นิตยสารรายสะดวก  Regular Articles  ๑๔ เมษายน ๒๕๕๐
สัจจะ
พญาไฟ
...หนังสือ ​​คือเมฆสีขาวทางก้าวเก่าแก่ (Old Path White Clouds : Walking in the Footsteps of the Buddha) เขียน​​โดย​​พระภิกษุเวียตนาม ชื่อ ติช นัท ฮันห์...
หนังสือ ​คือเมฆสีขาวทางก้าวเก่าแก่ (Old Path White Clouds : Walking in the Footsteps of the Buddha)
เขียน​โดย​พระภิกษุเวียตนาม ชื่อ ติช นัท ฮันห์
แปล​โดย รสนา โตสิตระกูล ​และสันติสุข โสภณสิริ
จัดพิมพ์​โดย มูลนิธิโกมลคีมทอง

คัดลอกบาง​ส่วนมาให้อ่านกันต่อค่ะ​



"​เมื่อการรับประทานเสร็จสิ้นลง สุชาดาก็เก็บใบตอง จากนั้น​ก็หยิบเหยือกใส่น้ำสะอาด รินใส่แก้ว​ที่เธอนำมา แล้ว​ถวายให้แก่​พระสิทธัตถะ ​พระองค์ทรงรับแก้วน้ำด้วย​พระหัตถ์​ทั้งสอง แล้ว​ทรงยื่นให้แก่สวัสติ สวัสติหน้าแดง พูดตะกุกตะกักว่า "เชิญนาย เอ้ย ผมหมายถึง ​พระอาจารย์ดื่ม​เป็นคนแรกครับ​"

​พระสิทธัตถะทรงตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เธอดื่ม​เป็นคนแรกเถิด เรา​ต้องการให้เธอดื่ม​เป็นคนแรก" ​พระองค์ทรงยกแก้ว​พร้อม​กับยื่นให้แก่สวัสติ

สวัสติรู้สึกสับสน ​แต่ไม่รู้​จะปฏิเสธเกียรติอันไม่คุ้นเคยนี้อย่างไร ​เขาพนมมือไหว้ขอบ​พระคุณ​พร้อม​กับรับแก้วน้ำมา ​เขาดื่มน้ำรวดเดียวหมดแก้ว ​เขายื่นแก้วคืนให้แก่​พระสิทธัตถะ ​พระสิทธัตถะทรงขอให้สุชาดารินน้ำให้อีก​เป็นแก้ว​ที่สอง จากนั้น​​พระองค์ทรงยกแก้วขึ้น​จิบน้ำอย่างช้า ๆ​ ด้วย​ความอ่อนน้อม​และด้วย​ความพึงพอใจอย่างลึกซึ้ง สายตาของสุชาดาไม่​ได้คลาดจาก​พระสิทธัตถะ​และสวัสติในเหตุการณ์​ที่เกิดขึ้น​

​เมื่อ​พระสิทธัตถะทรงดื่มน้ำแล้ว​ ​พระองค์ก็ทรงขอให้สุชาดารินน้ำให้​เป็นแก้ว​ที่สาม แก้วนี้​พระสิทธัตถะทรงยื่นให้แก่สุชาดา สุขาดาวางเหยือกน้ำลง พนมมือไหว้ขอบ​พระคุณ​พร้อม​กับรับ​เอาแก้วน้ำมา เธอยกแก้ขึ้น​ดื่มอย่างช้า ๆ​ ดุจเดียว​กับ​ที่​พระสิทธัตถะทรงทำ เธอรู้ดีว่านี่​เป็นครั้งแรก​ที่เธอดื่มน้ำจากแก้วเดียว​กับคนในวรรณะจัณฑาล ​แต่​พระสิทธัตถะ​เป็น​พระอาจารย์ของเธอ ใน​เมื่อท่านทำเช่นนั้น​​ได้ แล้ว​ทำไมเธอ​จะทำไม่​ได้ ​และเธอสังเกต​ได้ว่า ตนเองไม่​ได้รู้สึกว่า​ถูกแปดเปื้อนให้มีมลทิน​แต่อย่างใด เธอค่อย ๆ​ ยื่นมือออก​ไปสัมผัสเรือนผมของเด็กเลี้ยงควาย ด้วย​ความตกใจสวัสติจึงไม่ทัน​ที่​จะถอยตัวออกห่าง ​เมื่อสุชาดาดื่มน้ำเสร็จ เธอวางแก้วเปล่าลง​พร้อม​กับยิ้มให้แก่สหาย​ทั้งสอง

​พระสิทธัตถะทรงก้ม​พระเศียร "เด็ก ๆ​ คง​จะเข้าใจแล้ว​นะ ว่าคนเราไม่​ได้เกิดมา​พร้อม​กับวรรณะ น้ำตาของทุก ๆ​ คนมีรสเค็ม ​และเลือดของทุกคนมีสีแดง ​เป็นสิ่งไม่ถูก​ต้อง​ที่แบ่งแยกคนด้วยวรรณะ ​และก่อให้เกิดการแบ่งพวก​และอคติต่อกัน สิ่งนี้ปรากฎชัดต่อเราในขณะบำเพ็ญสมาธิ"

สุชาดามีท่าทีครุ่นคิด​และกล่าวขึ้น​ว่า "พวกเรา​เป็นลูกศิษย์ของท่าน ​และพวกเราก็เชื่อคำสอนของท่าน ​แต่ดูเหมือน​จะไม่มี​ใครเหมือนท่านเลย​ในโลกนี้ ทุกคนเชื่อว่า วรรณะศูทร​และจัณฑาล มาจากเท้าของ​พระพรหม ​แม้​แต่ใน​พระคัมภีร์ต่าง ๆ​ ก็กล่าวไว้เช่นนั้น​ ไม่มี​ใครกล้าคิดต่าง​ไปจากนี้"

"อาตมาก็รู้ ​แต่ว่าสัจ​จะย่อม​เป็นสัจ​จะ ไม่ว่าคน​จะเชื่อหรือไม่ ​แม้​จะมีคนสักล้านคน​ที่เชื่อใน​ความเท็จ มันก็คง​เป็น​ความเท็จอยู่​ดี เธอ​จะ​ต้องมี​ความกล้าหาญ​ที่เชื่อในสัจ​จะ"




สุขาดา ​เป็นลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านแห่งนิคมอุรุเวลา อายุประมาณ 12-13 ปี ขณะ​ที่เธอนำอาหาร​ไปบวงสรวงรุกขเทวดาตามคำบอกของมารดา อาหารในถาดมีขนม นม เนยใส ​และน้ำผึ้ง เธอพบเจ้าชายสิทธัตถะนอนสลบ​เพราะ​ความหิวโหย ตอนนั้น​ เจ้าชายทราบแล้ว​ว่า การทำทุกรกิริยาไม่ใช่ทาง​ที่ถูก​ต้อง จึง​ได้เลิกการกระทำทุกรกิริยา​และตัดสินใจลงจากภูเขาเดินทางสู่หมู่บ้าน​เพื่อขออาหาร ​แต่มาสิ้นเรี่ยวแรง​และสลบเสียก่อน จนกระทั่งสุชาดามาพบเข้า จึง​ได้ถวายน้ำนมแก่เจ้าชาย

สวัสติ ​เป็นเด็กอายุ 11 ขวบ พ่อแม่เสียชีวิตหมด ทิ้งให้สวัสติ​ต้องเลี้ยงดูน้อง ๆ​ อีกสามคน สวัสติหาเลี้ยงชีพ​โดยการรับจ้างเลี้ยงควาย ​เขา​ต้อง พาควายออกมาหากิน อาบน้ำให้ควาย ​และตัดหญ้าสำหรับ​เป็นอาหารให้ควายกินตอนค่ำ วันหนึ่ง​สวัสติ​ได้พบเจ้าชายสิทธัตถะ ​และ​ได้รับ​ความเมตตาจากท่าน ​เขาจึง​ได้ถวายฟ่อนหญ้า​ที่เกี่ยวไว้​เป็นอาหารควายนั้น​ ทำ​เป็นอาสนะถวายแก่เจ้าชายสิทธัตถะ ​และนำฟ่อนหญ้ามาเปลี่ยนอาสนะให้เจ้าชายทุก 3 วัน

หลังจากนั้น​ สุชาดา ​และสวัสติ ​จะพา​เพื่อน ๆ​ ​และน้อง ๆ​ ​ไปพบเจ้าชายสิทธัตถะ เด็ก ๆ​ ​จะพากันนั่งเบื้องหน้าเจ้าชาย​เพื่อฟังคำสั่งสอน ​และขอให้​พระองค์เล่าเรื่อง​ราวชีวิตของ​พระองค์อยู่​เสมอ นอกจากนั้น​ก็​จะรับประทานอาหารร่วมกัน​และพากันนั่งสมาธิ ​เป็นเช่นนี้ทุกวันจนกระทั่งเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้

 

F a c t   C a r d
Article ID A-2284 Article's Rate 2 votes
ชื่อเรื่อง สัจจะ
ผู้แต่ง พญาไฟ
ตีพิมพ์เมื่อ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๐
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ ประกายธรรมนำทาง
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๘๑๒ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๓ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : ศาลานกน้อย [C-11378 ], [000.000.000.000]
เมื่อวันที่ : 13 เม.ย. 2550, 23.58 น.

ผู้อ่าน​ที่รัก,

นิตยสารรายสะดวก​ ​และผู้เขียนยินดีรับฟัง​ความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดง​ความเห็น​ได้​โดยอิสระ ขอขอบคุณ​และรู้สึก​เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมี​ส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : jasminek-กัลปจันทรา [C-12323 ], [170.215.130.25]
เมื่อวันที่ : 21 ส.ค. 2550, 02.31 น.

สวัสดีค่ะ​

ดีใจ​ที่​ได้อ่านเรื่อง​นี้ เรื่อง​วรรณะนี่พี่เชื่อว่า​จะอยู่​คู่อินเดีย ​ที่คิดว่าไม่ควรก็​คือพวก​เขาออก​ไปทำงานนอกอินเดีย​แต่ก็ยังเก็บ​ความรู้สึกเรื่อง​นี้ไว้หนาแน่น ​ที่พบมานั้น​​คือลูกน้อง​ที่จ้างมาทำงานสมัย​ที่เรามีปัญหาจากปี 2000 คงจำกัน​ได้นะคะ​ปัญหาคอมพิวเตอร์น่ะค่ะ​ สหรัฐฯตอนนั้น​เด็กจบวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์​จะหยิ่งมาก ทีนี้เรามีสัญญา​ที่รัฐเนบรัสกาว่า​ต้องทำเครื่องของ​เขาให้เสร็จ ปีนั้น​​เป็นปี1997 เราหาคนทำงานไม่​ได้เลย​ เลย​จ้างมาจากอินเดีย โห...​เรียนกันแทบตายว่า​ถ้า​ใช้พวกสูตร​เป็นหัวหน้าแล้ว​ไม่มีทางงานเสร็จ ยัวะกันเสียอย่างดีเลย​ พวก​ที่ดี​ที่สุด​คือวรรณะพ่อค้า ​แต่ตอนนี้คงไม่มีปัญหาแล้ว​ละค่ะ​ อย่างน้อยพวกไม่ใช่อินเดียด้วยกันก็ไม่ทราบ พวกวรรณะศูตร​ที่มาทำงานให้เรานะคะ​ ​เขา​ได้ทุนมา ​แต่​เขาก็บอกว่า ยังไงๆ​ก็​ต้องนับถือวรรณะ

ด้วย​ความปรารถนาดีค่ะ​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๓ : เมเปิ้ล [C-18113 ], [202.12.118.61]
เมื่อวันที่ : 24 ก.พ. 2554, 15.03 น.

ให้ดอกไม้แค่ 3 ดอกนะคะ​ ​เนื่องจากไม่​ได้เขียนเอง​ทั้งหมด
ชอบวิธีสอนของ​พระพุทธองค์ ท่านมีวิธีสอน​ที่เข้าใจง่าย บางครั้งแยบยล รู้สึกว่า​​เป็นบุญของพวกเราชาวไทยเหลือเกิน ​ที่มีพุทธศาสนา​เป็นศาสนาประจำชาติ

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น