นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๐๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๙
ละมุน
รันนรา
...​​เขาชื่อละมุน นายละมุน อายุสิบเจ็ดปีสี่เดือน..สูงร้อยเจ็ดสิบสอง รอบเอวสามสิบ รอบอกยี่สิบแปด รอบขาเท่าไรไม่รู้ ไม่เคยวัด หน้าตาหล่อไม่​​ต้องเหลา.....
​เขาชื่อละมุน
นายละมุน อายุสิบเจ็ดปีสี่เดือน..สูงร้อยเจ็ดสิบสอง รอบเอวสามสิบ รอบอกยี่สิบแปด รอบขาเท่าไรไม่รู้ ไม่เคยวัด
หน้าตาหล่อไม่​ต้องเหลา เจือตี๋หน่อย​ ๆ​ แถว ๆ​ หางตา จมูกโด่งไม่มากไม่น้อย..ปากกว้าง​และหนานิดหน่อย​พอสังเขป
​เขาชอบหัวเราะเสียงดัง
กึกึ..
...​...​.

ละมุนเรียนชั้นมัธยมห้า..กะว่าจบหก​เมื่อไร​จะ​ไปเรียนต่อกรุงเทพฯ
​เขาบอกแม่ไว้แล้ว​​แต่ท่านทำหน้าปุเลี่ยน
อันหมาย​ความว่าท่านไม่เชื่อว่า​เขา​จะเรียนจบ
ก็โถ..การเรียนของ​เขาเยี่ยมยอดออกขนาดนี้
ซ่อมแล้ว​ซ่อมเล่าเฝ้า​แต่ซ่อม
นี่ยังมีติดร.อยู่​อีกสองสามตัว
กึกึ..
...​...​

ละมุนยังไม่มีแฟน
​เขา​เป็นเด็กดี เด็กดีไม่ควรมีแฟนในวัยเรียน
ละมุนมี​แต่กิ๊ก..
กิ๊ก​ที่แปลว่า​เพื่อนต่างเพศ​ที่รู้ใจ
กิ๊กของ​เขา​เป็นแฟนของ​เพื่อนของ​เพื่อนของ​เขาอีกที
อย่าเพิ่งครับ​..อย่าเพิ่งด่าว่าอะไร​​เขาเลย​
​เขาไม่​ได้​เป็นชู้กะ​ใคร​เขานา..เพียง​แต่คบกัน​ไปเล่น ๆ​
ก็ผู้หญิง​เขาน่ารักดีนี่นา..
...​..

ผู้หญิงคนนั้น​เรียนอยู่​ชั้นมอสี่..
โรงเรียนแถวนู้น..
​ที่​ได้รู้จักกันก็​เพราะ​เพื่อนของ​เพื่อนของ​เพื่อนพามา
คุยกันสองสามคำ
แลกเบอร์โทร.กัน
แล้ว​ก็คุยกัน
แค่เนี้ยแหละ​..กิ๊กใน​ความหมายของละมุน
...​.

​เขาเคยถามแม่ว่าทำไมตั้งชื่อ​เขาว่าละมุน
แกค้อนตาคว่ำคะ​มำหงาย..
ก็แม่เอ็งชื่อละม่อม
พี่ชายเอ็งชื่อละไม
แล้ว​เอ็ง​จะให้ชื่อจักรกฤษณ์หรือไง??
ไอ้นี่!!!
...​...​

แม่ของละมุน​เป็นคนน่ารัก
แกอ้วนตุ้ยนุ้ย..​แต่แข็งแรงจนน่าแปลกใจ
ยิ่งเวลาแกขว้างหรือเขวี้ยงอะไร​ด้วยน้ำโหด้วยแล้ว​
กำแพงยังแตก​เป็นโพลง
หัวลูกหรือ​จะเหลือ..
ละมุน​กับพี่ชาย​ต้องหลบกันจ้าละหวั่น..
​แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้ง...​​ที่แก​จะขว้างถูก
...​...​

แม่ของ​เขาอายุมากแล้ว​
เท่าไรนั้น​​เขาก็ไม่รู้ ไม่เคยถาม
ก็​เขา​เป็นผู้ชาย แม่​เป็นผู้หญิง
ผู้ชาย​ที่​เป็นสุภาพบุรุษ​ต้องไม่ถามอายุของผู้หญิง
มันไม่ดี ไม่ใช่หรือ?
...​...​

บ้านของละมุนอยู่​กันสามคน
ละมุน​เป็นคนเล็ก..
พี่ชาย​เป็นคนโต
แม่​เป็นผู้หญิงคนเดียวในบ้าน
แกเลย​​เป็น​ได้​ทั้งแม่​และพี่สาว
บางครั้ง​เขายังเคยหลุดปากเรียกแกว่าพี่
​ได้ผล..แกยิ้มหวานเยิ้มให้​เขาจนใจหายวาบ
น้องละมุนจ๋า..วันนี้มีเงิน​ไปโรงเรียนเท่าไรจ๊ะ​
มามะ..พี่​จะให้เพิ่ม​ไปกินหนม
​เขาวิ่งจู๊ดหนีแทบไม่ทัน
...​...​

อย่าง​ที่บอก..พี่ชายของ​เขาชื่อละไม
​เขาเคยถามถึง​ความรู้สึกของพี่ชายว่ารู้สึกอย่างไร​ที่​ได้รับเกียรติอันสูงส่งให้​ใช้ชื่อนี้
พี่ชาย​เขาไม่ตอบ..
กอดคอ​เขา..
กระซิบเบา ๆ​
(ไอ้มุน..​ถ้าเอ็งพูดเรื่อง​นี้อีก..โดนเตะ)
ละมุนเลย​เดินมุน ๆ​ ออกมา
ไม่ถามก็​ได้..
​ใคร​จะอยากรู้ขนาด​เอาก้น​ไปสังเวยด้วยละเหวย
จ้างให้!!
...​...​

บ้านของ​เขา​เป็นครอบครัวเล็ก ๆ​ อาศัยอยู่​ในตัวเมืองจังหวัดหนึ่ง​
แถวไหนอย่างไรมิกล้าระบุ
ครอบครัวนี้มีอาชีพยอดฮิต
ฮิตในแง่​ที่ว่าหา​ที่ไหนก็มี
อาชีพเปิดบ้าน​เป็นหอพัก
​ที่ไหนไม่มีก็บอกด้วย..
กึกึ
...​..

หอพักของบ้านละมุน..ก็บ้านของ​เขาก็อยู่​ใต้ถุนของหอพักนั่นแหละ​
อยู่​ใกล้​กับโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง​ในตัวอำเภอ..อีก​ทั้งมหาวิทยาลัยก็อยู่​ไม่ไกล
หอพักนั้น​จึงเต็มตลอด
ตอนแรกผู้​เป็นแม่​ต้องการให้​เป็นหอหญิง
​แต่แกกลับมี​แต่ลูกชาย
แกกลัวชาวบ้าน​เขานินทา
ห้ามลูกชายชาวบ้าน​เขามาอยู่​
แล้ว​ปล่อยให้ลูกชายตัวเองมาคลุกคลี​ได้อย่างไง
หอพักนี้จึง​เป็นหอพักเปิด
แบ่งหญิงชายคนละชั้น
ตอนหลังชักแบ่งไม่ออก
​เพราะย้ายเข้าย้ายออกกันจนมึน
...​...​

พ่อของละมุนแยกตัวออก​ไปนานแล้ว​
​ไปอยู่​​กับเมียน้อยคน​ที่สิบหก
พวก​เขาจึงไม่เคยพูดถึงพ่อ​ถ้าไม่จำ​เป็น
พ่อจึง​เป็นอะไร​​ที่แตะ​ต้องไม่​ได้
แตะทีไร​เป็นเรื่อง​ทุกที
ภาพพ่อจึงไม่มีอยู่​ในบ้านสักภาพ
แกถูกลงบัญชีสูญ
เหมือน​กับพวก​เขาสูญค่าเช่า
ดูว่าค่าเช่า​จะมีค่ามากกว่าเสียอีก
บางทีละมุนก็คิดอย่างงั้น
...​...​

เด็กต่างจังหวัดอย่างละมุน..วัน ๆ​ ไม่​ได้ทำอะไร​ นอกจาก​จะขี่มอเตอร์ไซค์เ​ที่ยว
มอเตอร์ไซค์ถือ​เป็นยานพาหนะยอดฮิตของทุกหมู่บ้านในตัวจังหวัด บ้านไหนไม่มีถือว่าเชยระเบิดเถิดเทิง..
ของละมุนเพิ่งซื้อมาแหม่บ ๆ​ แม่ละม่อมทำปากหมุบหมิบ ๆ​ ตอน​ที่ซื้อ
ยี่ห้อยอดฮิต..ยามาห้อย..
เครื่องยนต์สี่จังหวะ..มีหม้อน้ำระบาย​ความร้อน บิด​ได้สูงสุดร้อยแปดสิบองศา..เอ้ย..ร้อยแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง
นั่น​เป็นข้อมูลทางหน้าปัด ​เอาเข้าจริง​เขาบิดไม่เคยเกินแปดสิบซะที
ก็​เพราะแม่ห้าม
​และ​เป็นข้อตกลง​ระหว่างแม่​กับ​เขา
"แม่ซื้อรถให้ลูก​ใช้..ไม่ใช่ซื้อรถให้ลูกขับ​ไปตาย"
"​ถ้าลูกตาย​เพราะรถ​ที่แม่ซื้อให้..แม่​จะตายตาม​ไปเห็น ๆ​"
ละมุนไม่อยากให้แม่ตายตาม​ไปเห็น ๆ​ ​เขาเลย​ไม่ขับรถเร็ว
​และขับรถถูกกฎจราจรตลอดมา
...​...​

​แต่ให้ตาย..พรรคพวกของ​เขาไม่มี​ใครเหมือนอย่าง​เขาซักคน
พวกนั้น​ขับรถเร็วมาก..ละมุนตามไม่เคยทันซะที
รถของ​เขาคันนี้ เลย​ถูกเรียกชื่อว่า "คุณนายนุ่มนวล" ตั้งแต่นั้น​​เป็นต้นมา
...​..

วันนี้ นายละมุน พาคุณนายนุ่มนวล เฉียดผ่าน​ไปบ้านหลังหนึ่ง​อย่างไม่ค่อยเจตนาเท่าไร
​ที่ไม่ค่อยเจตนาเท่าไรนั้น​ ก็​เพราะแม่​ใช้
แม่​ใช้ให้​ไปหาป้าลำดวน
ป้าลำดวนมีลูกสาวชื่อสุรัตน์ สุรัตน์​ที่ไม่สวยเลย​
แม่ให้​เอาเงิน​ไปให้ป้าลำดวน ป้าลำดวนโทร.มาขอกู้แม่ แม่ปล่อยกู้ร้อยละห้า..
ไม่เกินตามกฎหมายกำหนด​แต่อย่างใด
...​...​

สุรัตน์นอกจากไม่สวยแล้ว​..ยังชอบมาทำโน่นทำนี่​กับละมุน
ชอบห่อปากทำตาโต..ราวเก็บเห็นศรรามมาเหยียบหัวกะไดบ้าน
หรือชอบทำหน้าแดงหน้าดำเวลาคุย​กับ​เขา เหมือน​กับ​เขา​กำลังจีบเธอยังไงยังงั้น
เปล่าเลย​..ละมุนไม่เคยจีบเธอ
จริงนะครับ​..​เขาไม่เคยจีบเธอเลย​..
"ป้าลำดวนอยู่​ไหม?"
"อยู่​ข้างบน.."
"วันนี้​แต่งตัวสวยจัง.."
"เนี่ยนะสวย.."
"ใช่..​จะออก​ไปไหนละครับ​..มุน​ไปส่งมะ?"
"ไม่​เป็นไร..ฉันมีรถเหมือนกัน"
"​แต่รถมุนมันนุ่มนิ่ม..น่านั่งน่านอนหนุน​เป็นยิ่งนัก..กว่า​เป็นกอง.."
"แหวะ..เชิญเหอะย่ะ...​"
ว่าแล้ว​เธอก็ควบรถของเธอออก​ไป
เห็นไหมครับ​..​เขาไม่เคยจีบเธอเลย​
กึกึ..
...​...​.

นั่น​คือ​ไป​โดยไม่​ได้เจตนา
เสียเวลา​ไปประเดี๋ยวเดียว​เขาก็หมดธุระของแม่
คราวนี้มาถึงเจตนา​ที่​เขา​จะ​ไป
​เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ​ ซอมซ่อหลังวัด
ในบ้านมียายแก่ ๆ​ อยู่​คนหนึ่ง​
หูตาไม่ค่อยเห็นแล้ว​..
แกอยู่​คนเดียว..ผัว..เอ้ย..สามีของแกตาย​ไปหลายปีแล้ว​
ลูกหลานไม่มี
อาศัยข้าวก้นบาตร​พระกินประทังกันตาย​ไปวัน ๆ​
​เขา​จะมา​ที่นี่อาทิตย์ละหน
ขยักเงิน​ที่​เป็นดอกเบี้ยของแม่
แบ่งมาให้แกทีละร้อยสองร้อย
ตามสภาพจิตใจของ​เขา
​ที่เดี๋ยวขึ้น​เดี๋ยวลงตามอุณหภูมิ
ของหัวใจ..
...​..

หัวใจของ​เขา​จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น​เล็กน้อย..
​ถ้าคราวใดมีเธอคนนั้น​..คน​ที่​เขาบอกว่า​เป็นกิ๊กคนนั้น​..ยืนให้เห็นอยู่​ในบริเวณบ้านของมัคทายกวัด
​ซึ่งอยู่​ใกล้ ๆ​ ​กับบ้านยายคนนั้น​
เธอ​เป็นลูกสาวของมัคทายกแหวง..
​เป็นเจ้าของดวงตาแสนสวย
​เป็นเจ้าของน้ำใจเอื้ออารี
เธอนี่แหละ​..​เอาข้าวปลาอาหารมาให้ยายคนนี้
สลับการน้องชายของเธอ
แทบทุกวัน
...​..

​แต่วันนี้ละมุนไม่เห็นเธอ
อุณหภูมิหัวใจเลย​ไม่ขึ้น​
ยายเลย​​ได้​ไปแค่ร้อยเดียว
นอกจากอุณหภูมิ​จะไม่ขึ้น​แล้ว​ ดูเหมือน​จะลดลงเสียด้วยซ้ำ
​เมื่อ​เขาเห็นน้องชายของเธอ
​กำลังวิ่งรี่เข้ามาหา
เข้ามาหาอย่างรวดเร็วจนหลบไม่ทัน
...​...​.

น้องชายของเธออายุกี่ขวบไม่รู้
​แต่ซนมหาวินาศสันตะโร
ชนิดลิงเรียกพี่..ชนีเรียกพ่อ
หน้าตาของ​เขามีเค้าพี่สาวอยู่​บ้าง..บางครั้ง​ที่​เขาเหลืออดก็​จะซัดป้าบเข้าให้ทีสองที
ไม่อยาก​เอาให้ถึงตาย..ถึงอย่างไรละมุนก็ยังเกรงใจพี่สาวของ​เขาคนนั้น​..
คน​ที่ดูเหมือน​จะ​เป็นคนเดียว​ที่​เขาคิดถึง
...​..

มัคทายกแหวง​เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง​​ที่คน​ทั้งหมู่บ้านเคารพนับถือ
แกธรรมะธรรมโม..มัก​จะใส่ชุดขาวสะพายผ้าขาวม้าอยู่​เนืองนิจ
​เป็นคนหน้าตาใจดี..ผมขาวโพลน​ทั้งศีรษะ
​ใคร ๆ​ ก็รัก​ใคร่ให้เกียรติ..เสีย​แต่หวงลูกสาวชะมัด
หากรู้ว่า​ใคร​ไปก่อกแก่กกะลูกสาวของแก...​​ซึ่ง​กำลังเริ่มสาวล่ะก้อ..แก​จะเรียก​ไปคุย
เวลาเรียก​ไปคุย..แก​จะนั่งเช็ดมีดดาบ
มีดดาบยาวแหลม..​และคมกริบ
ละมุนก็​ได้น้องชายของเธอคนนี้..ช่วยไม่ให้​ต้อง​ไปนั่งดูแกเช็ดมีดดาบ
แล้ว​กลืนน้ำลายเอื๊อก​ไปเอื๊อกมา
​โดย​เขา​จะส่งสัญญานให้ละมุนรู้ว่า..ตอนละมุนก่อกแก่ก​กับพี่สาวของ​เขา..เวลานั้น​พ่ออยู่​หรือเปล่า
ละมุน​เป็นคนโชคดีเสมอ..สำหรับเรื่อง​นี้
อย่าสงสัยว่าทำไมน้องชายคนนี้..ถึง​เป็นใจให้​กับ​เขา
​เขาเปลืองขนม​ไปเยอะมาก..ไม่รวม​ทั้งเศษตังค์อีกครั้งละหลายบาท​
แม่บอก​เขาเสมอ..ทุกอย่างในโลกไม่มีอะไร​ฟรี
อะไร​​ที่​ได้ฟรี..ย่อมมีค่ากว่าเงินตราเสมอ
​เขาเชื่อแม่..
...​...​.

"พี่มุนมาหาพี่หวานเหรอฮะ.."
แสดงว่าพ่อแหวงไม่อยู่​ น้องเวร..เอ้ย..​เขาเชื่อเวก..จึงกล้าส่งเสียงดังอย่างนี้
"พ่อพาพี่หวาน​ไปสมัครม.4 โรงเรียนใหม่..เดี๋ยวบ่าย ๆ​ ก็กลับ.."
"พี่มุนช่วยซ่อมรถให้เวกหน่อย​สิฮะ.."
​เขาหมายถึงรถแข่ง​ที่วิ่งด้วยมอเตอร์..ล้อของมันหลุดออกมาสองข้าง
"เวกแค่ให้มันวิ่งลงบันได..แค่เนี้ยล้อกระเด็นเลย​.."
...​..

ละมุนกล่าวลายายคนนั้น​..​ที่ขอบคุณ​เขามากมาย​จนรับไม่หวาดไหว
เดิน​ไป​กับน้องเวก..ชื่อจริงของ​เขาชื่อการะเวก..การะเวกแสนซน
​เขาพาละมุน​ไปหลังบ้านของ​เขา..​เป็นลานเรียบใต้ต้นสัก..มีแคร่ไม้ไผ่วางอยู่​
"นึกอย่างไง​เอามัน​ไปวิ่งลงบันได?.." ละมุนถาม
"เวกอยากรู้ว่าโช๊กมันดีหรือเปล่า?"
"ต่อให้โช๊กดีแค่ไหนก็พัง.."
"แล้ว​เวก​เอา​ไปวิ่งตามคันนา​ได้ไหมฮะ.."
"ไม่​ได้..มัน​ต้องวิ่งทางเรียบ ๆ​ เนี่ยดีนะ​ที่แกนล้อมันไม่หัก..ไม่งั้นก็ซ่อมไม่​ได้.."
"พี่มุนเก่ง พี่มุนเรียนช่าง พี่มุนซ่อม​ได้อยู่​แล้ว​..ไม่เหมือนพี่ศักดิ์.."
แกหมายถึงชายหนุ่มต่างหมู่บ้านอีกคนหนึ่ง​..​ที่มาชอบพี่สาวของแกเหมือน​กับ​เขา
ถือ​เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ​เขาทีเดียว
"ไม่เหมือนตรงไหน?"
"พี่ศักดิ์ทำอะไร​ก็ไม่​เป็น..ขับรถเก๋ง​ไปมา..​เมื่อวานนี้ก็​เอาเครื่องไมโครเวฟมาให้พ่อ.."
"เหรอ..พ่อคงชอบ?"
"ไม่เห็น​จะชอบ..พ่อบอกเปลืองไฟ.."
"งั้นพี่หวานก็คงชอบ.."
"ไม่รู้พี่หวาน..​แต่เวกว่าคงไม่ชอบ..เห็นพี่​เขาลองต้มไข่ดู..ฮะฮะ..แตกปุ้งปั้งกินไม่​ได้ซักใบ.."
ละมุนหัวเราะ..
​ใช้กาวตราช้างทาตรงรอยเชื่อมของล้อ​กับแกนล้อ น้องเวกมอง​เขาทำตาแป๋ว
ดวงตาเด็กคนนี้เหมือนตาของหวานมาก
สวยซึ้ง..กินใจ
"พี่มุน..พี่ชอบพี่หวานตรงไหน?"
ละมุนหยุดมือ..มองหน้า​เขา..มาไม้ไหนล่ะนี่
"ชอบตรงนี้.." ละมุนชี้​ไป​ที่หน้าอกของตัวเอง
"หวา..พี่มุนลามก..ชอบนมพี่หวานนี่เอง.."
​เขาเขกกระโหลกเด็กแก่แดดดังโป๊ก
"แกสิลามก..พี่หมายถึงหัวใจโว้ย.."
เด็กน้อยคลำหัวป้อย..ทำปากหมุบหมิบ
"เจ็บนะ.."
ละมุนดึงหัว​เขามาเป่า
"เพี้ยง..หาย"
นิ่ง​ไปครู่หนึ่ง​..​ระหว่างรอกาวแห้ง
"พี่มุน..เวกก็มีแฟนแล้ว​นะ.."
"จริงอ้ะ?"
"จริงดิ..สวยกว่าพี่หวาน​เป็นกอง"
"เหรอ..อยากเห็น ๆ​ "
"​แต่.."
"​แต่ไร?"
"เราทะเลาะกันซะแระ"
"อ้าว.."
"เวกแค่แกล้งดึงผมเปีย​เขาเล่น..แค่เนี้ยทำโกรธ"
"แล้ว​​ไปดึงทำไม?"
"ก็เปีย​เขาน่ารักดี.."
"​เป็นผู้ชายอย่ารังแกผู้หญิง เสียศักดิ์ศรีรู้มะ.."
"ที​เขายังแกล้งเวกเลย​.."
"แกล้งยังไง?"
"​เขา​กับ​เพื่อน ๆ​ ชอบดึงกางเกงเวก.."
ละมุนหัวเราะ
"​เขาคงอยากเห็นก้นเวกล่ะมั้ง.."
"เวกก็เลย​เปิดกระโปรงพวกนั้น​มั่ง.."
"แล้ว​ไง?"
"โดนฟ้องครู.."
​เขาหัวเราะดังขึ้น​
"เวกเลย​สงสัยว่า..ทำไมผู้ชายถึง​ต้องชอบผู้หญิง..แล้ว​ชอบตรงไหน?"
"แล้ว​เวกชอบแฟนตรงไหน?"
เด็กชายส่ายหน้า
"ไม่รู้ครับ​..สงสัยตรงผมเปียมั้ง.."
"เวกฟังพี่นะ.."
"คับ"
"ผู้ชาย​กับผู้หญิง​เป็นของคู่กัน.."
"คับ.."
"​แต่​จะคู่กันเฉพาะตอนโตเท่านั้น​..​ถ้ายังเด็ก ๆ​ อย่างเวกล่ะก้อ..​เขาเรียก​เป็น​เพื่อนกัน.."
"คับ.."
"​เพื่อนย่อมไม่แกล้ง​เพื่อน..ยิ่งเรา​เป็นลูกผู้ชาย..เรายิ่งแกล้งไม่​ได้.."
"ก็​เขาแกล้งผมก่อน.."
"​จะก่อน​จะหลังก็ไม่​ได้..เข้าใจไหม?"
"เข้าใจฮะ.."
"ดี..งั้นพี่กลับแล้ว​.."
"พี่​จะ​ไปไหน..เดี๋ยวพี่หวานก็กลับ.."
"พี่​ไปหา​เพื่อนดีกว่า..วันหลังค่อยมาใหม่.."
"ว้า..แล้ว​​ใคร​จะเล่นรถ​กับเวกล่ะ.."
...​...​

​ระหว่างทางขากลับ ละมุนครุ่นคิดอะไร​บางอย่าง
"ทำไมผู้หญิง​และผู้ชายถึง​ต้องคู่กัน..?"
"คู่กันตอนเด็ก ๆ​ ​เขาเรียกว่า​เพื่อนกัน.."
"คู่กันตอนโต..​เขาเรียก​เป็นแฟนกัน.."
"​แต่ตอนแก่..ทำไม​เขา​ต้องเลิกกัน?"
"พ่อทำไม​ต้องเลิก​กับแม่..แม่ของเวก..ทำไม​ต้องเลิก​กับลุงแหวง.."
"ทำไม??"
...​...​.

 

F a c t   C a r d
Article ID A-2000 Article's Rate 4 votes
ชื่อเรื่อง ละมุน
ผู้แต่ง รันนรา
ตีพิมพ์เมื่อ ๐๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๙
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องสั้น
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๗๒๖ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๑๒ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๑๖
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : ศาลานกน้อย [C-9631 ], [000.000.000.000]
เมื่อวันที่ : 09 พ.ย. 2549, 13.53 น.

ผู้อ่าน​ที่รัก,

นิตยสารรายสะดวก​ ​และผู้เขียนยินดีรับฟัง​ความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดง​ความเห็น​ได้​โดยอิสระ ขอขอบคุณ​และรู้สึก​เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมี​ส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : รันนรา [C-9632 ], [58.9.43.26]
เมื่อวันที่ : 09 พ.ย. 2549, 14.05 น.

​เพื่อน..​ที่ละมุน​จะ​ไปหานั้น​..
​เอาไว้​ไปหาทีหลัง..
​แต่​ที่​เขาอยาก​จะ​ไปตอนนี้..ก็​คือ​ที่นั่น
โรงเรียนแห่งนั้น​..
โรงเรียนสตรีแห่งนั้น​..
หวังว่า​จะเจอ​ใครบางคน
​ที่​เขาคิดถึง
...​...​.

โรงเรียนมัธยมสตรีของจังหวัด..เต็ม​ไปด้วยสตรี
เสื้อขาวกระโปรงน้ำเงิน..ลายตา​ไปหมดเลย​
ทุกคนหน้าตาเหมือนกันหมด..สวยเหมือนกันหมด
ละมุนมองเพลิน..จนแทบลืมว่ามา​ที่นี่​เพื่อ​จะมาหา​ใคร
หลังจอดรถ..​เขาเดินตรงขึ้น​​ไปบนตึก
เจออาจารย์หลายคน..ละมุนยกมือไหว้..
จนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่​ตรงห้องหนึ่ง​
​ที่หน้าประตูเขียนไว้ว่า "ผู้อำนวยการ"
​เขาเคาะประตูทีเดียว แล้ว​เปิดเข้า​ไป
...​..

ชายภูมิฐานคนหนึ่ง​นั่งอยู่​หลังโต๊ะ
มองลอดแว่นมายัง​เขา
"มุน..มา​ได้ไงนี่?"
ละมุนยกมือไหว้..ยังไม่ตอบ
"มาหาพ่อใกล้ ๆ​ ซิ.."
ทุกที​เขา​จะยืนนิ่ง ​แต่วันนี้​เขาเดินเข้าหาท่าน
ท่านลุกขึ้น​กอด..ละมุนยืนตัวแข็งทื่อ
"พ่อคิดถึงรู้ไหม?..แม่​เป็นไงบ้าง..แล้ว​ไมล่ะลูก.."
"ผมมีธุระฮะพ่อ.."
​เขายิงตรงเข้าวัตถุประสงค์ของการมาครั้งนี้
"งั้นนั่งก่อน..มีอะไร​ว่ามา..ไม่มีเงิน​ใช้หรือเปล่า?"
"เปล่าครับ​..ผมแค่อยาก​จะช่วย​เพื่อนของผมหน่อย​.."
"​ใคร?"
ละมุนบอกเรื่อง​หวาน​จะมาเข้าโรงเรียนแห่งนี้
​เขาไม่อยากให้เธอผิดหวัง
สมัยนี้เส้นสาย​เป็นเรื่อง​สำคัญ
​โดยเฉพาะโรงเรียนของพ่อของ​เขาแห่งนี้..ขึ้น​ชื่อว่า​เป็นโรงเรียน​ที่มีค่าแป๊ะเจี๊ยะแพง​ที่สุดในจังหวัด
​เขารู้..หวานเรียนเก่ง..​แต่อย่างไงก็สู้เงินไม่​ได้
​เขาไม่อยากพบพ่อ..​แต่นี่​เป็นเรื่อง​จำ​เป็น
"​เพื่อนผมฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี..ผมอยากให้พ่อช่วย​เขา.."
"​ได้สิลูก..มีอะไร​อีกไหม?"
"ไม่มีครับ​..ผมลาล่ะครับ​"
พ่อพยายาม​เอาอะไร​บางอย่างให้แก่​เขา
ละมุนไม่ปฏิเสธ..​แม้มัน​จะ​เป็นเศษเงินของพ่อ
มันก็มีค่าพอสำหรับ​ใครบางคน
อย่างยาย​ที่น่าสงสารคนนั้น​..
...​...​

​เขาเดินออกมาจากห้องของพ่อ..ห้องของผู้อำนวยการเจ้าของโรงเรียน
ยกมือไหว้ทุกคน​ที่รู้จัก..
สายตามองหา​ใครคนหนึ่ง​
เผื่อ​จะ​ได้เจอ..สายตาหวาน ๆ​ คู่นั้น​
แล้ว​​เขาก็เจอจน​ได้..
...​..

เธอออกจากห้องงานทะเบียนมา​พอดี
พ่อของเธอยืนรออยู่​แล้ว​
พูดอะไร​กันสองสามคำ..แล้ว​พากันเดินลงบันได​ไปชั้นล่าง
​เขาย่อง..เอ้ย..เดินตาม
เธอ​และพ่อของเธอตรง​ไปนอกโรงเรียน
คงเสร็จธุระแล้ว​..​และ​จะกลับบ้าน
รถสองแถวมา..จอด..พ่อของเธอเดินขึ้น​รถ
รถออก..เธอยังยืนอยู่​​ที่เดิม
วู้...​เสร็จเรา..
ละมุนร้องก้องในใจ
...​...​

คุณนายนุ่มนวลของละมุน พา​เขาโฉบผ่านเข้า​ไป
"หวาน..สมัครเสร็จแล้ว​หรือ?"
เธอพยักหน้า สีหน้าไม่แปลกใจอะไร​​ที่เห็น​เขา
"กลับด้วยกันไหม?..อ้าว..แล้ว​ลุงแหวง​ไปไหนแล้ว​ล่ะ?"
"แก​ไปธุระต่อ.."
"มา..งั้นขึ้น​รถ"
เธอส่ายหน้า
"ไมล่ะ?"
"หวานนัด​เพื่อนไว้แล้ว​.."
"​ใคร?"
เธอยังไม่ทันพูด รถเก๋งรุ่นใหม่คันเท่าขี้ตาก็เข้ามาจอด เฉียดรถ​เขา​ไปนิดเดียว
มีเสียงวี้ดว้ายออกมาจากในรถ คง​เป็น​เพื่อนหญิงของเธอ
รถ​ที่มีหนุ่มคนหนึ่ง​นั่งประจำ​ที่คนขับ
สวมแว่นดำ
หน้าตี๋
ละมุนเห็น​แม้กระทั่งคิ้วข้างหนึ่ง​ของ(มัน) กระดิกให้
"​เพื่อนหวานมาแล้ว​..​ไปนะ"
แล้ว​เธอก็เปิดประตูขึ้น​รถ
ข้างคนขับ
ทิ้งให้ละมุน..หัวเราะในใจ
แง่ง..
...​...​.

ตั้งแต่ละมุนเกิดมาอายุ​ได้สิบเจ็ดปี​กับอีกสี่เดือนบวกกะอีกสองสามอาทิตย์
​เขายังไม่เคย​ได้พบ​กับคำว่า "อกหัก"
คนอย่าง​เขาอกหักไม่​เป็น..
ผู้หญิง​ที่รายล้อมรอบตัว​เขา..ล้วน​แต่สวย ๆ​ ​ทั้งนั้น​
อย่าง"หวาน" นี่..ถือว่า​เป็นหนึ่ง​ในสิบ
​เพราะฉะนั้น​ การ​ที่เธอโดดขึ้น​รถคนอื่น​ไปต่อหน้าต่อตา หา​ได้ทำให้​เขารู้สึกอะไร​ไม่
แค่เจ็บฟันหน่อย​ ๆ​ ​เพราะขบมันแรง​ไป
หัวใจรู้สึกแปล๊บ ๆ​ อาจ​เป็น​เพราะหายใจผิดจังหวะ
ดวงตารู้สึกแห้ง ๆ​ ก็​เพราะลมมันเย็น
​เขา​เป็นอะไร​ซะทีไหน..
งือ..
...​...​

ขับรถกลับบ้านด้วย​ความรู้สึกหน่วง ๆ​ หัวใจพิกล
​เป็นอาการแปลก ๆ​ ​ที่ไม่เคยเกิดขึ้น​​กับ​เขามาก่อนเลย​
​แต่แรก​ที่คิดว่า​จะ​ไปหา​เพื่อน..ก็เปลี่ยนใจซ้างั้น
​พอดีขากลับบ้าน..​ต้องผ่านริมฝั่งแม่น้ำ​ที่ร่มรื่น
เกลียวน้ำสีน้ำตาลเข้ม..ไหลริก​ไปสู่ทิศใต้
ดวงตะวันยามบ่ายคล้อย..เปล่งแสงสีส้มฉาบ​ไปทั่วท้องน้ำ​และฝั่งแมกไม้ตรงข้าม
ทิว​เขาทะมึนสู้ฟ้าท้าแดด..ลมพัดโชยแผ่วเย็น
ก็เลย​จอดรถ..เดิน​ไปนั่งบนบันไดขั้นหนึ่ง​ ​ที่ทอด​ไปสู่ตลิ่งปริ่มน้ำ
ซึมซับบรรยากาศรอบข้าง..ด้วย​ความรู้สึกอ้างว้าง..
อย่างไรพิกล
...​...​

​ความรัก​เป็นอย่างไรหนอ??
ตั้งแต่เล็กมาแล้ว​..​เมื่อคราวเรียนอยู่​ชั้นป.4
ละมุนบอก​กับตัวเองว่า​เขารักผู้หญิงคนหนึ่ง​
เธอชื่อวัลย์..เธอสวยมากในสายตาของ​เขา
เธอ​เป็นเด็กอ่อนแอ..ขี้โรค..จึงมัก​จะถูก​เพื่อนผู้ชาย​ที่เกเรกลั่นแกล้ง
​เขาก็ใช่ว่า​จะ​เป็นเด็กแข็งแรง..​แต่​เขามัก​จะเข้าช่วยเธอเสมอ บางทีถึง​กับวางมวย​กับ​ใครก็​ได้​ที่รังแกผู้หญิงให้เห็น
​เขาสงสารผู้หญิง ผู้หญิง​เป็นเพศ​ที่อ่อนแอ..​เป็นฝ่าย​ที่ถูกกระทำอยู่​ตลอดเวลา
ผู้หญิง​จะมี​ความสุขก็ต่อ​เมื่อผู้ชายทำให้เธอสุข ผู้หญิง​จะตรอมตรมเจ็บช้ำ ก็​เมื่อผู้ชายทำให้เธอ​เป็นอย่างนั้น​
ภาพของแม่​ที่ร้องไห้กอดลูก..ขณะ​ที่พ่อทิ้งพวก​เขา​ไป..ยังตราตรึงอยู่​ใน​ความทรงจำ
​เขา​จะยอมให้ผู้หญิงใกล้ตัว..ถูกทำร้ายอีกต่อ​ไปไม่​ได้
​เขาไม่ยอม!!
...​...​..

วัลย์​กับละมุนมี​ความสุขกันตามประสาเด็ก
แลกเปลี่ยนขนมกันกิน ช่วยกันทำการบ้าน..แล้ว​ชวนกันเล่นเกมต่าง ๆ​
​ซึ่ง​แม้​จะ​เป็นเกมของผู้หญิง ละมุนก็เล่น​ได้​โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ
หากคุณผู้อ่านนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงหนังเรื่อง​แฟนฉันเข้าไว้
ราว​กับถอดออกมาจากภาพชีวิตบางภาพของละมุน​กับวัลย์
​เขาเคยโดดหนังยาง​กับเธอ เคยเล่นขายของ​กับเธอ
หมากเก็บก็เคยเล่น..เล่น​เป็นพ่อ​เป็นแม่ก็เคยเล่น
เคย​แม้​แต่​จะแคะ​ขนมครก..​ที่ทำจากกรวดทรายขาย
ชีวิตช่วงนั้น​มี​ความสุขเหลือเกิน
...​...​.

​แต่แล้ว​..วันหนึ่ง​วัลย์ก็หาย​ไป
ผู้ปกครองมาแจ้งว่าเธอป่วยหนัก
ละมุน​และ​เพื่อน ๆ​ ..พากัน​ไปเยี่ยมเธอ​ที่โรงพยาบาล
ร่าง​ที่นอนอยู่​บนเตียง..ผอมซูบ..ร่างกายผิวหนังมีรอยเขียว​เป็นจ้ำ ๆ​
มีสายระโยงระยางเต็มตัว..​ทั้งให้เลือด ให้ยา ​และให้น้ำเกลือ
ละมุนไม่กล้าเดินเข้า​ไปใกล้เธอ..
หัวใจของ​เขารู้สึกหน่วงหนัก..เหมือน​กับ​ที่เกิดขึ้น​ในตอนนี้
เสียงของวัลย์ยังดังแจ่มชัดใน​ความทรงจำ
...​..

"โตขึ้น​เรา​จะ​เป็นพยาบาล..เราชอบพยาบาล"
"​แต่เราไม่ชอบ..เราเหม็นยา..เรากลัวเข็ม"
วัลย์หัวเราะ
"ตัว​เป็นผู้ชายยังกลัวเข็มอีกเหรอ..เราไม่กลัว..เราอยากรักษาคนไข้"
"​แต่เราอยาก​เป็นตำรวจ..ตำรวจจับผู้ร้าย.."
"ตัว​เป็นตำรวจ​ได้..ตัวแข็งแรง..ตัวสู้​กับคนเกเร​ได้สบาย..​แต่เราอ่อนแอ..เรา​เป็นตำรวจไม่​ได้.."
"ตัว​เป็นไร?"
"หมอบอก​เป็นโรคเลือด"
"โรคเลือด​เป็นยังไง?"
"โรคเลือดทำให้ร่างกายอ่อนแอ..​ต้อง​ไป​เอาเลือดเสียออก ใส่เลือดดีเข้า​ไปทุก ๆ​ เดือน"
"แล้ว​​จะหายไหม?"
"หายสิ..หมอบอกเดี๋ยวก็หาย.."
"ดีจัง..เราอยากให้ตัวหาย..​จะ​ได้ไม่หยุดเรียนบ่อย ๆ​ มีเวลาเล่น​กับเราเยอะ ๆ​"
"ใช่..เราก็อยากหาย..เรา​จะ​ได้เล่น​กับตัวทุกวันเลย​.."
...​...​.

ดวงตาคู่นั้น​ของวัลย์ยังแจ่มชัดอยู่​ในห้วง​ความรู้สึก
บัดนี้เห็นเพียงการหรี่ซึม...​ไร้วี่แววแจ่มใสใด ๆ​
ครูประจำชั้นของละมุน..เรียกให้​เขาเข้า​ไปใกล้ ๆ​ เธอ
"ละมุน..มาคุย​กับวัลย์ลีหน่อย​สิคะ​..เห็นสนิทกันมากไม่ใช่เหรอ.."
​เขาค่อย ๆ​ เดินเข้า​ไปหาเธอ
เธอหันมายิ้มให้..
จมูกของ​เขาเริ่มรู้สึกคัด
ตาเริ่มแสบ
มองใบหน้าของวัลย์ด้วย​ความพร่าเลือน
...​...​

เด็กชายหญิง​ทั้งสองไม่มีคำพูดใด​จะกล่าวต่อกัน
ละมุนเห็นน้ำตาเธอไหล​เป็นทาง..
​เขายกมือขึ้น​ปาดน้ำตาให้เธอ..
ฝืนยิ้มอย่างยากเย็น
ใน​ที่สุดก็กล่าวเบา ๆ​
"เธอ​กำลัง​จะหายดีแล้ว​ใช่ไหม?"
วัลย์พยักหน้า
"เดี๋ยวเรา​ไปเล่นกันอีกนะ.."
"​ได้เลย​.."
...​...​.

ละมุนเห็นพวกผู้ใหญ่ร้องไห้
​แต่​เขาไม่ร้อง..
​เขาเดินออกมาด้วย​ความหวัง
หวังว่าเธอ​จะหายดี
...​...​.

ละมุนหารู้ไม่ว่า..​เขา​ได้​แต่หวัง
นั่น​เป็นการ​ได้เห็นหน้าเธอ​เป็นครั้งสุดท้าย
จากนั้น​ไม่นาน..คุณครูก็พา​เขา​และ​เพื่อน ๆ​​ไปงานศพของเธอ
ร่าง​ที่คุ้นเคย..นอนนิ่งหลับตาพริ้ม..อยู่​บนเตียง..คลุมด้วยผ้าดิ้นทอง
ผมดำขลับปรกหน้าผาก..แก้มซีดขาว..ริมฝีปากก็ซีดขาว
มือซีดขาวยื่นออกมารอรับน้ำจาก​เพื่อน ๆ​
บรรยากาศแสนเศร้า..ทุกคนเงียบกริบ..รับรู้ต่อการสูญเสีย..
ละมุนรับขันน้ำจากแม่ของเธอ..แม่ของเธอ​ที่ตาบวม..หลั่งน้ำตาตลอดเวลา..
น้ำจากมือของ​เขา..ค่อย ๆ​ รดลงมือของเธอ
มือ​ที่เคยเล่นมาด้วยกัน..บางครั้งก็จูงกันวิ่งเล่น..
บัดนี้นิ่งสนิท..ไม่รับรู้ใด ๆ​
​เขาร้องไห้..
เรียกเธอด้วยเสียงสะอื้น..
วัลย์..แล้ว​เรามาเล่นกันใหม่นะ
...​..

ละมุนไม่รู้ว่านั่น​เป็น​ความรักหรือเปล่า?
ทุกวันนี้ผมยังนึกถึงวัลย์ในกริยาบทต่าง ๆ​ ​ที่ฝังลึกอยู่​ใน​ความทรงจำ
มันอาจ​จะ​เป็น​ความรู้สึกใส ๆ​ ​ที่ต่างมอบให้แก่กัน..​โดยไม่มีกิเลสอารมณ์ใดมาประสม
หาก​เป็น​ความรัก..ก็​เป็น​ความรัก​ที่บริสุทธิ์..
บริสุทธิ์เกินกว่า​จะอธิบาย​ได้..
...​..

ตั้งแต่นั้น​มา..​เขาไม่ยอมให้​ความรู้สึกนั้น​เกิดขึ้น​มาอีก
​จะตั้งใจหรือไม่​เขาก็บอกตัวเองไม่​ได้..
ผู้หญิงทุกคน​ที่ผ่านเข้ามา..จึงแค่​เป็น​เพื่อนเล่นสนุก..พูดคุย​และ​ไปเ​ที่ยวด้วยกันเท่านั้น​
​เขายังไม่เคยมี​ความรู้สึกพิเศษ​กับ​ใคร..​และอีกอย่าง..​เขาคิดว่ามันยังคงไม่ถึงเวลา
​แม้​แต่"หวาน"เอง..​ความรู้สึก​ที่เกิดขึ้น​​กับ​เขาในตอนนี้..ก็ยังบอกตัวเองไม่​ได้ว่ามัน​เป็น​ความรักหรือไม่
อาจ​จะชอบ​ที่เธอตาสวย..พูดจาดี..​และ​เป็นคนดีมีน้ำใจเท่านั้น​
​เมื่อวันเวลาผ่าน​ไป..​เขาอาจ​จะเจอคน​ที่ดีกว่านี้ก็​ได้..​ใคร​จะรู้??
...​..

แสงแดดยามเย็นเริ่มหรี่ลง..สายลมแรงขึ้น​เรื่อย ๆ​
ในขณะ​ที่​เขาคิดอะไร​เพลิดเพลิน..ละมุนก็​ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง
"พี่มุน..มานั่งทำไม​ที่นี่ฮะ?"
น้องการะเวกนั่นเอง..​เขาขับจักรยานมาวิ่งเล่นสวนสาธารณะริมน้ำนี่บ่อย ๆ​
"แล้ว​​จะให้พี่​ไปนั่ง​ที่ไหน?"
"ไมพี่ไม่​ไปหาพี่หวาน..?"
"พี่หวานกลับมาแล้ว​รึ?"
"กลับมาตั้งนานแล้ว​.."
"คงมี​ความสุขมากสิท่า.."
"ม่ายรู้..เห็นทำหน้ามุ่ย ๆ​ ตลอด"
"อ้าว..​เป็นไร​ไปล่ะ?"
"เวก​จะ​ไปรู้เรอะ..ไม่​ได้ถามนี่นะ"
"แล้ว​ทำไมไม่ถาม?"
"อ๋าว..​จะถามทำไม..ไม่ใช่เรื่อง​ของเวก"
"แล้ว​อะไร​​ที่​เป็นเรื่อง​ของเวก?"
​เขาเกาหัว..
"เรื่อง​เล่นรถไงพี่..ล้อมันหักอีกแหล่ว.."
"เล่นไม่ระวังนี่น๊า.."
"พี่มุนซ่อมไม่ดีต่างหาก..ไม่​เป็นไรฮะ..เดี๋ยวให้พ่อซื้อให้ใหม่.."
"ดีจริง..เล่นแป๊บ ๆ​ พัง พังแล้ว​ก็ซื้อใหม่..ร่ำรวยเสียจริงนะเรา.."
"พี่นี่ขี้บนชะมัด..บ่นเหมือนพี่หวานเลย​"
"พี่หวานของแก​เขาบ่นอะไร​?"
"บ่นว่าเบื่อหน้าคน.."
"หน้า​ใคร.."
"คน​ที่ชอบ​ไปเจ้ากี้เจ้าการ​กับ​เขา.."
"เจ้ากี้เจ้าการอย่างไง?"
"ชอบทำโน่นทำนี่..พา​ไปโน่น​ไปนี่..ซื้อโน่นซื้อนี่..บอกพ่อให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้..ไรเงี้ย.."
"พี่หวาน​เขาหมายถึง​ใคร?.."
"ม่ายรู้..ถามจริงแฮะ.."
"อ้าว..ไม่ถาม​จะรู้เรอะ..​เขาอาจ​จะหมายถึงพี่ก็​ได้"
"พี่ชอบทำโน่นทำนี่ให้​เขาเหรอ?"
"เปล่า"
"พี่ชอบพา​เขา​ไปโน่น​ไปนี่เหรอ?"
"เปล่า"
"แล้ว​พี่​จะเดือดร้อนทำไม?"
ผมอึ้ง
"พี่หวาน​เขาชอบพี่.."
"อะไร​นะ?"
"พี่หวาน​เขาชอบพี่​จะตาย..วันนี้​เขายังพูดถึงพี่เลย​.."
"ว่า?"
"นี่นายเวก..วันนี้พี่เจอพี่มุนของนายด้วยล่ะ..ไม่รู้​ไปจีบสาวคนไหน​ที่โรงเรียนใหม่ของพี่.."
"​เขาพูดงั้นจริงเหรอ?"
"จริงสิ..เวก​จะโกหกทำไมเนี่ย"
"ไม่เห็น​เขาพูดว่าชอบพี่สักคำ"
"เด่อเอ๊ย..ไม่​ต้องพูดเวกก็รู้.."
"รู้​ได้ไง?"
"​ถ้าไม่ชอบ​เขาคงไม่เขียนชื่อพี่ไว้ในสมุด​เขาเต็ม​ไปหมดอย่างงั้นหรอก.."
...​..

น่าแปลก..​ที่​ความแจ่มใสกลับเข้ามาสู่หัวใจผมอีกครั้ง..
นี่​เป็นผลจาก​ความรักหรือเปล่า?
ผมยังตอบไม่​ได้..
​และยังไม่คิด​จะหาคำตอบในตอนนี้
​เพราะผมไม่ว่างซะแล้ว​..
"​ไปเวก..กลับ​ไปซ่อมรถ​ที่บ้านของเวกกันดีกว่า.."
​เขาทำตาโต
"จริงอ้ะ.."
"จริงดิ"
"งั้นพี่ขี่คุณนายนุ่มนวลช้า ๆ​ นะฮะ..ผมขี่จักรยานตามไม่ทัน.."
"​ได้เล้ย.."
...​...​.

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๓ : รันนรา [C-9633 ], [58.9.43.26]
เมื่อวันที่ : 09 พ.ย. 2549, 14.08 น.

อ้าว..เขียนเพลินจนเขียนผิด
​ต้องยังงี้คับ..
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

น่าแปลก..​ที่​ความแจ่มใสกลับเข้ามาสู่หัวใจละมุนอีกครั้ง..
นี่​เป็นผลจาก​ความรักหรือเปล่า?
​เขายังตอบไม่​ได้..
​และยังไม่คิด​จะหาคำตอบในตอนนี้
​เพราะ​เขาไม่ว่างซะแล้ว​..
"​ไปเวก..กลับ​ไปซ่อมรถ​ที่บ้านของเวกกันดีกว่า.."
​เขาทำตาโต
"จริงอ้ะ.."
"จริงดิ"
"งั้นพี่ขี่คุณนายนุ่มนวลช้า ๆ​ นะฮะ..ผมขี่จักรยานตามไม่ทัน.."
"​ได้เล้ย.."
...​...​.


ผม​ใช้คำว่า "ผม" จนติดอะคับ
ขออะไพ

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๔ : รันนรา [C-9635 ], [58.9.43.26]
เมื่อวันที่ : 09 พ.ย. 2549, 14.19 น.

ในสังคมต่างจังหวัด..การ​เป็นวัยรุ่นคงไม่มีอะไร​ทำมาก​ไปกว่าจับกลุ่ม​กับ​เพื่อน ๆ​ แล้ว​ร่วมกันทำอะไร​​ที่สนุกสนาน​ไปวัน ๆ​
ละมุนก็เช่นเดียวกัน..​เขา​กับ​เพื่อนร่วมกันเตะฟุตบอลบ้าง ก่อตั้งสามแยกปากแมวบ้าง(คอยแซวสาว ๆ​) ตั้งวงเล่นหมากฮอสบ้าง หรือนึกครึ้มหนักขึ้น​ก็​จะ​ไปซ้อมดนตรี​ที่​แต่ละคนพอ​จะเล่น​ได้บ้าง
ละมุนเล่นกีตาร์​ได้ตั้งแต่เด็ก ๆ​ พี่ชายของ​เขายกสัมปทานกีตาร์โปร่งให้
น่าแปลก​ที่คนอย่างละมุนกลับร้องเพลง​เพราะ..เสียดาย​ที่​เขาไม่มีโอกาส​ได้แสดง​ความ​สามารถให้แมวตัวไหนมอง ไม่งั้น​เขาอาจ​จะ​ได้​เป็นศิลปินชื่อดัง​ไปแล้ว​
​แต่ละมุนไม่รู้สึกอะไร​ ​เขา​เป็นคน​ที่มัก​จะไม่ค่อยรู้สึกอะไร​​กับ​ใครอยู่​แล้ว​
อยากทำอะไร​ก็ทำ​ไป ทำให้ดีเท่า​ที่​จะทำ​ได้ ​ส่วนผล​จะ​เป็นอย่างไร​เขาไม่ใส่ใจ
วันนั้น​หลังจากซ้อมดนตรี ละมุนขอตัว​กับ​เพื่อน ๆ​ กลับบ้านก่อน
"รีบ​ไปไหนวะ?" ​เพื่อนคนหนึ่ง​ถาม
​เขาไม่ตอบ​แต่ยักคิ้ว
"​ไปหายัยหวานอีกล่ะสิ..เอ็งนี้ก็แปลก..พอผู้หญิง​เขาเล่นด้วยเอ็งก็ไม่​เอา..พอ​เขาไม่​เอาเอ็งก็เล่นด้วย.."
​เขาตบศีรษะ​เพื่อนคนนั้น​ทีหนึ่ง​
"เรื่อง​ของข้า.."
"ระวังเหอะ..ถูกคาบ​ไปรับประทานแล้ว​เอ็ง​จะรู้สึก.."
ละมุนสตาร์ทรถ..โบกมือให้​เพื่อนทีหนึ่ง​แล้ว​ขับออก​ไป
ทำไม​เขา​จะไม่รู้สึกหากมี​ใครมาแย่งหวาน​ไปจาก​เขาจริง ๆ​
รู้สึกไม่แปลกใจไงล่ะ..ก็ใน​เมื่อหวานน่ารักขนาดนั้น​ ​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ที่​ใครก็​ต้องชอบ
​และตัว​เขาเอง..ถึง​แม้หวาน​จะเลือก​เขา..​เขาก็ไม่แน่ใจตัวเองว่า​จะรู้สึกดีใจหรือไม่
​เขากลัวอะไร​บางอย่าง..บางอย่าง​ที่ฝังลึกอยู่​ในใจของ​เขามาช้านาน
​เขากลัว​จะสูญเสียเธอ​ไป..
ฉะนั้น​หากไม่ครอบครอง..ก็​จะไม่มีการสูญเสีย
​เขาคิดถูกหรือไม่?..
โปรดติดตาม
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

เกือบสี่ทุ่มเข้า​ไปแล้ว​..ถนนหนทางมีรถราน้อยมาก
ละมุนขับรถช้า ๆ​ วันนี้​เขารู้สึกแปลก ๆ​ ในหัวใจตัวเอง
ขณะเล่นกีตาร์ เพลงบางเพลงทำให้​เขารู้สึกคิดถึงดวงตาคู่นั้น​
สวยซึ้ง..หวานระยับ..ริมฝีปากแย้มผลิ..​กับคำพูด​ที่กินใจ
"หวานอยาก​จะบอกอะไร​พี่มุนสักคำ.."
"ให้ร้อยคำ"
​ทั้งคู่นั่งคุยกันตรงลานพิกุล..หอมกรุ่น บนม้านั่ง​ที่ทำจากไม้ไผ่
"คำเดียวเท่านั้น​จริง ๆ​"
​เขารู้สึกคัน ๆ​ ​ที่สะเอว..เกายิก ๆ​
"ตัวอะไร​กัดแฮะ.."
เด็กสาวหน้านิ่ว
"พี่ไม่สนใจหวานเลย​ใช่ไหม?"
ละมุนหัวเราะแหะ..ทำท่าตั้งอกตั้งใจ
"สนใจคับ..บอกสิคับ"
"ทำ​เป็นเล่นเสียทุกเรื่อง​.." เธอยังบ่น​เป็นหมีกินผึ้ง
"ระวังปาก​จะฉีกถึงหู..ขี้บ่นยังเงี้ยะ"
หวานลุกขึ้น​ หน้าคว่ำ
"​เอาไว้คุยกันวันหลังแล้ว​กัน.."
เธอเดินลงส้น..ละมุนก็โดดหวือเดียวก็​ไปดักอยู่​ตรงหน้า
"พี่ขอโทษ..อย่าโกรธสิครับ​"
เธอสะบัดมือ..ละมุนห้ามใจตัวเองแทบตาย​ที่​จะไม่คว้ามือนั้น​มาแนบใจ
"หวานมีอะไร​​จะบอกพี่หรือครับ​.."
คำพูดเหมือนยี่เกอย่างนี้..ทำให้หวานครึ่งยิ้มครึ่งบึ้ง
"ช่างเหอะ..ไม่มีอารมณ์​จะถามแล้ว​.."
"น่า..บอกหน่อย​น่า.."
ก่อน​ที่เธอ​จะบอกอะไร​ออกมา..เสียงนกชนิดหนึ่ง​​ที่ไม่เคยมีในโลกก็ดังขึ้น​
​เป็นสัญญาณจากเจ้าการะเวก
"พ่อมาแล้ว​.." หวานหน้าตื่น ขยับ​จะเดินกลับบ้าน
ละมุนไม่ห้าม..บางทีไม่รู้ในสิ่ง​ที่หวาน​จะบอก..ก็น่า​จะดีเหมือนกัน
"หวาน​ต้อง​ไปแล้ว​.." มีท่ารีรอให้​เขารั้งไว้
​แต่​เขากลับพยักหน้า..
หญิงสาวกระทืบเท้า..ขัดใจผู้ชายคนนี้อย่างเหลือเกิน
"บ้า...​"
แล้ว​เธอก็หันหลังกลับวิ่งลับ​ไป
ละมุนเกาหัว..นี่หรือ​ที่เธออยาก​จะบอก..
คำว่า "บ้า" ของผู้หญิง มันมี​ความหมายอย่างไรกันแน่?
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

วันนี้​เขาตั้งใจ​ไปหาเธอ..​แม้​จะไม่​ได้นัดกัน​เอาไว้ก่อนเหมือนเช่นเคย
แค่​ได้​ไปเห็นหลังคาบ้าน..มองลอดหน้าต่าง..เห็นเธอแว่บ ๆ​ ​เขาก็พอใจ
บ้านของหวานอยู่​ใกล้​กับบ้านของยายกำพร้า(มีไหมคำนี้?)คนนั้น​..​เขาจงใจไม่ผ่านบ้านของยาย..​ถ้าแกรู้ว่า​เขามาแก​ต้องเรียก​เขาให้นั่งคุย​ไปตบยุง​ไป​เป็นชั่วโมง
ละมุนไม่ชอบขัดใจ​ใคร ​โดยเฉพาะคน​ที่น่าสงสารอย่างยายคนนั้น​
จอดรถไว้โคนต้นไม้..เดินลัดเลาะผ่านหลังบ้านของยาย​ซึ่ง​เป็นสวนละเมาะรกเรื้อ
กระโดดข้ามท้องร่อง..กิ่งไม้หนามแหลมเกี่ยวจนเลือดซิบ..
บ่นอุบอิบไม่​เป็นภาษา..ก้าวเดินต่อ​ไป
หลังบ้านของหวาน​เป็นสวนผัก..พ่อของเธอปลูกต้นมะนาวไว้หลายต้น..
ใบมะนาว​เป็นใบไม้​ที่มีกลิ่นหอม..หอมสะอาดกว่าน้ำมะนาว..​เขาชอบ​ที่​จะเด็ดแล้ว​ขยี้​กับปลายนิ้วก่อนยกขึ้น​ดม
ชื่นใจดีแท้..
ใน​ที่สุดก็ถึงหลังบ้านของหวาน..น่าแปลก​ที่วันนี้ปิดไฟมืด..
คงนอนเร็ว..ทุกทีมัคทายกหวาน​จะนั่งลับมีดดาบของแกจนดึกดื่น
ละมุนผิดหวังเล็กน้อย..ขณะ​กำลัง​จะหันหลัง​กับ​เขาก็​ต้องตกใจสุดขีด
"เปรี้ยง!"
เสียงปืนดังออกมาจากบ้านของหวาน..
​เขายืนนิ่งขึง..ตะลึงต่อเสียงนั้น​..ยังทำอะไร​ไม่ถูก
มีเสียงโวยวายออกจากบ้านหลังนั้น​..​เป็นเสียงของมัคทายกแหวง
"ขโมย..ช่วยกันจับขโมย.."
ก่อน​จะทำอะไร​​ได้ถูก..​ใครคนหนึ่ง​ก็วิ่งวูบตรงมาหา​เขา..
เลือด​พระเอกวิ่งพล่าน..​เขาถลาเข้า​ไปทันที
แล้ว​ก็ถูกอะไร​บางอยู่​ยันออกมา..กลิ้งไม่​เป็นท่าตกลง​ไปในท้องร่อง..
หัวขโมยคนนั้น​หายวับ​ไป​กับตา..
​เขาปีนขึ้น​มา..เนื้อตัวเปียกปอน..กลิ่นน้ำในท้องร่องโชยเข้าจมูก
​และแล้ว​
"หยุด..ยกมือขึ้น​..ไม่งั้นเอ็งตายแน่!!"
​เป็นเสียงตวาดก้องใกล้ตัว..ละมุนหันซ้ายขวา..
"ชิชะ..ล้วงคองูเห่าซะแล้ว​เอ็งรู้ไหม?..เอ็ง​ได้ติดตารางหัวโตแน่.."
ละมุนเพิ่งรู้ว่า​กำลังถูกเข้าใจผิด..
ไฟฉายส่องวาบมา​ที่หน้าจน​ต้องยิบหยีตา..
ก่อน​ที่​เขา​จะทัน​ได้พูดอะไร​..ชาวบ้านแถวนั้น​สามสี่คนก็กรูกันเข้ามาหา​เขา
​ทั้งหมัด​ทั้งเท้าปลิวว่อน..เสียงตุ้บตั้บระรัวขึ้น​
สติเลอะเลือนเจ็บ​ไป​ทั้งตัว
แว่ว​แต่เสียงยายกำพร้า..
"ไม่ใช่..ละมุนไม่ใช่ขโมย.."
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​.

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๕ : รันนรา [C-9887 ], [58.9.43.134]
เมื่อวันที่ : 28 พ.ย. 2549, 11.39 น.

​ความเจ็บปวดทางกายยังพอทน​ได้..
แว่บหนึ่ง​​ที่เห็นขณะถูกลากถูลู่ถูกัง​ไปตามพื้น​ที่แห้งระแหงนั้น​
​คือสายตากึ่งตกใจ​และผิดหวังของหวาน
​กับสายตาอันไม่เข้าใจของการะเวก
ปาก​ที่มีเลือดกลบไม่​สามารถ​จะพูดอะไร​ออกมา​ได้
ดวงตา​ที่บวมปิดร้อนผ่าวนั้น​เล่า..​จะสื่อ​ความหมายอะไร​ออกมา
"ไอ้หมอนี่เอง..เห็นมาก้อร่อก้อติก​กับลูกสาวข้าอยู่​บ่อย ๆ​ ​ที่ไหน​ได้..สันดานมัน​เป็นขโมยอย่างนี้นี่เอง.."
ลุงแหวงพูดท่ามกลางเสียงสนับสนุนของชาวบ้าน
"หาตัวมานานแล้ว​..เจอตัว​ได้ซะทีข้าวของของพวกเราคง​จะไม่หายแล้ว​..ไม่น่าเชื่อหน้าตาก็ดีทำไมถึง​ได้ริอ่าน​เป็นขโมย..พ่อแม่ของมันไม่สั่งไม่สอนบ้างรึ?"
​เป็นอีกเสียง​ที่ตอกย้ำมา ละมุนเดือดพล่าน​ไป​ทั้งตัว
"ผม..ปล่าว.."
หาก​เป็นคำพึมพำเบา ๆ​ ​ที่แทบไม่​ได้ยินเท่านั้น​
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

ปากยังคงเจ็บ..เลือดยังคงหยดผ่านปลายคาง
​เขาก้มหน้านิ่งรับฟังคำถามจากบุรุษในเครื่องแบบ
การปฏิเสธ​และการส่ายหน้า..ไม่ช่วยให้อะไร​ดีขึ้น​
"ไอ้น้อง..พวก​เขาพบของกลาง​ที่เอ็งขโมยมา..ทำปากแข็งอย่างนี้พี่บอก​ได้เลย​ว่าไม่มีประโยชน์"
​เขาพยายามขยับปาก​ที่เจ่อบวม
"ผมเปล่า.."
​ได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นห้อง
"​ถ้าศาลตัดสินว่าจำนนด้วยหลักฐาน สิบปีนะน้อง..​แต่​ถ้าสารภาพ..ก็​จะติดแค่ห้าปี..ทำตัวดี ๆ​ สามสี่ปีก็​ได้ออกมาเดินปร๋อแล้ว​.."
​เขาส่ายหน้า..
"ผมไม่​ได้ขโมย.."
ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ผู้นั้น​หน้าขึงเข้ม..ตวาดเสียงก้อง
"แล้ว​เอ็ง​ไปทำไมแถวนั้น​?..เนื้อตัวก็เต็ม​ไปด้วยร่องรอยของหนามเต็มตัว..รถมอเตอร์ไซค์​ที่เอ็ง​ไปจอดอยู่​ก็ถูกซุกเข้า​ไปจนลึกขนาดนั้น​..เอ็งยัง​จะมาบอกอีกหรือว่าเอ็งเปล่า?"
"ผมเปล่า"..​เขาพูด​ได้แค่นั้น​
"ดี..เอ็งพูดคำนี้​ไปให้ตลอดเถอะ..รอผู้ปกครองของเอ็งมาแล้ว​ค่อยสารภาพก็แล้ว​กัน"
ละมุนใจหายวาบ..แม่..
ดวงตา​ที่เบิกกว้างจากร่องรอยบวมช้ำนั้น​ ไม่​ได้ทำให้นายตำรวจสืบสวนผู้นั้น​เห็นใจ
"เด็กสมัยนี้เหลือขอจริง ๆ​"
หยาดน้ำตาของลูกผู้ชายหลั่งไหลออกมา
แม่ของ​เขา​จะทน​ได้ล่ะหรือ​เมื่อเห็นลูกของท่านอยู่​ในสภาพอย่างนี้
"แม่...​"
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​.

​เขาไม่ยอมให้แม่มาเห็น​เขาในสภาพเช่นนี้..
มือยัง​เป็นอิสระ..คงไม่มี​ใครคิดว่า​เขา​จะคิดหนี
หันมองซ้ายขวา..นายตำรวจคนนั้น​ตะโกนเรียกลูกน้องให้พา​เขา​ไปขัง
จังหวะเดียวเท่านั้น​​คือจังหวะนี้
ประตูเปิด..จ่าคนหนึ่ง​เดินเข้ามา..
​ความงัวเงียยังคงมีอยู่​เต็มหน้า..ท่าทาง​เขารำคาญเต็มที​กับคดีเช่นนี้
แขนถูกจับ..ละมุนลุกขึ้น​..
"​เอา​ไปขังไว้ก่อน..เดี๋ยวพ่อแม่มันมาค่อย​เอามันออกมาอีกที"
"ครับ​ผม"
ละมุนยังคงก้มหน้า..ลู่ทางค่อย ๆ​ แจ่มชัด..เดินตาม..แขนท่อนบนถูกจับไว้อย่างล่ะหลวม..หลุดออกจากห้องสืบสวน..มองซ้ายขวา..
สบัดทีเดียว..แล้ว​โกยอ้าว..
"เฮ้ย..ผู้​ต้องหาหนี!!"

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๖ : สตรอเบอรี่ [C-9996 ], [203.113.112.242]
เมื่อวันที่ : 04 ธ.ค. 2549, 20.38 น.

​เป็นเรื่อง​สั้นยาวๆ​ อ่านจนขอบตาขาวเริ่มคล้ำ...​ ภาษาดี มีแววยิ่งใหญ่ ชอบๆ​ รูปแบบใหม่ๆ​ นำเสนอ​คล้ายบทเพลงหรืออาขยาน
​ทว่าเรื่อง​ราวไม่กระชับ...​พร่ำ​ไปเรื่อยจนดูเลื่อยลอย​และไม่ชวนติดตาม จับประเด็นไม่​ได้ หรือมีหลายประเด็นจนจับต้นชนปลายไม่ถูก

ด้วย​ความปรารถนาดี

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๗ : รันนรา [C-10648 ], [58.9.160.36]
เมื่อวันที่ : 26 ม.ค. 2550, 20.48 น.

ขอรับ​ความปรารถนาดีจากคุณสตรเบอรี่ไว้เต็มหัวใจครับ​
ขออภัย​ที่รันหาย​ไปนาน..
นาน...​เหลือเกิน
++++++

วันเวลาอันโหดร้ายคืบผ่าน​ไปอย่างเชื่องช้า..
​ใคร​จะรู้ว่ามันพรากเด็กจิตใจดี​และมีอนาคตให้จมปลัก​ไป​กับโทษ​ที่​เขาไม่​ได้ก่อขึ้น​
ละมุนหลบหนีหัวซุกหัวซุน..หิวโหยอดโซแทบสิ้นเรี่ยวแรง..บ้านไหนใจดีก็แบ่งข้าวแบ่งน้ำให้..บ้านไหนใจร้ายพอเห็นสภาพของ​เขาก็ขับไล่ไสส่ง
จนกระทั่ง​เขาหมดแรงแทบสิ้นสติครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่​ใต้ต้นไม้ริมถนนในอำเภอหนึ่ง​..ห่างไกลจากบ้านของ​เขาหลายสิบกิโล
มีคนช่วยชีวิต​เขา​เอาไว้..
คน​ที่​กำลัง​ต้องการ​กำลังคนในธุรกิจของ​เขา​พอดี

​เขา​ได้น้ำ..​ได้ข้าว..แลก​กับทำงานแค่เล็กน้อย..
ชีวิต​ที่จบสิ้น​ไปแล้ว​สำหรับนายละมุน..เด็กหนุ่ม​ที่มีอายุไม่ถึงสิบแปดปีผู้นี้..​เขา​ต้องทำทุกอย่าง​เพื่อประทังชีวิต
​แม้​จะ​ต้องทำงาน​เป็นคนคุมบ่อนก็ตาม
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

จากวัน​ที่เกิดเรื่อง​..มาจนวันนี้..​เขาไม่สนใจว่า​จะนานแค่ไหน
บัดนี้​เขาแข็งแรง..โต​เป็นหนุ่มเต็มตัว..​พร้อม​ที่​จะสู้​กับทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่ขวางหน้า
สังคม​ที่มืดมิด สั่งสอนให้​เขาเข้มแข็ง​และอดทุน..หนุ่มร่างสูงผิวขาวร้องเพลง​เพราะคนนี้..กลับกลาย​เป็นลูกพี่ใหญ่ปกครองสมุนวายร้ายนับสิบคน
​ใคร​จะเชื่อ..ว่าวิถีชีวิตของละมุน ​จะกลายกลายจากหน้าเท้า​เป็นหลังมือ​ได้ถึงเพียงนี้..
​แม้​แต่ผมเอง..ก็ยังไม่อยากเชื่อ!!
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

วันนี้​เขาไม่มีอะไร​ทำ
พอไม่มีอะไร​ทำ​เขามัก​จะนั่งจมนิ่งอยู่​ใน​ที่​ที่​เขาชอบ
มีกีตาร์อยู่​ตัวหนึ่ง​..​แม้สภาพ​และรูปทรง​จะทำให้มันแพงกว่าตัวของพี่ชาย..​แต่​ความรู้สึก​ที่​ได้รับจากเสียงของมันนั้น​กลับสู้ไม่​ได้
​เขาดีดกีตาร์..จมลึกสู่อดีตอันแจ่มชัด
คิดถึงแม่​ที่ปากร้ายใจดี..คิดถึง​เพื่อน ๆ​ ​ที่เคยจับกลุ่มกันเฮฮา คิดถึงการะเวกเด็กน้อยปากมาก​แต่น่ารักคนนั้น​
​ที่ไม่เคยลืม​แม้วินาทีก็​คือหวาน..
ป่านนี้เธอ​จะ​เป็นเช่นไร
​จะคิดถึง​เขาบ้างหรือไม่
​เขาไม่รู้เลย​..

"ฉันกลาย​เป็นคนอย่างนี้​ได้ยังไง ฉันเห็นแก่ตัวใช่ไหม​ที่ทำอย่างนั้น​.."

เสียงของ​เขานุ่ม..กังวาลน่าฟัง

"​จะพูดคำว่ารัก​เพื่ออะไร​กัน ​ทั้งๆ​​ที่คนอย่างฉันไม่ควรคู่เธอ

​แม้ว่าดาว​จะลอยหลงฟ้า โชคชะตา​จะขีดพาให้พบเจอ
​แต่ดาวยังคง​เป็นดาวเสมอ ​แม้ว่าเธอ​จะเผลอลืม​ไป

อย่าฉุดเธอไว้อีกเลย​ขอที จับมือเธอไว้อย่างนี้​เพื่ออะไร​
ปล่อยเธอให้หวนกลับฟ้าของเธอ​ไป ปล่อยน้ำตาให้มันไหล ให้มันรินล้างใจคนไม่เจียม

​แม้เรา​จะ​ต้องปวดร้าวสักเท่าไหร่ ​แม้มัน​จะไม่​เป็น​ไปเหมือนใจ​ต้องการ
ไม่เจอกันอีกแล้ว​จนชั่วกาล สักวันเธอคง​จะรู้ว่าฉันทำ​เพื่อ​ใคร

คำว่ารัก​แม้มัน​จะยิ่งใหญ่ ​แต่มันไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง

ปล่อยน้ำตาให้มันไหล ให้มันรินล้างใจ คนไม่เจียม...​"


(ศิลปิน : พลพล
อัลบั้ม : วันฝนซา
เพลง : คนไม่เจียม)

สิ้นเสียงเพลง​ที่​เขาร้องจากหัวใจ..ลมหายใจถูกสะกัดด้วยก้อนสะอื้น..

"..​แม้เรา​จะ​ต้องปวดร้าวสักเท่าไหร่ ​แม้มัน​จะไม่​เป็น​ไปเหมือนใจ​ต้องการ
ไม่เจอกันอีกแล้ว​จนชั่วกาล สักวันเธอคง​จะรู้ว่าฉันทำ​เพื่อ​ใคร.."

ร้องย้ำ​กับตัวเองอีกครั้ง ก่อน​จะตัดสินใจลุกขึ้น​..
กี่เดือนมาแล้ว​นะ..​ที่​เขาไม่​ได้พบ​ใครเลย​..
วางกีตาร์ตัวนั้น​ไว้บน​ที่นอน
บอกตัวเองว่า​ต้องทำอะไร​บางอย่าง..ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๘ : รันนรา [C-10649 ], [58.9.160.36]
เมื่อวันที่ : 26 ม.ค. 2550, 20.54 น.

ผมเผ้า​ที่ถูกปล่อยทิ้งจนยาวประบ่า..ถูกรวบไว้ลวก ๆ​ ​กับหนังสติ๊ก..
คิ้วเข้ม​และตากลมยาว..จมูกโด่ง​เป็นสัน​กับไรหนวดเขียวครึ้มเหนือริมฝีปาก คงช่วยให้ไม่มี​ใครจำ​เขา​ได้บ้าง..
แจ๊กเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์สีซีด..ขับเน้นร่างสูงโปร่งค่อน​ไปทางผอมนั้น​ ก้าวขึ้น​คร่อมบนรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่..คว้าหมวกกันน๊อคขึ้น​สวม..บิดรถออก​ไปอย่างไม่รีบร้อน
เป้าหมายแรก..ผู้หญิงคน​ที่​เขารัก​ที่สุดในชีวิต
แม่ละม่อม..
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

หอพักยังคงสภาพเดิม...​
แสงสว่างจาก​ที่โน่น​ที่นี่พอ​จะส่องให้เห็นอะไร​​ได้บ้าง
มองขึ้น​​ไปยังชั้นสามชั้นสี่..บางห้องปิดไฟแล้ว​ บางห้องยังคงมีไฟอยู่​
หาก​ที่ชั้นล่าง..​ซึ่ง​เป็น​ที่อยู่​อาศัยของมารดา​กับพี่ชาย กลับเงียบเหงาไร้ชีวิตชีวา..
ชายหนุ่มเพียงขับรถผ่าน..เสี่ยงเกิน​ไป​ที่​จะจอดรถแถวนี้..
กวาดสายตามองหา​ความปลอดภัยให้ตัวเอง..
​แม้​จะไม่มีพิรุธให้จับ​ได้..​แต่หาก​จะให้​เขาเดินโต้ง ๆ​ เข้า​ไป..ก็คง​จะโง่เกิน​ไป​ที่ทำอย่างนั้น​..
จอดรถซุ่มไว้ในซอกตึก​ที่อยู่​ถัด​ไปสองสามคูหา..เดินทะลุ​ไปด้านหลัง​ซึ่งเต็ม​ไปด้วยไม้ไร่ของชาวบ้าน
มันถูกทิ้งร้าง..​ความเจริญเข้ามาถึง​ได้แค่ด้าน​ที่ติด​กับถนนเท่านั้น​..
แสงจันทร์ช่วยนำทาง..มีบ้าง​ที่แสงไฟลอดออกมาจากหน้าต่าง ​แต่ไม่​ได้ช่วยอะไร​​ได้มากนัก
หลังบ้านของ​เขามีหน้าต่าง..แม่ไม่เคยปิดมา​แต่ไหน​แต่ไร
ขอเพียง​เขา​ได้เห็นหน้าแม่..ให้รู้ว่าแม่สบายดี..​เขาก็พอใจแล้ว​
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​.

สุนัขส่งเสียงเห่า​โดย​ที่​เขามองไม่เห็นตัว
มันคง​ได้ยินเสียงเดินของ​เขา หรือไม่ก็เห็นเงาตะคุ่มของ​เขาจาก​ที่ใด​ที่หนึ่ง​..
​เขายืนนิ่ง..การเห่าของมันอาจ​จะทำให้​เขาถูกพบเห็น
ยังตัดสินใจทำอะไร​ไม่ถูก..เสียงเห่ากลับกลาย​เป็นเสียงงี๊ดง๊าด
หมาดำตัวหนึ่ง​วิ่งหูลู่เลียปากไกว่หางมาจากด้านหนึ่ง​..ละมุนถอนหายใจอย่างโล่งอก
ไอ้ดำตัวนี้..​เขาเคยหยิบยื่นอาหารให้มันมาตั้งแต่มันเล็ก ๆ​ มัน​เป็นหมาจรจัด​ที่ไม่มีเจ้าของ
มันจำ​เขา​ได้..​เขาตบหัวมันเบา ๆ​
มันหมอบนิ่ง ส่ายหางไม่หยุดยั้ง
​เขาสะท้อนใจ เทียบ​กับหมาตัวหนึ่ง​​เขายัง​ต้องละอาย
​เป็นคน​ที่หลบซ่อนเช่นนี้สมควรอายหมาจริง ๆ​
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

หน้าต่างบานนั้น​ปรากฏอยู่​ตรงหน้า
แสงนีออนจากภายในส่องออกมาให้พอเห็น​ได้
ละมุนย่อกาย..กระถดเข้าหาช้า ๆ​
ไอ้ดำหมาจรจัด..ยังอยู่​ข้างกาย​เขาไม่ห่าง
พยายามเงี่ยหูฟัง..ไม่มีการพูดคุยใด ๆ​ จากบ้านหลังนั้น​
ละมุนนั่งอิงหลัง​กับกำแพงบ้าน..ตัดสินใจอีกครั้งแล้ว​โผล่สายตาขึ้น​มอง
สภาพภายในยังคงเดิม..
เตียง​ที่แม่ชอบนั่ง​และนอนเล่นยังวางอยู่​​ที่เดิม
หาก​ใครคนหนึ่ง​​ที่นอนอยู่​บนนั้น​..ไม่น่า​จะ​เป็นแม่ของ​เขาคนเดิม
ละมุนตะลึงนิ่ง..​ความรู้สึก​ทั้งหลาย​ทั้งปวงประดังเข้ามาจากทุกทิศทุกทางของสมอง
"แม่.."
ร่าง​ที่เคยอ้วนท้วนสมบูรณ์ บัดนี้ผ่ายผอมลง​ไปอย่างผิดตา
ข้างเตียงนอนของแม่..​ที่เคยวางของกระจุกกระจิกบนหลังตู้โชว์เตี้ย ๆ​ บัดนี้มีรูปของ​เขาบานหนึ่ง​ตั้งไว้
มัน​เป็นรูปเด็กหนุ่มหน้าใส..ผู้​ที่แม่คาดหวังไว้ว่า​จะส่งให้เรียนให้สูง​ที่สุดเท่า​ที่​จะทำ​ได้
"แม่.."
น้ำตารื้นขึ้น​มาอย่างสุดกลั้น..จำ​ได้ว่าคำสุดท้าย​ที่​เขา​ได้พูด​กับแม่ตอน​ที่​เขาโทรฯมาหลังเกิดเรื่อง​​คือคำว่า
"แม่..ผมไม่​ได้ทำ"
แม่ร้องไห้
"แม่รู้..ลูกแม่​จะ​ต้องไม่ใช่ขโมยเด็ดขาด..กลับมานะลูก..แม่​จะทำทุกอย่างให้ลูกพ้นผิด.."
"ผมกลับไม่​ได้..ผมไม่มีหลักฐานอะไร​ให้พ้นผิด​ได้.."
"แล้ว​ลูก​จะหนีอยู่​อย่างนี้ล่ะหรือ..ชีวิตลูก​จะ​เป็นอย่างไร..โถ..ลูกของแม่.."
น้ำตาหยดลงปลายคาง
"แม่..ละมุนขอโทษ..ขอเวลาผมหน่อย​..ให้ผม​พร้อมกว่านี้แล้ว​ผม​จะ​ไปพิสูจน์ให้โลกรู้ว่า ลูกของแม่ไม่ใช่โจร.."
"ไม่..ลูกแม่..ฟังแม่นะ..อย่า​ไปจากแม่..แม่ทนไม่​ได้..แม่ทนไม่​ได้.."
​เขาวางหู..น้ำฉ่ำดวงตา
บัดนี้แม่ของ​เขาคนนั้น​..​กำลังรับกรรมจากการกระทำของ​เขาแล้ว​..
"แม่...​"
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

ชายหนุ่มนั่งกอดเข่าหลังจากทรุดลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
ก้มศีรษะอยู่​​ระหว่างเข่า​ทั้งสองข้าง สองมือประกบคล้องไว้​ที่ท้ายทอย..ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา​เป็นสายน้ำ
ไอ้ดำยังคงส่ายหาง..มันเลียทีหลังมือของ​เขาเบา ๆ​ เหมือน​จะ​เป็นการปลอบใจ
​เขากอดคอมันไว้..นี่​เป็นสิ่งเดียว​ที่​เขา​จะยึดเหนี่ยวไว้​ได้
มัน​เป็น​เพื่อนในยามยากของ​เขาเพียงตัวเดียว..
เจ็บปวดเหลือเกิน..
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

ขณะขับรถกลับ​เขา​ได้ตัดสินใจในบางสิ่งบางอย่าง
​จะมีประโยชน์อะไร​​ที่​จะกลับ​ไปหา​ใคร ๆ​ ในเวลานี้
แค่ภาพของแม่​ที่ผ่ายผอมตรอมใจก็แทบ​จะทำให้​เขาทนไม่​ได้
​เขาอยาก​จะเข้า​ไปกอดท่าน..อยากเข้า​ไปกราบเท้าขอโทษท่าน..​เขาก็ทำไม่​ได้..
ก่อนหน้านั้น​​เขา​เป็นผู้บริสุทธิ์..ถึงอย่างไร​เขาก็บอก​กับแม่​ได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า​เขาไม่ผิด..
​แต่ตอนนี้..มือของ​เขาแปดเปื้อน​ไปหมดแล้ว​..มันมีค่าพอหรือ​ที่​จะ​ไปพนมก้มกราบลงแทบเท้าของมารดา
​กับหวานล่ะ..​เขา​จะมีหน้าอะไร​​ไปพบเธออีก
"คำว่ารัก​แม้มัน​จะยิ่งใหญ่ ​แต่มันไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง.."
บทเพลงนั้น​ยังก้อง​ไปมา..
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

โทรศัพท์มือถือดังขึ้น​..ลูกน้องของ​เขาคนหนึ่ง​โทรฯเข้ามา
"พี่..ไอ้หนืดมัน​ไป​ได้เหยื่อมา..​ทั้งขาว​ทั้งสวย..พวกผมขออนุญาตนะพี่.."
ละมุนขมวดคิ้ว..ตั้งแต่​เขาถูกยก​เป็นลูกพี่..การขายยาบ้าของแก๊งค์นี้ถูกยกเลิก..การจี้ปล้นถูกสั่งห้าม..การฉุดคร่าลูกสาวชาวบ้านถูกกำชับเด็ดขาดว่าไม่​ได้
แค่เรียกเก็บค่าคุ้มครองในรูปของค่าเช่าในตลาดก็มีราย​ได้จน​ใช้ไม่หมดอยู่​แล้ว​..
"พวกเอ็งอย่าหาเรื่อง​..ปล่อย​ไปเดี๋ยวนี้.." ​เขาสั่งเสียงเข้ม
"โถ่..พี่..เห็นใจพวกผมมั่งเหอะ..ไอ้หนืดมันบอกเด็กมันก็เต็มใจ..นี่​ถ้าพวกผมทำ​ไป​โดยไม่บอกพี่พี่ก็ไม่รู้..ผมเห็นว่าพี่​เป็นลูกพี่พวกผมนะเนี่ยถึงโทรฯมาขออนุญาตก่อน.."
ไอ้หมอนี่พูดมาก..ยิ่งพูด​เขายิ่งยั๊วะ
"ก็​เพราะข้า​เป็นลูกพี่ไงล่ะข้าถึง​ได้ห้าม.." ​เขาตวาดเสียงหนัก
อีกฝ่ายส่งเสียงอึกอัก
"พวกเอ็งอยู่​ไหน?"
ลูกน้องคนนั้น​บอกสถาน​ที่แห่งหนึ่ง​ไม่ไกลจาก​ที่​เขาจอดรถ​เพื่อคุยโทรศัพท์นัก
"พวกเอ็งอย่าเพิ่งทำอะไร​..ข้า​จะ​ไปเดี๋ยวนี้.."
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๙ : รันนรา [C-10650 ], [58.9.160.36]
เมื่อวันที่ : 26 ม.ค. 2550, 20.59 น.

สถาน​ที่แห่งนั้น​​เป็นตึกร้างรอวันรื้อ​เพื่อสร้างอาคารพาณิชย์ใหม่
พวกลูกน้องของ​เขามายึด​ที่นี่ไว้​เป็น​ที่มั่วสุมกันนานแล้ว​
จริง ๆ​ แล้ว​​เขาไม่ค่อยเห็นด้วยนัก..​กับการทำตัวของลูกน้องอย่างนี้..​แต่อย่างว่า..หากพวกมันใฝ่ดีมันคงไม่มา​เป็นนักเลงขี้ยา
อีกไม่นาน​เขาก็​จะหลุดจากพวกนี้..ขอให้​เขาเก็บเงิน​ได้อีกหน่อย​..​เขา​จะกลับ​ไปสู้คดี..ด้วยเงินของ​เขาเอง
​เขาไม่อยากเดือดร้อนเงินแม่..กระเบียดกระเสียนส่งลูกเรียนก็เรียกว่าเหนื่อยพอแล้ว​..พี่ชายของ​เขาก็​กำลัง​จะเข้า​ไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ แม่​ต้อง​ใช้เงินอีกมาก
​เขาไม่เคยคิดถึงพ่อ..ผู้ชายคนนั้น​​เขาไม่เคยเก็บ​เอาไว้ใน​ความทรงจำ
ขณะครุ่นคิด​เขาก็เดินมาถึงประตู..แสงวับแวบจากตะเกียงเจ้าพายุเล็ดลอดออกมาทางรอยแยกของประตู
มีเสียงพูดคุยสลับเสียงหัวเราะของคนเมาอยู่​ในนั้น​
​เขา​ต้องเคาะประตูอีกสองสามครั้งกว่าเจ้าพวกนั้น​​จะ​ได้ยิน
มีเสียงตะโกนถาม
"​ใคร?"
"ข้าเอง"
ประตูถูกเปิด..กลิ่นควันบุหรี่​และกลิ่นอับปะทะหน้า
พวกมันห้าหกคนยืนกันหน้าสลอน ​เขาสำรวจ​ไปทั่ว..ไม่มีไอ้หนืดเจ้าตัวต้นเหตุ
"ไอ้หนืดอยู่​ไหน?"
ทุกคนทำสีหน้าอึกอัก..​เขาผลักพวกมันกระจาย..
ในแสงสีส้มของตะเกียงแก๊ซลูกนั้น​..​เขามองไม่เห็น​ใครอื่นอีก..
ไม่มี​แม้​แต่เด็กสาว​ที่ถูกกล่าวถึง
"มันพา​ไปไหน?"
ทุกคนเงียบ ​เขาเงื้อมือ
"มันพา​ไป​ที่อื่นแล้ว​พี่..​ไป​เมื่อกี๊นี้เอง"เจ้าคนนั้น​รีบตอบทันที
"ทำไมข้าไม่เห็น?.."
"มันออกอีกด้านหนึ่ง​..มันบอกพี่ไม่ใช่พ่อมัน..มัน​จะทำอะไร​ก็​ได้..​คือ..มัน​กำลังเมายาอะพี่.."
"แล้ว​เด็กคนนั้น​.."
"เธอก็เมา..สงสัยถูกมอม..ผมบอกมันแล้ว​ว่าอย่า ๆ​ มันก็ไม่เชื่อ.."
"มัน​ไป​เอามาจากไหน?"
"ผับในเมือง..มันบอกมันคั่วมาหลายวันแล้ว​.."
"เด็กอายุเท่าไร?"
"ยังเด็กอยู่​เลย​ครับ​..น่า​จะมอสี่มอห้านี่แหละ​.."
หัวใจของ​เขาวูบถึงหวาน..​แต่หวานไม่ใช่เด็กเ​ที่ยวอยู่​แล้ว​..
"เด็กขนาดนี้..​ถ้า​เขา​เอาเรื่อง​พวกเอ็ง​จะซวย​ไปด้วย.."
​เขาพูดอย่างหงุดหงิด..หากมีคดีเกิดขึ้น​​ที่เกี่ยวข้อง​กับตัว​เขา..การ​ที่​เขาคิด​จะกลับตัวคง​เป็นเรื่อง​ยากขึ้น​อีกหลายเท่า
ขณะตัดสินใจ​จะออกตาม..​เขาก็​ได้ยินเสียงหนึ่ง​จากชั้นบน
"ช่วยด้วย.."
​เขามองหน้าพวกมัน..ไอ้พวกนี้รวมหัวกันโกหก​เขา ​เพื่อให้​เขากลับ​ไปแล้ว​พวกมัน​จะ​ได้เรียงคิวกันอย่างสะดวก​
เท้าดีดกราดจนล้มกันระนาว พวกมันหนีกระเจิงหนี
​เขากระโจนวูบเดียวก็ถึงบันได กระโจนอีกวูบก็​ไปถึงหน้าห้อง​ที่อยู่​บนชั้นสอง
ถีบทีเดียวประตู​ทั้งบานกระเด็นหวือ
ภาพ​ที่เห็น..ชายคนหนึ่ง​​กำลังปลดเสื้อผ้าของหญิงสาว​ที่ถูกกดนอนอยู่​​กับพื้น..เสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายของเธอ​กำลังถูกฉีกออก
เท้าเร็วกว่า​ความคิด..ยันเปรี้ยงเดียวชายคนนั้น​กระเด็นติดข้างฝา..
"ช่วยด้วย.." ​เป็นเสียงเด็กสาว​ที่ไร้เรี่ยวแรงครวญครางแผ่วเบา พยายามไคว่คว้าเสื้อผ้ามาแนบกาย..
ราวสัตว์ป่า​ที่ถูกขัดขวางในฤดูติดสัด ไอ้เจ้าคนนั้น​คำรามก้องแล้ว​กระโจนเข้าหา​เขาอย่างบ้าเลือด..
​เป็นจังหวะเดียว​กับ​ที่​เขาหัน​ไปเห็นใบหน้าของเด็กสาวท่ามกลาง​ความมืด​ได้เพียงแว่บ
"หวาน.."
​เขาจึงไม่เห็นมีดคมวาววับ​ที่แทงสวบเข้ามา​ที่หว่างเอว
​ความเจ็บแปล๊บทำให้​เขารู้สึกตัว..สวนด้วยหมัดลุ่น ๆ​ เข้าเต็ม​ไปหน้าของมัน
ใบหน้านั้น​สะบัดเริ่ด​ไป..ล้มลง​ทั้งยืน..
เลือด​เป็นลิ่ม ๆ​ ไหลออกมาจากบาดแผล..​เขาไม่สนใจ
"หวานใช่ไหม?" ​เขาทรุดลงนั่งข้าง ๆ​ เธอ..
แสงจันทร์จับใบหน้าของ​เขา..หญิงสาวตาเบิกโพลง..
"ละมุนหรือนั่น?.."
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

ชายหนุ่มทรุดตัวลง​กับพื้น..​ความเจ็บปวดทวีขึ้น​ทุกขณะ
หญิงสาวดิ้นรนขยับตัวขึ้น​นั่ง..ประคอง​เขา​เอาไว้
"เธอมาช่วยฉันเหรอ?..เธอ​เป็นอะไร​มากหรือเปล่า?.."
เหงื่อผลุดขึ้น​มาทั่วตัว..​ความเจ็บปวด​กำลัง​จะทำให้​เขาหน้ามืด..
แสงจันทร์พ้นปอยเมฆ..สาดเข้ามาทางหน้าต่าง​พร้อมลมโกรก..
ใบหน้าของสาวน้อยตรงหน้า..เด่นชัดขึ้น​​กับสายตา
เธอไม่ใช่หวาน!!
"สุรัตน์.."
"ฉันเอง.."
เธอ​คือสาวน้อยลูกของป้าลำดวน ลูกค้าเงินกู้ของแม่​เขานั่นเอง
​ทั้งสอง​เป็น​เพื่อนเล่นกันมา​แต่เด็ก ​แม้​ส่วนใหญ่​จะแกล้งหยอกเย้ากันด้วยฤทธิคะนองปากก็ตาม
ละมุนยิ้มแล้ว​..หัวใจ​ที่หายวาบ​ไป​เมื่อตอน​ที่คิดว่าเธอ​เป็นหวานบัดนี้กลับมาแล้ว​..
หากเรี่ยวแรง​ทั้งร่างค่อย ๆ​ เหือดหาย..​เขาโงนเงนจนใน​ที่สุดก็ล้มลง..
"ละมุน.." หญิงสาว​ได้​แต่อุทาน ฤทธิ์ของยา​ที่ถูกมอมเข้า​ไป​โดยไม่รู้สึกตัวทำให้เธอเคลื่อนไหวเชื่องช้า..สิ้นเรี่ยวแรงพอ ๆ​ กัน
ละมุนนอนหายใจแผ่ว..เลือดไหลนองอาบ​ไป​ทั้งแผ่นหลัง
"เธอหาย​ไปไหนมา..แม่ของเธอ​เป็นห่วงเธอมากรู้ไหม?"
​เขาทำ​ได้แค่พยักหน้า
"ทุกคนออกตามหาเธอ..ทุกคนรู้แล้ว​ว่าเธอไม่ใช่โจร ยายคน​ที่อยู่​ข้างบ้านลุงแหวง​เป็นพยานให้​กับเธอ.."
"จริงหรือ?"
"แกบอก​กับทุกคนว่าเธอมานั่งคุย​กับแก..เธอ​เอาตังค์มาให้แกเหมือนทุกครั้ง..พอมีเสียงปืนดังขึ้น​เธอก็วิ่งออก​ไปจนทำให้คนอื่นเข้าใจผิด.."
ใบหน้าของยายกำพร้าใจดีคนนั้น​ฉายชัดขึ้น​ในสมอง​ที่เริ่มหมุน
"ลุงแหวงไถ่โทษตัวเองด้วยการชักชวนให้ทุกคน​ที่แกรู้จักตามหาเธอ..​แต่ไม่มี​ใครเจอเธอเลย​.."
"แล้ว​..หวาน.."
​เขาถามหาคน​ที่หัวใจของ​เขาโหยหาทุกวินาที
"ฉันไม่รู้..รู้​แต่ว่าน้องชายของหวานเ​ที่ยวออกตามหาพี่มุนของ​เขา​ไปทุก​ที่..​ไปเฝ้ารอ​ที่บ้านของเธอแทบทุกวัน รอว่าพี่มุน​เมื่อไร​จะกลับมา.."
​เขายิ้ม..พยายามหายใจให้ลมเข้าปอดมาก​ที่สุด..
เลือดไหลน้อยลง..มันไหลอยู่​ข้างในมากกว่า..
สมองเริ่มตื้อ..ร่างกายชาด้าน..
"ฝากบอกแม่..ผมเสียใจ.."
"ฝากบอกหวาน..ละมุนรักเธอ.."
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๑๐ : รันนรา [C-10651 ], [58.9.160.36]
เมื่อวันที่ : 26 ม.ค. 2550, 21.02 น.

แดดยามสายของวันนั้น​ค่อนข้างสดใสกว่าทุกคราว..​ทั้ง​ที่​เป็นฤดูฝน​ที่มัก​จะมืดครึ้มในทุกเช้า​​และเย็น
หญิงสาวนั่งเหม่อมองท้องน้ำ..มัน​เป็น​ที่​ที่น้องชายของเธอมักพามาบ่อย ๆ​ นับตั้งแต่​เขาคนนั้น​หาย​ไป
วันนี้น้องชายตัวดีก็​จะขอตามมาด้วย..​แต่เธอไม่ยอม
"ไมอ้ะ?"
"ไม่มีทำไม..บอกว่าไม่ให้​ไปก็ไม่ให้​ไปสิ"
เธอตวาด
เด็กชายหน้าม่อย..
"​ที่อย่างนี้ล่ะก็มาห้าม..​ที่ตอนพี่มุนไม่อยู่​ล่ะก้อเห็นไอ้เวกคนนี้​เป็นอ่างล้างเท้า.."
หญิงสาวหัวเราะ​กับการเปรียบเทียบนั้น​
"ให้เรามานั่งมองคนร้องไห้ทุกวัน ๆ​ "
"แล้ว​มันเกี่ยวอะไร​​กับอ่างล้างเท้า?"
"มันก็ดีกว่ากระโถนบ้วนน้ำลายนั่นแหละ​.."
หญิงสาวคว้าจักรยาน..เด็กน้อยเรียกไว้..
"พี่อย่ายอมให้พี่มุนหนีเรา​ไปอีกนะฮะ.."
เธอหันมายิ้มให้..ยิ้มอย่างมั่นใจ
"พี่​จะไม่ยอมให้​เขา​ไปไหนอีกแล้ว​..พี่รับรอง"
เด็กน้อยยิ้มโชว์ฟันหลอ..โบกมือ
"​ไป​ได้แล้ว​..เดี๋ยวพี่มุน​จะรอนาน.."
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

ละมุนยังไม่มา..คง​จะเช้า​เกิน​ไป..​และ​ที่จริงเธอก็มาก่อนเวลา​ไปเล็กน้อย..
วันนี้ละมุน​จะพาเธอ​ไปดูหนัง..เธอขอพ่อแล้ว​..พ่ออนุญาตยังไม่พอ ยังแถมสตางค์มาให้อีกด้วย
"​เอาไว้ซื้อหมวกกันน๊อค เวลาซ้อนกัน​ไปไหน​จะ​ได้ไม่ถูกตำรวจจับ.."
พ่อไม่เคยพูดถึงรถเก๋งของนายศักดิ์นั่นอีกเลย​
...​...​...​...​...​...​.

กลิ่นน้ำจากแม่น้ำลอยกระทบจมูก มัน​เป็นกลิ่นหอมชื่นใจ​ที่​ใครไม่เคย​ได้กลิ่น​จะไม่รู้
เธอสูดเข้า​ไปเต็มปอด..มองเรือลำเล็กแจวผ่าน..มองริ้วกระ​เพื่อมบนผิวน้ำละลานตา
หลังการหายตัวของละมุน​ไปประมาณสองเดือน ผู้อำนวยการโรงเรียนก็เรียกตัวเธอเข้า​ไปพบ
เธอถึง​ได้รู้ว่าเธอเข้าโรงเรียนแห่งนั้น​​ได้​โดยไม่​ต้องเสียเงินใด ๆ​ ก็​เพราะละมุน
ท่านบอก​กับเธอ..ยืนยัน​กับเธอว่า​เขา​เป็นคนดี..
"บางครั้ง..ละมุน​เขายังดีกว่าพ่อของ​เขาซะอีก"
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​

เสียงมอเตอร์ไซค์คันเล็กจอดลงใกล้ ๆ​ หญิงสาวยังไม่หันกลับ​ไป
ชายหนุ่มร่างสูง..ผมสั้นสะอาดตา..หน้าตาคมคายแจ่มใส..ค่อย ๆ​ กระย่องเดินมาทรุดนั่งลงข้างกาย
"โอย..เจ็บ​จะตาย"
"อย่าบ่น"
"ใจร้าย..คนเจ็บจนเกือบตายยังไม่ให้บ่นอีก.."
"ยังมีคน​ที่ใจร้ายกว่านี้อีก.."
"​ใคร..เดี๋ยวละมุน​จะตาม​ไปเตะให้.."
หญิงสาว​ใช้นิ้วจิ้ม​ที่หน้าอก​เขา
"ละมุนเนี่ยนะใจร้าย.."
"ใช่สิ"
"ใจร้ายยังไง?"
"ไม่ยอมฟังในสิ่ง​ที่หวาน​จะบอกซะที"
"โถ..เรื่อง​นั้น​เอง.." ​เขารู้สึกคัน​ที่สีข้างขึ้น​มาอีกแล้ว​ เกายิก ๆ​
"อย่ามา​ใช้ลูกไม้เดิม..​จะฟังหรือไม่ฟัง.."
"ฟังคับ"
"ตั้งใจนะ"
"ตั้งใจคับ"
"ฟังแล้ว​จำไว้ให้ดีนะ.."
"ฟังแล้ว​จำให้ดีคับ"
"หวานรักพี่มุน..พี่มุนอย่าทิ้งหวาน​ไปอีกนะ.."
พี่มุนของเธออึ้ง..
"ไม่ว่าพี่มุน​จะ​ไปไหน..หวาน​จะตาม​ไปทุก ๆ​ ​ที่..เราเรียนให้จบ..ทำงานให้​ได้..ถึงเวลานั้น​เรา​จะ​แต่งงานกัน.."
อาการคันสีข้างกำเริบขึ้น​มาอีกแล้ว​..หญิงสาวคว้ามือ​ที่ทำท่า​จะเกานั้น​ไว้
"สัญญา​กับหวานสิคะ​.."เธอพูดเสียงอ่อนหวาน
​เขายังไม่เอ่ยปาก..ล่อกแล่ก​ไปมา..​ใช้มืออีกมือ​ที่ว่างเด็ดใบไม้..
"ทำไมไม่พูด?"
"ก็.."
​เขาเสหัวเราะ..หน้าแดง..
"คนมันก็เขิน​เป็นนี่นา...​"
...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..จบดีกว่างับ...​...​...​...​...​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๑๑ : รันนรา [C-10652 ], [58.9.160.36]
เมื่อวันที่ : 26 ม.ค. 2550, 21.05 น.

ขอบคุณทุกท่าน​ที่เข้ามาอ่าน​และทิ้งคอมเมนต์ไว้นะครับ​
​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​กับการให้ช่อดอกไม้..มัน​เป็นสิ่งล้ำค่าของคนเขียนครับ​
ขอบ​พระคุณอีกครั้ง

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๑๒ : Rotjana Geneva [C-10699 ], [83.181.103.149]
เมื่อวันที่ : 01 ก.พ. 2550, 00.13 น.

เข้ามาตามอ่านละมุนตอนจบแล้ว​จ้า...​.รันนราเขียน​ได้จับใจเหมือนเดิม...​สไตล์​ที่​เป็นตัวของตัวเองยังอยู่​ครบถ้วน...​ถ่ายทอดจิตใจของหนุ่มสาว​ได้นุ่มนวลมากค่ะ​...​.​ใช้วิธีเล่าแบบแหว่ง ๆ​ วิ่น ๆ​ ในบางช่วง ก็ช่วยให้คนอ่านคิดต่อตาม​เอาเองก็ดีเหมือนกันนะ...​.​แต่พี่รจยังสงสัยว่า คน​ที่คลุกคลี​กับอาชญากรรมอย่างละมุนนี่​จะพ้นมือกฎหมายง่าย ๆ​ หรือ...​.​แม้ว่า​จะไม่โดนข้อหาขโมยก็เถอะ?...​.แฮ่ม...​​แต่ว่า​เมื่อ​เป็นนิยายรักก็คงไม่​ต้องคิดอะไร​มากนิ
ยังไงก็ขอมอบ เหมือนเคยจ้า

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น