![]() |
![]() |
กานต์ติ![]() |
..."หนูขี้เกียจทนแล้วว่ะ.. "เราเลิกกันเถอะ""...

"ที่ผ่านมาฉันยอมให้เธอมามาก แต่มันจะมากเกินไปแล้ว.. "เลิกกันไปดีกว่า".."
"นี่เราทำถูกแล้วใช่ไหม"..
แก้มถามขึ้น ระหว่างที่ผู้เขียนจะดับไฟเตรียมนอน
เมื่อเห็นเพื่อนยังสับสนกับการตัดสินใจในวันนี้ ผู้เขียนก็ได้แต่ปลอบให้นอน ให้เลิกคิด
เพราะถ้าจะให้ตอบจริงๆ ว่า "ถูกหรือไม่" มันตอบยากนา
เลยได้แต่บอกเพื่อนไปว่า "ได้เวลานอนเราก็นอน ทำสิ่งที่ควรแก่เวลาน่ะ ดีที่สุด"
.....
.....
ย้อนกลับไปเมื่อวานตอนเช้า..
ขณะที่ผู้เขียนยังหลับสบาย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น(เพลงฤดูที่แตกต่าง)
พอรับสายก็ได้ยินเสียงแก้มเพื่อนสนิทเอาแต่ร้องไห้ ถามอะไรก็คุยไม่รู้เรื่อง
ผู้เขียนเลยเดาว่าคงมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ จึงรีบรุดไปบ้านแก้มทันที
พอไปถึง ได้เห็นสภาพบ้านรกๆ กับตุ๊กตาที่โดนฉีกเป็นชิ้นๆ ก็รู้ว่า ปัญหาครอบครัวแน่ๆ
แต่แปลกใจตรงที่ "แก้ม" กับ "พี่ปาย" ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงขนาดนี้
แสดงว่ารอบนี้ต้องหนักหนาจริงๆ
"เพิ่งแต่งได้แค่สองเดือน นี่กะจะฆ่ากันแล้วหรอเนี่ย" ผู้เขียนถามทันทีที่เจอหน้าเพื่อน
"เลิกกันแล้วด้วย" แก้มตอบทั้งน้ำตา+ขี้มูก ไหลพรากกกก
"เฮ้ย!!..ทำไมอ่ะ?!?"..
"เพราะเรื่องพี่ฝนน่ะสิ" ...
ท้าวความถึงเรื่อง "พี่ฝน"..
เมื่ออดีต พี่ฝน เป็นแฟนเก่าพี่ปาย น่าจะเป็น "รักแรก" ด้วย
เพราะขนาดเลิกกันไปตั้งนาน พี่ปายก็ยังเป็นห่วงพี่ฝนเสมอ
ยิ่งรู้ว่าพี่ฝนหย่าขาดกับแฟน พี่ปายยิ่งตามดูแลทุกฝีก้าว
แก้มเองก็รับไม่ได้ เคยขอร้องให้พี่ปายหยุด แต่พี่ปายก็มีข้ออ้างตลอด
ทั้งที่ใครมอง เขาก็รู้ว่า "ถ่านไฟเก่ายังคุ"
แก้มเองก็คิดอย่างนั้น แล้วก็รู้ดีด้วยว่า พี่ปายยังรักพี่ฝนตลอดมา
แต่จะตำหนิพี่ปายก็เกรงใจ เพราะที่ผ่านมาพี่ปายก็ดูแลแก้มเป็นอย่างดี
ตั้งแต่เสียแม่ไป พี่ปายก็ส่งเสียแก้มจนจบมหาลัยฯ แถมซื้อตึกเปิดร้านเบเกอรี่ให้อีก
แก้มเองก็ซาบซึ้งและไม่อยากสร้างปัญหาให้พี่ปายหนักใจ พยายามสงบปากสงบคำ
แล้วก็เชื่อใจว่า ไหนๆ ก็แต่งงานกันแล้ว พี่ปายคงไม่หักหลัง
จนเมื่อวานซืนตอนสายๆ
จู่ๆ แก้มก็แวะไปหาพี่ปายที่ออฟฟิส พร้อมกับซองสีน้ำตาลซองใหญ่
แก้มบรรจงแกะซองนั้นแล้วเทรูปสี่ห้าบานลงบนโต๊ะทำงาน
พอพี่ปายเห็นเข้าก็ถึงกับช็อค แก้มยังพูดติดตลกว่า "หนูช็อคมาก่อนพี่อี๊ก"
เพราะรูปทั้งหมดเบื้องหน้าในตอนนั้นก็คือ รูปที่พี่ปายจู๋จี๋กับพี่ฝนอยู่บนรถ
พี่ปายพูดอะไรไม่ออก อยากจะแก้ตัว แต่ก็ตะกุกตะกักๆ
ส่วนแก้มกลับพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ..
"หนูขี้เกียจทนแล้วว่ะ.. เราเลิกกันเถอะ"
ง่ายดายมากๆ.. แก้มขอเลิกง่ายๆ เหมือนพี่ปายไม่มีความหมาย
ที่ผ่านมา พี่ปายคิดเสมอว่าคนไร้ญาติขาดมิตรอย่างแก้มคงอยู่ลำพังไม่ได้
แต่สงสัยจะคิดผิด เพราะขนาดพี่ปายรีบตามมาคุกเข่าขอโทษแก้มที่บ้านก็ยังไร้ผล
"อยากให้ยกโทษหรอ.. คำขอโทษมันน้อยไป" แก้มประกาศกร้าว
แถมแก้มยังฉีกตุ๊กตาที่พี่ปายซื้อให้จนขาดเป็นชิ้นๆ อีก คงจะหมายความว่า "ขาดกัน"
พอพี่ปายเห็นว่าแก้มไม่แคร์เขาขนาดนั้น พี่ปายจึงจำใจต้องจากบ้านไปอย่างเงียบๆ
.....
.....
"แกว่าเขาจะกลับมาไหม" แก้มถามอีก หลังจากที่ผู้เขียนปิดไฟจนมืดสนิท
"เฮ้อ..ดีนะที่ฉันมานอนกับแก ว้าวุ่นจริงๆ" ผู้เขียนก็ได้แต่ตอบเฉๆ แต่ก็เอามือเพื่อนมากุมไว้เพื่อปลอบใจ
ก็เข้าใจว่านี่มันเพิ่งคืนแรกที่เลิกกัน เพื่อนคงยังสับสนอยู่มาก แต่คำตอบจริงๆ ในใจผู้เขียนก็คิดว่าเขากลับแน่
ส่วนจะมาเก็บของหรือกลับมาง้อ อันนี้คงยังตอบยากอยู่
จนถึงรุ่งเช้าอีกวัน..
เสียงรถคันหนึ่งขับมาจอดตรงข้างตึกอย่างช้าๆ ผู้เขียนรู้เลยว่า ต้องใช่พี่ปายแน่
ใจของผู้เขียนงี้ลุ้นระทึก แก้มเองก็คงลุ้นเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน
แต่แล้วพอเห็นพี่ปายเดินเข้ามาพร้อมกับตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ เลยรู้ว่า "กลับมาง้อ"
แสดงว่าพี่ปายยังเลือกแก้มอยู่ แถมยังรีบบอกกับแก้มด้วยว่า
"พี่เลิกกับฝนเด็ดขาดแล้ว ยกโทษให้เถอะนะคนดี"
...
...
ไม่ได้อยู่ฟังต่อว่าแก้มจะให้อภัยพี่ปายหรือเปล่า
แต่คิดว่าคงให้อภัย เพราะพี่ปายก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก
แล้วผู้เขียนก็เชื่อว่า การยกโทษ ไม่ได้ทำให้แก้มเสียศักดิ์ศรีเลยสักนิด
กลับกัน การมีสิทธิ์ยกโทษ แสดงให้เห็นว่าแก้มคือคนกำหนดกติกาของเกมส์นี้
และนั่นก็เพราะ แก้มเป็นตัวของตัวเอง แก้มกล้าจะวางเงื่อนไขกับคนอื่น
ถึงแม้การเลิกกันจะเป็นเงื่อนไขที่หักดิบ แต่มันก็ทำให้ชีวิตรักเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ
ส่วนใครจะเอาไปใช้ ผู้เขียนไม่รับประกันว่าความรักของท่านจะเปลี่ยนไปทางไหน
ที่บอกได้คงมีแค่.. อะไรที่ทนไม่ได้ก็อย่าไปทน เคารพตัวเอง แล้วความรักจะดี ^_^
~กานต์ติ~
เมื่อวันที่ : 30 มี.ค. 2552, 13.39 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...