![]() |
![]() |
สะพานกระดาษ![]() |
...วันเจ็ด ปีใหม่ก็เก่าไปร่วมสองเดือนแล้ว พ่อเองพลอยเก่าไปด้วย คิดว่าจะทำอะไรใหม่ ๆ ต้อนรับปีมันก็ลงเอยเหมือนปีก่อน ๆ คือคิดแต่ไม่ได้ทำ ตั้งใจแต่ไม่ได...
วันเจ็ดปีใหม่ก็เก่าไปสองเดือนกว่าแล้ว พ่อเองพลอยเก่าไปด้วย คิดว่าจะทำอะไรใหม่ ๆ ต้อนรับปีมันก็ลงเอยเหมือนปีก่อน ๆ คือคิดแต่ไม่ได้ทำ ตั้งใจแต่ไม่ได้ทำ ที่ว่าตั้งใจนั้นคงเป็นว่าตั้งใจแบบไม่มีอะไรมาจี้ให้ทำ ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนเหมือนการตื่นเช้าไปทำงาน คิดเอาเองว่าคงไม่ใช่เพียงพ่อคนเดียวที่คิดแบบนี้และลงเอยแบบนี้ คนส่วนใหญ่ก็คงเป็นแบบนี้ คำตอบที่เดาได้คือก็พวกเรายังเป็นปุถุชนอยู่นั่นเอง
ลูกคงไม่เข้าใจคำว่าปุถุชนนี้ พ่อขออธิบายเท่าที่จะทำได้ ให้รายละเอียดเท่าที่จะให้ได้ เพื่อลูกจะได้เข้าใจความหมายของคำนี้ ปุถุชนคือคนที่มากด้วยกิเลส คนนี้นับรวมทั้งหญิงและชาย ขยายความของคำว่ากิเลสคือความรู้สึกที่ใฝ่ต่ำจากใจของเราเอง พูดแล้วก็เหมือนฟังพระท่านเทศน์ พูดรวมให้ลงตัวก็ว่าพ่อเองนั้นยังเป็นคนที่ตัดอะไรไม่ขาด ยังมีโลภ โกรธ หลง ยังอยากได้ อยากมี อยากเป็น เหมือนพวกที่ยังมีกิเลสทั้งหลาย แม้จะไม่จัดอยู่ในจำพวกกิเลสหนา แต่ก็ยอมรับว่าอยู่ในจำพวกที่มีกิเลส เห็นอะไรที่มันหลอกล่อ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจก็ทนไม่ค่อยได้ ระงับความรู้สึกไม่ค่อยอยู่ หรือพยายามระงับแล้วแต่มันก็ไม่อยู่ นี่คือสันดานของคนมีกิเลส หรือปุถุชน ดังนั้นการจะทำอะไรอย่างที่คิดว่าจะทำมันก็ทำไม่ได้เสมอไป เพราะมันทนไม่ได้ ระงับไม่อยู่ อยากทำแต่บังเอิญมีอะไรมาขวางหน้าที่ยุติการคิด การทำนั้นอย่างหมัดเดียวหลับกลางอากาศ นี่จึงเป็นคำตอบที่ค่อนข้างยืดยาวว่า คิดว่าจะทำ แต่ในที่สุดก็ไม่ได้ทำอย่างที่คิดและตั้งใจ เพราะพ่อยังเป็นปุถุชนคนเดินดินนั่นเอง
อะไรใหม่ ๆ ของพ่อนั้นอาจจะไม่เหมือนคนอื่น หรืออาจจะเป็นของเก่า ๆ ที่คนอื่นเคยทำมานานแล้ว เคยคิดว่าจะบันทึกไดอารี่อย่างต่อเนื่อง เก็บเรื่องราวของชีวิตทีละวัน สานต่อเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน เป็นปี เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของปีนั้น เริ่มต้นได้ไม่กี่วันก็เกิดเบื่อหน่าย ใจไม่เอา เห็นอย่างอื่นสำคัญกว่าการบันทึกไดอารี่ ที่เหลือจึงมีเพียงบันทึกร้าง เคยบอกตัวเองว่าจะออกกำลังกายให้เป็นนิสัย ในที่สุดก็ได้ออกเฉพาะวันหยุด แต่ก็ยังถือว่าดีกว่าความคิดเรื่องการบันทึกไดอารี่ หากไม่มีแม่มาเป็นตัวลุ้นมันก็คงเป็นหุ้นส่วนกับไดอารี่อย่างไม่ต้องสงสัย ตั้งใจว่าจะไม่ใช้บัตรเครดิตซื้อของที่ไม่จำเป็น กิเลสมันก็ผลักหลังให้รูดบัตรอย่างหน้าด้าน ๆ บางทีพ่อก็เคยคิดว่าเมื่อไรจะบรรลุมรรคผล จะได้ไม่มีความต้องการอะไรอีกต่อไป คิดไปคิดมาก็อดเป็นห่วงลูกและแม่ไม่ได้ จึงต้องเอาเรื่องบรรลุมรรคผลโยนทิ้งไปก่อน
พ่อคิดว่าคงได้บันทึกถึงลูกอย่างต่อเนื่อง แต่เอาเข้าจริง ๆ มันก็ต่อไม่ค่อยเนื่อง คงต้องยกแม่น้ำหลายสิบสายเข้ามาอ้าง สายหลักคงต้องยกให้สายกิเลส เพราะมัวหลงอย่างอื่นว่าสำคัญกว่าการได้บันทึกถึงลูก มันพาไหลข้ามน้ำข้ามทะเล ขึ้นเขาลงห้วย เหนื่อย
นั่นแหละจึงจะมีโอกาสเข้ามาบันทึกทักทายลูก ก็มันเป็นแม่น้ำกิเลส คุมมันก็ไม่ได้ เพราะใจเรายังไม่หนักแน่นพอ
สองเดือนผ่านไป หากยังไม่ได้ทำอะไรมาก อีกสิบเดือนก็มากพอที่จะทำอะไรมากมายหากใจจดจ่ออยากทำ พ่อชอบตัวเองอย่างหนึ่งในเรื่องการเป็นคนไม่ท้อแท้ เป็นคนชอบลุย ทำนองไม่ถึงเส้นชัยไม่เลิก นิสัยนี้เป็นมาตั้งแต่เด็ก เคยคิดว่าแม้ขาดนิสัยอื่นๆ ไป หากยังเหลือนิสัยนี้เพียงอย่างเดียว ชีวิตก็คงไม่เดือดร้อน ตั้งแต่จบโรงเรียนประถมจนถึงวันนี้หากเป็นนักมวยก็เรียกว่าชกโดยไม่มีพี่เลี้ยง การดิ้นรนต่อสู้ตั้งแต่เด็กทำให้พ่อเข้าใจว่าคนเรานั้นเมื่อทำอะไรอย่างจริงจัง โลกจะเข้าข้างเราเสมอ สิบเดือนที่พ่อตั้งใจว่าจะจริงจัง มันก็คงมากพอที่จะหลอมโลกให้มาเข้าข้างได้ สองเดือนผ่านไป แม้ดูเหมือนนักมวยที่ชกไม่เต็มที่ แต่ก็ยังเหลืออีกสิบยก แพ้ชนะต้องคอยดูกันไป เพียงสองยกชี้ขาดไม่ได้
วันนี้มีเรื่องบ่นให้ลูกฟังกับการเตะถ่วงของพ่อเอง นิสัยนี้จำไม่ได้ว่าเป็นมาตั้งแต่เมื่อไรและเป็นมาอย่างไร อยู่ ๆ มันก็เข้ามาพักอาศัยอยู่กับพ่อ พยายามนะว่าหากมีอะไรที่ทำสามารถทำได้เลยวันนี้ก็จะทำ แต่เอาไปเอามาก็ทำเฉยเหมือนมันไม่มีความสำคัญ ต้องปล่อยให้มันจวนเจียนเกิดความสำคัญมากขึ้นจึงทำ เรื่องผลัดวันประกันพรุ่งนับมะเร็งร้ายตัวหนึ่งที่พ่อสู้รบกับมันมาอย่างต่อเนื่อง แม้มันจะฮุกหมัดซ้ายขวาจนพ่อแพ้น็อคมาหลายต่อหลายครั้ง ปีใหม่นี้ได้รู้เชิงมวยมันแทบทั้งหมด จะเอามันให้อยู่หมัดสักปีให้มันเข็ดหลาบไม่กล้ามาท้าชิงเข็มขัดอีก ก็เอาใจช่วยตัวเอง เพราะเรื่องอย่างนี้ไม่มีใครช่วยได้ ขึ้นเวทีก็ตัวต่อตัวแล้ว
ลูกกำลังเรียนหนังสืออยู่อย่างต่อเนื่อง พ่อจบโรงเรียนและจบมาหลายโรงแล้ว แต่ก็ยังไม่สำเร็จสักที จบเพียงการศึกษา แต่การพัฒนาชีวิตพ่อว่าเราต้องทำอย่างต่อเนื่อง มันไม่มีวันจบ ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะคนเราทำให้ดีขึ้นได้ทุก ๆ วัน ทำวันนี้ให้ดีกว่าวันก่อน อุปนิสัยส่วนตัวก็สามารถทำให้ดีกว่าเก่าได้ ถึงดีแล้วก็ทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นได้ นี่คือโรงเรียนชีวิตที่ไม่มีใครมาให้ใบประกาศ เราให้ตัวเอง สอบใด้หรือตกผลมันชี้มาที่ตัวเอง ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาชูมือให้ พ่อจึงเกิดกำลังใจว่าอีกเก้าเดือนกว่านี้หากตั้งใจทำให้ชีวิตนี้ดียิ่ง ๆ ขึ้นก็ยังไม่สายเกินไป เมื่อมีลมหายใจในวันนี้ก็ถือว่าโชคดีที่สุดแล้ว ถึงจะทำดีก่อนนอนเพียงนาทีเดียวก็ยังถือว่าไม่สาย เพราะพรุ่งนี้ไม่มีใครรับประกันว่าจะได้ตื่นลืมตาดูโลกเหมือนวันก่อน ทุกนาทีของวันหนึ่งจึงมีค่าและงดงามไม่แพ้กัน
บันทึกถึงลูกดูแล้วคล้ายบ่นให้ตัวเองฟัง แต่วันข้างหน้าเมื่อได้ย้อนกลับมาอ่านลูกอาจจะเป็นเหมือนพ่อในวันนี้ก็ได้ นี่คือชีวิต นี่คืออารมณ์คน นี่คือความเป็นจริง
รักลูกเหมือนเดิม
เมื่อวันที่ : 28 ก.พ. 2552, 07.22 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...