นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๐๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
ถ-ตามหาความสุข?
เล็ก โยธา
...ถ-ตามหา​​ความสุข ? = ถามหา​​ความสุข+ตามหา​​ความสุข...
ถ-ตามหา​ความสุข ?


ผมชอบทำอาหารทุกเช้า​ของวันอาทิตย์ นอกจากเหตุผล​ส่วนตัว​ที่​เป็นคนชอบทำอาหารแล้ว​ เรามักผิดหวังกลับการ​ไปกินอาหารนอกบ้าน อย่าง​เมื่อวาน สั่งปลาเก๋าทอดน้ำปลา เจอราคาจานละ650 บาท​ ปลาตัวโตกว่าฝ่ามือนิดเดียว ​และไม่เต็มใจ​ที่​จะตายด้วย ​(ไม่สด)​ วันนี้เลย​ตั้งใจ​ที่​จะ ซื้อมาทอดเอง อย่างมากก็สองร้อยกว่าบาท​ สดกว่าด้วย

​และเหตุผล​ที่สำคัญ​ที่สุดของการ​ได้ทำอาหาร ผม​จะมี​ความสุขมาก ​ที่​ได้เห็นทุกคนกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ด้วยหน้าตา​ที่พึงพอใจ จากฝีมือของเราเอง
​ที่บ้าน​จะตั้งโต๊ะกินอาหารเช้า​ กินกัน​เป็นเรื่อง​​เป็นราว เหมือน​กับทุกคน​ที่กินอาหารเย็นเต็มโต๊ะ อย่างไงอย่างนั้น​​ส่วนอาหารมื้อเย็นกลับตรงกันข้าม เคยคิด​จะอดข้าวเย็นตาม​ที่​พระพุทธเจ้า ท่านห้าม ​เพราะท่านเห็นว่า กินแล้ว​ก็ใกล้ถึงเวลานอน เสียประโยชน์เปล่า ​จะติดก็​ที่เด็ก ๆ​​กำลังโต ​จะอดอาหาร​ทั้งมื้อ คงไม่เข้าที

จากทุกครั้ง​ที่​จะ​ต้องขับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า วันนี้เราเลือก​ที่​จะเดิน​ไปหน้าหมู่บ้าน ก็ราวๆ​ ซักกิโลกว่า อยู่​หมู่บ้านนี้มาก็เกือบ 10ปี ยังไม่เคยเดินเล่นเลย​ วันนี้ก็เลย​ถือโอกาส ออก​กำลังกาย​ไปด้วย เช้า​นี้ในหมู่บ้านไม่​ได้เงียบเหงาอย่าง​ที่คิด ​จะเห็นคนแก่ มาออก​กำลังกายเต็ม​ไปหมด เจออาซิ้มคนหนึ่ง​นั่งร้องไห้ เข้าใจว่าคง ทะเลาะหรืองอน​กับคนในบ้าน คนแก่ก็อย่างนี้แหละ​ ขี้น้อยใจ ลูกหลาน​ส่วนมากก็ไม่ค่อยสนใจกัน คง​ต้องรอให้ตรุษจีนนั่นแหละ​ ตอน​ที่​ได้ไหว้เจ้า เพิ่ง​จะมาคิด​ได้ ​และอยาก​ที่​จะ​เอาใจ ก็สายเสียแล้ว​ อาหาร​ที่พ่อแม่ เคยชอบก็​จะจัดหามาเซ่นไหว้ อย่างดี ตอน​ที่พ่อแม่มีชีวิตกลับคิดกันไม่ค่อย​ได้ พอบ่นอยาก​จะกินโน่นกินนี่ ก็พาลหาว่าเรื่อง​มาก ​แต่ตอนนี้ไหว้​กับข้าวเต็มโต๊ะแบบนี้ พ่อแม่​จะ​ได้กินซักคำหรือเปล่ายังไม่รู้เลย​ ?

​ได้เดินลัดสนามหญ้า เจอกลุ่มคนงาน นั่งกินข้าวล้อมวงข้างถนน ​กับข้าวแบเต็มพื้นถนน จนคนอื่น​ที่เดินผ่านพากันดูแคลน ​แต่พวก​เขาก็มีจิตใจเรียกเรา กินด้วย ด้วยจิตใจ​ที่ ประเสริฐ ถึง​เขา​จะมีน้อยหรือไม่มี ​แต่ทุกคนก็ยังมีคำว่าแบ่งปัน อยู่​ในจิตใจ ในขณะ​ที่เราเองกลับมี​แต่คำว่า แย่งกัน

ผ่านสระว่ายน้ำ คุณ​(ทวด)​ หมอ ก็ยังคงว่ายน้ำเหมือนกันทุกวัน เห็น​เขาว่า ปีนี้แกก็​จะอายุ 85 ปีแล้ว​ เพิ่งกลับจากรพ.​เมื่อวาน ไม่​ได้​ไปให้หมอฉีดยาหรอก แก​ไปเยี่ยม ลูกของเหลน ​ที่ท้องตั้งแต่ยังไม่จบม.6 ไล่ญาตินับญาติกันคงลำบากพอดู คุณหมอทวด แกบอกว่าแกมีเป้าหมาย​ที่​จะมีชีวิตอยู่​ถึง 120 ปี แกบอกว่าโครงสร้างของร่างกายมนุษย์มันควร​จะมีอายุเท่านั้น​จริง ๆ​ตาม​ที่แกเรียนมา ทุกวันนี้มนุษย์ทำลายอายุขัยตัวเองด้วยอาหาร ​และไม่ออก​กำลังกาย ก็​จะจริงอย่าง​ที่แกพูด แกเองอายุปูนนี้ ว่ายน้ำวันละ 200 เมตรสบาย ๆ​ ​และอัตราการเผาผลาญอาหารแกต่ำมาก หัวใจแกเต้นแค่ 60 ครั้ง/วินาที น้อยกว่าปกติของคนเรา​ที่ 75 --80 ครั้ง ​ถ้าร่างกายถอดออกมาดู​ได้ ก็​จะ เหมือน​กับเครื่องยนต์​ที่ยังใหม่อยู่​ แกยังเล่าต่อ​ไปว่าจิตใจ​และ​กำลังใจ ​เป็นอาหารเสริมอย่างดี วิเศษกว่าอาหารใด ๆ​ แกเล่าว่า ​เมื่อก่อนแกก็เหมือนคนทั่ว ๆ​​ไป ไม่ค่อย​ได้สนใจร่างกายตัวเองหรอก จนกระทั่งแก​ไปเจอคนไข้อยู่​ caseหนึ่ง​ ​ซึ่งทำให้วิถีชีวิตแกเปลี่ยน​ไปมาก ​คือคู่ผัวเมียภารโรง​ที่โรงพยาบาล​ที่แกทำงานอยู่​ ผัว​เป็นภารโรง เมีย​เป็นแม่บ้าน อยู่​ ๆ​ เมียแกก็​เป็นมะเร็ง​ที่มดลูก ระยะ​ที่ 4 ถึงขนาดเลือดตก ยางออก Case นี้ คุณหมอบอกว่า อยู่​อย่างมากไม่เกิน 6 เดือน ​แต่เมียภารโรง แกค่อนข้าง​จะเพี้ยน หาว่า หมอตรวจผิด แกไม่​เป็นอะไร​ แกออก​จะแข็งแรง วันไหนผัวเมากลับมา แกแบกผัวจากหน้า รพ. มา​ที่บ้านพักหลัง รพ. สบาย ๆ​
จนกระทั่งเวลาผ่าน​ไป 6 ปี ตอนนี้ฝ่ายเมียแม่บ้าน นั่งรักษาการ ตำแหน่งภารโรงแทนผัว ​ส่วนผัวภารโรงตอนนี้นั่งรักษาอาการนอนอยู่​ห้อง ICU ​เพราะ​เป็นมะเร็งตับ ​เนื่องจากกลุ้มใจมาก​ที่เมีย​เป็นมะเร็ง ก็เลย​กินเหล้าย้อมใจ หนักกว่าเดิมอีก...​. ใจหาย ก็​จะพาลไม่หายใจ ​เอา

มาถึงป้อมยามหน้าหมู่บ้าน หลวงตายังยืนรอรับบาตร อยู่​เลย​ ​เขาว่าแก​เป็นคนแปลก แก​กำลังกลับวัด แกร้องขอให้ช่วย หิ้วของตาม​ไปส่งแกหน่อย​ เราเองก็รู้สึกไม่ค่อยเต็มใจนัก นี่ขนาดบวช​เป็น​พระแล้ว​ แค่องค์เดียว บิณฑบาท​​เอากลับวัดเยอะแยะ พะรุงพะรัง 4-5 ถุงเต็ม ๆ​ ​ไปทำไม ? เรื่อง​แค่นี้ยังยึดติด ยังสะสม ตัดไม่​ได้ ​แต่เห็นว่า​เป็น​พระ จึงจำใจช่วย เดิน​ไปด้วยกัน คุย​ไปด้วยกัน ถึง​ได้รู้​ความจริง​ที่ว่า ...​...​...​...​...​...​...​ตลอดทาง​ที่เดินกลับวัด ผ่านคนจรจัดเจอคนบ้า นอนข้างถนน แกก็​เอาข้าว​ไปให้กิน ของในบาตรในย่าม ​ใครขอแกก็ให้ จนสุดท้ายก่อนถึงประตูวัด เหลือข้าวติดบาตร ​และแกงอยู่​ 2-3 ถุง แก บอกว่า คนเราน่ะ กินอยู่​ แค่นี้ก็พอเพียงแล้ว​

ฟังแล้ว​ แทบ​จะบรรลุธรรม อาจ​จะจริงอย่าง​ที่แกพูด ​เพราะตั้งแต่ช่วยแกแบกอาหาร 3-4 ถุงใหญ่ ๆ​ น่า​จะยินดี ​แต่กลับหนัก​และ​เป็นทุกข์จากการแบก​และสะสม ยิ่งมากกลับยิ่งทุกข์ ​แต่​เมื่อนำ​ไปแจกแก่ผู้คน​ที่อดอยาก ยิ่งให้ ยิ่งเสีย ยิ่งหมด ​แต่ใจกลับเปี่ยมสุข นี่แหละ​หนา ยิ่งให้กลับยิ่ง​ได้รับ อะไร​​จะสุขจากการให้​เป็นไม่มี
หนทาง​ไปสู่​ความสุขของคนเรานี่มันแปลก​และแตกต่างกันจริง ๆ​ ทุกคนพยายามดิ้นรน​เพื่อ​ที่​จะพยายามสร้างเงื่อนไข​ที่​จะ​เป็นตัวแปล ​(constrain)​ ​เพื่อ​เป็นบันไดก้าว​ไปสู่หนทางของ​ความสุขให้​กับตัวเอง ในขณะเดียวกันก็พยายามแก้เงื่อนไข ​ที่​เป็นเหตุทำให้ตนเองเกิด​ความทุกข์

จริง ๆ​แล้ว​ สุข​กับทุกข์ มันไม่​ได้อยู่​ด้วยเงื่อนไขอะไร​เหล่านั้น​หรอก ​เพราะเงื่อนไข​ทั้งหมด​ที่เกิดขึ้น​ มันมีอยู่​ ตั้งอยู่​ แล้ว​ก็​จะดับ​ไปตามสภาพของสัจธรรมของมันเอง ตัวเรา​จะสุขหรือ​จะทุกข์อยู่​​ที่ใจของเรา มัน​จะกำหนดสภาวะ อยากสุขหรืออยากทุกข์ ต่างหาก ​และ​ความสุขเราก้ไม่จำ​เป็น​ต้อง​ไปดิ้นรนหามัน ในขณะเดียวกัน​ความทุกข์เราก็ไม่จำ​เป็น​ต้องหลีกหนี เราควร​ที่​จะ เรียนรู้​ที่​จะอยู่​สบาย​กับมันให้​ได้อย่าให้มันมามีผลกระทบมากมาย​ต่อตัวเรา ​เพราะมัน​เป็นเรื่อง​ธรรมชาติ มันมา​และมันก็​ไปมันเอง

ตามหา​ความสุข อยู่​นาน ...​...​. ​ที่แท้ ​ความสุขสร้าง​ได้จากใจ ​ที่เรากำหนด เหมือนกลับตัวเองหลงทางมา​ทั้งชีวิต จริง ๆ​แล้ว​​ความสุข​และ​ความทุกข์มันไม่​ได้อยู่​ไกล ​และมีเงื่อนไขมากมาย​อะไร​หรอก
มันซ่อนอยู่​ในหลืบ เล็ก ๆ​ของจิตใจ ​ที่เราไม่สนใจ จึงทำให้เรา หามันไม่เจอ...​.ต่างหาก

 

F a c t   C a r d
Article ID A-3379 Article's Rate 2 votes
ชื่อเรื่อง ถ-ตามหาความสุข?
ผู้แต่ง เล็ก โยธา
ตีพิมพ์เมื่อ ๐๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องสั้น
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๔๘๔ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๒ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๑๐
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : ศาลานกน้อย [C-16717 ], [000.000.000.000]
เมื่อวันที่ : 09 ก.พ. 2553, 04.53 น.

ผู้อ่าน​ที่รัก,

นิตยสารรายสะดวก​ ​และผู้เขียนยินดีรับฟัง​ความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดง​ความเห็น​ได้​โดยอิสระ ขอขอบคุณ​และรู้สึก​เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมี​ส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : Rotjana Geneva [C-16740 ], [193.134.193.5]
เมื่อวันที่ : 23 ก.พ. 2553, 21.54 น.

ขอบคุณ ​และสาธุค่ะ​

รจนาก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าแบกสัมภาระในชีวิตไว้มากมาย​ ​ทั้งหนัก​ทั้งทุกข์ ​ต้องค่อย ๆ​ แจกจ่าย ​และปล่้อยวาง​ไปเรื่อย ๆ​

ยังอีกนานค่ะ​กว่า​จะหมด

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น