตามลำพัง

ผมเศร้าโศกเสียใจการจาก​ไปของชีวิต​ที่บริสุทธิ์ชีวิตหนึ่ง​ ผมยังจำ​ได้ถึงรอยยิ้มแจ่มใส​ที่แพร่กระจายให้คน​ที่อยู่​ใกล้ๆ​ของเมก์นา​ได้ จำ​ได้ถึง​ความมีชีวิตชีวาของเธอ...​น่าเสียดาย...​

จบบริบูรณ์

 

F a c t   C a r d
Article ID A-3454 Article's Rate 6 votes
ชื่อเรื่อง สาวเอ๋ย…จงระวัง
ผู้แต่ง กัลปจันทรา
ตีพิมพ์เมื่อ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๓
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องแปล
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๔๔๐ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๔ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๒๕
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : ลุงเปี๊ยก [C-17404 ], [111.84.42.88]
เมื่อวันที่ : 24 ส.ค. 2553, 06.59 น.

ขอบคุณพี่กัลป์ฯสำหรับการแปลให้พวกเรา​ได้อ่านครับ​

ผม​ต้องหัดเขียนเรื่อง​ให้กระชับแบบเรื่อง​นี้มั่ง

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : pilgrim [C-17407 ], [124.121.117.128]
เมื่อวันที่ : 24 ส.ค. 2553, 21.14 น.

เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​​ที่ดูเหมือนเกิดขึ้น​ทั่งๆ​ ​ไป เรียกว่าพล็อตซ้ำๆ​ ​แต่คนเขียน เขยน​ได้ดี ทำให้เราสะเทือนใจ แล้ว​เก็บ​ไปคิดต่อ​ได้อีกเยอะเลย​ค่ะ​ ขอบคุณพี่กลัป์มากค่ะ​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๓ : ลุงปิง [C-17469 ], [58.10.234.92]
เมื่อวันที่ : 05 ก.ย. 2553, 00.46 น.

เรื่อง​ของอินเดีย สไตล์การเขียนเรียบง่ายดี อ่านสนุกครับ​

เหมือน​กับรายงานข่าวของพิธีกร​ที่นำเสนอ​ข่าวทีวีบ้านเราเปี๊ยบเลย​..

หวังว่าคงมีเวลาว่าง ​เอาเรื่อง​ดีๆ​มาให้​ได้อ่านอีกนะครับ​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๔ : เปิดฟ้า ก้องหล้า [C-19179 ], [171.7.248.199]
เมื่อวันที่ : 10 มิ.ย. 2558, 15.41 น.

เรื่อง​แปลนี้ดี ​ใช้ภาษาสละสลวยกลมกลืน ราบรื่นน่าอ่านมาก ​ได้คติสำหรับวัยรุ่นสาวท่ีชอบเ​ที่ยว​ไปไหนคนเดียว ​ซึ่ง​เป็นส่ิงท่ีน่า​เป็นห่วงเรื่อง​การเชื่อคนแปลกหน้าท่ีมีอยู่​แม้​แต่ในเมืองไทย

ดีมากครับ​
สวัสดี

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น