![]() |
![]() |
ข้าวฟ่าง![]() |
...อนิจจา วต สังขารา-สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
อุปปาทวยธัมมิโน-มีอันเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา
อุปปัชชิตวา นิรุชฌันติ-บังเกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป
เตสัง วูปสโม สุโข-การเข้าไประงับสังขารเหล่านั้นเสียได้ เป็นความสุข...
อุปปาทวยธัมมิโน-มีอันเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา
อุปปัชชิตวา นิรุชฌันติ-บังเกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป
เตสัง วูปสโม สุโข-การเข้าไประงับสังขารเหล่านั้นเสียได้ เป็นความสุข...

ผมได้แต่เฝ้ามองเธอและระลึกถึงวันเก่าๆที่เราเคยใช้ชีวิตร่วมกัน...
ผู้หญิงตัวเล็กๆ สูงโปร่งคนหนึ่ง นุ่งกระโปรงยาวถึงตาตุ่ม ใส่เสื้อสตรีสีขาวน่ารัก ใส่รองเท้าที่มองไม่เห็นความสูงของส้นเลย สะพายกระเป๋าคล้ายย่ามที่เป็นผ้าไทย ใส่แว่นตากรอบสีดำ กระจกใสแจ๋ว
ผมเป็นลอนนั้นถูกรวบไว้แล้วมัดเป็นมวยดูเรียบร้อย ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางค์ใดๆ นัยน์ตากลมคู่นั้นดูเป็นธรรมชาติ ถึงจะไม่ได้ตาโตเหมือนเนื้อทรายก็ตาม
สองมือหอบตำรามากมาย ทั้งหนังสือและกระดาษแลคเช่อร์ สำหรับเพื่อนๆร่วมชั้นเรียนทุกคน....ผมไม่อาจมองผ่านเธอไปได้เลย นั่นเป็นวันแรกที่ผมได้พบเธอ "พริกหวาน" คนดีที่สุดของผม และผู้หญิงหัวใจเพชรคนนี้...
ผมเห็นเธอวิ่งไปวิ่งมากับเรื่องของเพื่อนคนนั้นคนนี้อยู่เสมอ คอยจดแลคเชอร์แล้วถ่ายเอกสารให้เพื่อนที่ไม่ได้เข้าเรียน คอยโทรตามเพื่อนเพื่อเอางานไปส่งอาจารย์ คอยดูแลรับรองอาจารย์
และผมก็ไม่เคยเห็นเธอนั่งหลับในชั้นเรียนสักครั้งเลย ผมมารู้ทีหลังเมื่อมีโอกาสได้คุยกันบ้าง ว่าเธอ..ไม่เคยนอนก่อนเที่ยงคืนสักวัน โดยส่วนมากก็ตีสอง และตื่นตีห้าทุกวัน เธอทำงานทุกๆวัน วันหยุดของเธอ คือวันที่เธอมาเรียนหนังสือ เธอมีรอยยิ้มให้ทุกคน เข้าร่วมกิจกรรมทุกอย่างที่มี
ผมไม่รู้ว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เพราะผมแอบนั่งสัปหงกในห้องเรียนบ่อยๆ บางครั้งต้องลุกไปล้างหน้า เพราะหันไปเห็นเธอนั่งฟังอาจารย์บรรยายตาแป๋ว พร้อมกับจดบันทึกด้วยความรวดเร็วเสมอ เธอเรียนเก่งในทุกๆวิชา เป็นผู้หญิงฉลาดแต่ไม่หยิ่ง ไม่ถือตัว พร้อมเสมอที่จะให้การช่วยเหลือ เพื่อนคนไหนสงสัยอะไร เธอยินดีที่จะอธิบาย ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน และยินดีจะช่วยเพื่อนที่ทำไม่ได้ หรือคิดไม่ออกอีกต่างหาก
วันไหนผมไม่เข้าเรียน เธอก็โทรถามไถ่ แต่เธอไม่เคยขาดเรียนสักชม.เลยนะ ผมไม่อยากเชื่อว่า ยังมีผู้หญิงสมบูรณ์แบบอยู่ในโลกใบนี้อีก
เธอดีจนน่าจะอยู่บนหิ้ง เอาไว้ให้คนกราบไหว้บูชา มากกว่ามารับใช้คนตั้งมากมายอย่างนี้ แล้วเพื่อนก็สารพัดเพื่อนจริงๆ ส่วนมากมีแต่ได้
ผมเชื่อว่า กว่าครึ่งที่จบการศึกษาในชั้นเพราะเธอ และผมก็คิดว่า ถ้าไม่มีเธอ...ผมและเพื่อนหลายคนก็คงยังไม่ได้รับปริญญา เธอไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยท้อที่จะทำอะไรให้ใครต่อใคร บางครั้งเธอไม่ได้หลับไม่ได้นอนติดต่อกันหลายวันทีเดียว เพื่อนส่วนมากเสร็จงานก็พาไปเลี้ยง แล้วก็จบกัน...นั่นคือสังคมปัจจุบัน
แต่ผมอยู่เคียงข้างเธอตั้งแต่วันนั้น วันที่ผมได้คุยกับเธอ ได้เห็นความจริงใจใสสะอาดในจิตใจ ได้เห็นความดีที่หาได้ยาก ได้เห็นหัวใจที่แข็งแกร่ง และทรหดกับความยากลำบาก เธอไม่ได้ร่ำรวยหรือสุขสบายเลยเท่าที่รับรู้มา เธอทำงานตั้งแต่เรียนชั้นประถมด้วยซ้ำ และทำจนนาทีสุดท้ายของชีวิต เธอไปดูแลผู้ป่วยใกล้ตาย จนตายอยู่กับเธอหลายคนด้วยความเต็มใจ แม้แต่ผู้ที่เป็นโรคที่สังคมรังเกียจเธอก็ทำโดยไม่รังเกียจ
...และวันนั้นเป็นวันที่ผมโกรธสวรรค์ที่สร้างให้เธอมาแบบนี้ เธอป่วยหนัก...จนได้รับการตรวจอย่างละเอียด หมอบอกว่า...หมอเองก็งง ความจริงโรคที่เธอเป็น ก็น่าจะตายไปตั้งแต่เด็กๆแล้ว หรืออย่างดีรอดมาเธอก็เป็นได้แค่คนสมองพิการ เป็นคนปัญญาอ่อนไปเลย แต่วันนี้เธอกลับเป็นคนที่สมบูรณ์มาก เพียงแต่อาการของโรคมาถึงเวลาสุดท้ายแล้วจริงๆ....
อีกครั้งที่ผมได้เห็นหัวใจเพชรของเธอ เธอยิ้มกับโรคร้ายของเธอ และบอกให้ผมไปห่างๆ ไปมองคนอื่น ไปเลือกคนอื่น ส่วนเธอจะทำทุกอย่างเป็นปกติในทุกๆวัน วันนั้น...ผมขอให้เธอแต่งงานกับผม และผมจะดูแลเธอเอง ผมอยากให้เธอมีความสุขและไม่ลำบากอีกต่อไป ผมรักเธอจนหมดหัวใจ เธอผู้ไม่เคยคิดร้ายกับใคร ไม่เคยโกรธใคร ไม่เคยมองโลกในแง่ร้าย
เธอบอกผมว่า...การรู้ตัวว่า ชีวิตเรามีเวลาน้อยกว่าคนที่สุขภาพสมบูรณ์ ถือเป็นความโชคดี เพราะเธอจะไม่เสียเวลาไปทำเรื่องแย่ๆ และสิ่งไม่ดีอีกแล้ว ตอนนี้เธอจะทำแต่เรื่องดีๆ มีผมคอยดูแลอยู่ข้างๆ ดูแลพ่อแม่พี่น้องของเธอตามที่เธอทำได้...รักทุกสิ่งรอบกาย
นั่นคือเธอคนนี้ เธอเป็นนางฟ้าของผมเสมอมาครับ

พระสวดเสร็จพร้อมแปลให้ผู้คนที่มาร่วมงานฟัง
แขกเหรื่อพากันกลับเกือบหมดแล้ว แต่ผมยังนั่งนิ่งอยู่หน้ารูปของเธอ..แว่วเสียงพระสวด...
อนิจจา วต สังขารา-สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
อุปปาทวยธัมมิโน-มีอันเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา
อุปปัชชิตวา นิรุชฌันติ-บังเกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป
เตสัง วูปสโม สุโข-การเข้าไประงับสังขารเหล่านั้นเสียได้ เป็นความสุข
การเข้าไประงับสังขารเหล่านั้นเสียได้เป็นความสุข..ความสุขของคนตายหรือคนอยู่ผมเองก็ไม่เข้าใจเลย
ผมเห็นเธอยิ้มให้ผม แต่ผมกำลังจะร้องไห้อีกแล้ว ...พรุ่งนี้เราจะฌาปนกิจเธอเป็นพิธี เพราะเธอบริจาคร่างกายของเธอให้โรงพยาบาลเพื่อเป็นประโยชน์กับนักศึกษาแพทย์
เธอบอกผมว่า...ตายแล้วก็ขอให้เธอเป็นอาจารย์ใหญ่นะ เธอรู้สึกดีที่แม้ร่างไร้วิญญาณก็ยังมีประโยชน์กับผู้อื่นได้อีก ผมพยายามคัดค้าน แต่สุดท้ายผมก็ทำตามความต้องการของเธอครับ
คนดีจะรู้ไหมนะ...ว่าผมคิดถึงเธอตลอดเวลา จนบางครั้งอยากตายตามเธอไป แต่คำพูดของเธอ "The Show must go on." ยังก้องอยู่ในหูของผม
เธอบอกว่า...วันไหนที่อยากมีใครใหม่ หรือไปรักใครที่ดีกว่าเธอ ถูกใจมากกว่าเธอ ให้บอกนะ เธอยินดีจะให้ผมไปเลือกเขาคนนั้น
และเธอบอกผมบ่อยๆว่า ถ้าวันไหนที่เธอจากไป...อย่าร้องไห้นะ อย่าร้องไห้ ขอแค่คิดถึงเธอบ้างก็พอ แค่อย่าลืมเธอมันก็มีค่ามากมายสำหรับเธอแล้ว ไม่มีใครตายเพราะไม่มีใครนะ ไม่ว่า"เรา"จะรักกันมากแค่ไหนก็ตาม
....วันนี้ผมยังมีเธออยู่ในใจเสมอครับ

ครั้งหนึ่ง...เธอได้ยินผมปรารภเรื่องมูลนิธิของคนที่ป่วยเป็นโรคเดียวกับพริกหวาน เธอจัดให้โดยใช้ชื่อของพริกหวานในการก่อตั้ง ทุกวันนี้มูลนิธิ ดูแลตัวเองได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก ได้ช่วยเหลือสังคมของคนป่วยเช่นพริกหวาน
ที่มูลนิธิ มีรูปขนาดใหญ่ของพริกหวานอยู่ด้วยครับ ผมโชคดีที่เกิดมาได้เจอคนดีๆเสมอ พริกหวานยังเป็นคนที่ผมไม่เคยลืมเธอสักวัน...
คนที่อยู่เคียงข้างผมทุกวันนี้ ยังเป็นคนดีเสมอมา แต่เธอพร้อมหมดทุกอย่าง ไม่ป่วยไข้ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ลำบากเรื่องความเป็นอยู่ ดูจะสุขสบายไปด้วยซ้ำ
แปลกนะครับที่คนเราต่างกันได้ขนาดนี้...อย่างคำเขาว่า...สัตว์โลกย่อมเป็นตามกรรมของแต่ละคนนั้นคงจริง
###....วันนี้มีงานฌาปนกิจอาจารย์ใหญ่จริงๆ ที่รพ.จัดให้อาจารย์ใหญ่ทุกท่าน ความจริงเธอจากผมไปนานแรมปี แต่เพิ่งมีวันนี้ที่ผมรู้สึกว่า เธอจากผมไปจริงๆ
เพราะทุกๆวันผมคิดว่าร่างกายของเธอยังอยู่ที่รพ. ไม่มีวันไหนที่ผมไม่คิดถึงเธอ
ท่ามกลางผู้คนที่มาร่วมงาน และการกล่าวขอบคุณอาจารย์ใหญ่ของรพ. ทำเอาผมขนลุกซู่ เพราะรู้สึกเหมือนอาจารย์ใหญ่ทุกท่านมายิ้มรับคำขอบคุณ
หนึ่งในนั้นคือ เธอ พริกหวาน..รอยยิ้มสดใส ร่างกายบอบบาง ผมเป็นลอนของเธอ เธอโบกมือมาทางผมด้วยครับ
แล้วเธอก็มองสบตาผมจริงๆ เธอเดินเข้ามากุมมือผมไว้
บรรจงหอมแก้มทั้งซ้ายขวาของผม แล้วเธอก็เดินจากไป...
ผมมองด้านหลังของเธอจนลับตา...
เอ่ยปาก ขอให้โชคดีนะ คนดีของพี่ พริกหวานจะเป็นนางฟ้าของพี่ทุกชาติไป....
คุณพ่อครับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คุณพ่อขาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คุณ ปู่ครับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คุณปู่ขาๆๆๆๆตื่นนะคะ พริกหวานอยากให้คุณปู่เล่านิทานให้ฟังคะ...
คุณปู่ขาๆๆๆๆๆๆๆ ไหนคุณปู่สัญญากับพริกหวานว่าจะซื้อตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่สุดในร้านนั้นให้พริกหวานไงคะ...
คุณปู่ไม่ตื่นขึ้นมา พริกหวานจะร้องไห้ ให้น้ำตาไหลจนหมดตัวเลยนะคะ.....ฮือ ฮือ ฮือ..คุณปู่ขาๆๆๆๆ
เมื่อวันที่ : 25 พ.ย. 2552, 08.26 น.
ให้ความรู้สึกดีๆ อีกแล้วนะครับ ข้าวฟ่าง ทำให้นึกถึงใครบางคนที่จากไป แต่ยังมีชีวิตอยู่นะครับ พริกหวานแม้ ไม่มีลมหายใจแล้ว ร่างกายยังมีประโยชน์ แต่คนที่ร่างกาย และ ลมหายใจ อยู่ครบ ทำไม ไม่มีหัวใจก็ไม่รู้เนอะ ข้าวฟ่าง