![]() |
![]() |
Anantra![]() |
...ฉันมายืนอยู่หน้าบ้านพี่หนึ่งด้วยใจกล้า ๆ กลัว ๆ มันคิดเยอะไปหมด กลัวไปหมด...
ฉันมายืนอยู่หน้าบ้านพี่หนึ่งด้วยใจกล้า ๆ กลัว ๆ มันคิดเยอะไปหมด กลัวไปหมด มองเห็นไฟในบ้านยังไม่ปิด รถพี่หนึ่งก็จอดอยู่ในโรงรถ ทำให้แน่ใจว่าเขาอยู่ที่บ้านแน่นอนฉันกดกริ่ง 1 ครั้ง รอสักพัก เหมือนไม่มีใครในบ้านได้ยิน
ฉันกดกริ่งอีกหนึ่งครั้ง ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีใครออกมาเปิด ฉันรู้สึกใจหายขึ้นมาทันที รู้สึกเหมือนโดนปฏิเสธทางอ้อมยังไงยังงั้น
ฉันตัดสินใจจะกดอีกทีเป็นครั้งสุดท้าย ถ้ายังไม่มีใครออกมาเปิด ฉันคงจะยอมปล่อยให้มันเป็นไป ป่วยการที่จะตามง้องอน ในเมื่อเขาไม่สนใจที่จะรับฟัง
ฉันกดกริ่งอีกครั้ง ฉันรอ รออยู่อย่างนั้น แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีคนในบ้านออกมาต้อนรับ
ฉันรู้สึกผิดหวัง ไม่คิดเลยว่าเขาจะใจจืดใจดำกับฉันได้ลงคอ ทั้งๆ ที่ฉันก็ส่งSMSไปบอกเขาก่อนแล้ว ถ้าเขามีกะใจ เขาก็น่าจะรู้ว่าฉันมา คงไม่ปล่อยให้ยืนรอแบบนี้เป็นแน่
ฉันเดินออกจากบริเวณนั้น ฉันกับเขาคงจะไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิมได้อีก ในเมื่อเขาไม่คิดจะให้อภัย ทั้ง ๆ ที่ฉันก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้วที่จะอธิบายเรื่องราว แต่เขาไม่คิดจะรับฟังอะไรทั้งสิ้น
ฉันรู้สึกเหมือนกับตัวเองไร้ค่า นึกถึงคำพูดของเขาอีกแล้ว ฉันรู้สึกเสียใจมาก เขาคงจะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงหลายใจ จับปลาสองมือ นี่ฉันดูแย่ขนาดนั้นเลยหรือยังไง
ฉันเดินไปเรื่อย ๆ เดินออกไปหน้าหมู่บ้านด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง ฉันไม่คิดเลยว่าเรื่องราวมันจะเป็นแบบนี้
พี่หนึ่งขับรถตามออกมาขณะที่ฉันกำลังจะขึ้นแท๊กซี่กลับบ้าน เขารีบจอดรถ ลงมาปิดประตูรถแท๊กซี่ พลางบอกคนขับรถแทนฉันว่าไม่ไป
รถแท๊กซี่ไปแล้ว แต่ฉันกับเขายังคงยืนอยู่ตรงนั้นไม่พูดไม่จา
พี่หนึ่งจูงมือฉันให้ขึ้นรถไปกับเขา
ยังไม่มีบทสนทนาระหว่างเรา พี่หนึ่งทำหน้านิ่วตลอดทาง
เขาขับรถเร็วมากจนฉันรู้สึกกลัว ถึงทางเข้าบ้านฉันแล้ว แต่พี่หนึ่งกลับขับเลยไป
"พี่หนึ่งจะพาอรไปไหนคะ" ฉันถาม
เขาไม่ตอบ แต่ยิ่งเร่งให้มันเร็วขึ้นไปอีก
ฉันรู้สึกกลัวมากขึ้นกว่าเดิม นี่เขาจะรีบขับไปไหน เขาไม่เคยขับเร็วแบบนี้มาก่อน
มีรถมอเตอร์ไซด์คันนึง วิ่งตัดหน้ารถของเขา พี่หนึ่งหักหลบพร้อมกับเหยียบเบรคเสียงดังลั่น ฉันร้องกรี๊ดออกมา ปิดตาแน่น อะไรจะเกิดมันก็คงต้องเกิด นี่ฉันจะต้องมาตายแบบนี้หรือ ฉันคิดถึงพ่อกับแม่ขึ้นมาทันที
รถจอดนิ่ง แต่ฉันไม่กล้าลืมตาขึ้นมา ฉันกลัว ฉันเริ่มร้องไห้ออกมา มือไม้สั่นไปหมด
แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สน เขาขับต่อไป โดยไม่สนใจเลยว่า คนนั่งข้าง ๆ อย่างฉันกำลังกลัวมากมายเพียงใด
รถจอดสนิทแล้ว ฉันเงยหน้าขึ้นมามองว่าเขาพาฉันมาที่ไหน
ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาพาฉันมาที่บ้านอ้น
"พี่หนึ่งพาอรมาที่นี่ทำไมคะ" ฉันถามเขาด้วยความไม่เข้าใจ
"ทำไม อรกลัวหรือยังไง กลัวมันจะรู้เหรอว่าอรอยู่กับพี่" พี่หนึ่งยอกย้อน
"อรแค่ไม่เข้าใจว่าพี่หนึ่งจะพาอรมาที่นี่ทำไม อ้นเขาไม่เกี่ยวนะคะ อรกับเขาเป็นแค่เพื่อนกัน อรบอกพี่หนึ่งตั้งหลายครั้งแล้ว ทำไมไม่ฟังกันบ้างเลย" ฉันพยายามบอกเขา
"ก็เพราะเหตุผลนี้ไงพี่ถึงต้องพาอรมาที่นี่ อรต้องบอกเลิกกับมันต่อหน้าพี่ พี่จะได้เชื่อในสิ่งที่อรพูด" เขาพูดง่าย ๆ
"พี่หนึ่ง ทำไมถึงทำแบบนี้คะ พี่หนึ่งไม่ให้เกียรติอรเลยสักนิด" ฉันพูดเสียงเครือ
"ก็ไม่ใช่เพราะว่าพี่ให้เกียรติอรหรือไง มันถึงได้เป็นแบบนี้ ที่ผ่านมาพี่ไม่เคยถาม ไม่เคยสงสัย พี่เชื่อใจอรมาโดยตลอด ถ้าพี่ไม่เห็นกับตาในวันนั้น พี่ก็คงยังเชื่ออรอยู่ โดยไม่รู้เลยว่าอรแอบคบอยู่กับมัน" พี่หนึ่งหน้าแดงด้วยความโมโห
"พี่หนึ่งคะ อรขอโทษ แต่วันนั้นมันไม่ใช่อย่างที่พี่หนึ่งคิดนะคะ อ้นเขามาบอกลาอร เพราะเขารู้จากจอยว่าอรจะไปต่างประเทศกับพี่หนึ่ง มันก็แค่นั้นเอง"
ฉันพยายามอธิบาย แต่ดูเหมือนพี่หนึ่งจะไม่ยอมรับฟัง เขานั่งเฉย เหมือนกับเป็นการยืนยันคำสั่งของเขา ฉันพยายามขอร้อง ฉันร้องไห้วิงวอน แต่เขากลับท้าฉันว่าถ้าฉันบริสุทธิ์ใจจริง ๆ ทำไมจะต้องกลัว
พี่หนึ่งไม่ไว้ใจฉันถึงเพียงนี้เชียวหรือ ในความเป็นจริง ฉันไม่ได้กลัว แต่ไม่อยากทำ ฉันไม่อยากทำให้อ้นต้องเสียใจอีก เขาเจ็บกับฉันมามากเกินพอแล้ว ฉันไม่อยากจะไปตอกย้ำซ้ำเติมเขา แต่มันก็เหมือนกับเป็นการพิสูจน์ ไม่ใช่พิสูจน์เพื่อให้พี่หนึ่งสบายใจ แต่เป็นการพิสูจน์ตัวของฉันเองว่าฉันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่หนึ่งพูด ฉันไม่ใช่ผู้หญิงหลายใจ ฉันไม่ได้คิดจะจับปลาสองมืออย่างที่เขาคิด
ฉันเดินลงไปจากรถทันที ไปหยุดยืนอยู่หน้าบ้านของอ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ใจนึงคิดจะทำ แต่อีกใจไม่อยากทำ สับสนอยู่อย่างนั้น
ดูเหมือนคนในบ้านจะสังเกตุเห็นเอง และคนที่เดินออกมาก็คืออ้นนั่นเอง
"อร นั่นอรใช่ไหม" เขาถามพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ ๆ
ฉันไม่ตอบ รู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น นี่ฉันจะทำจริง ๆ หรือ ฉันยังคงกล้า ๆ กลัว ๆ
อ้นเดินมาเปิดประตู เขากำลังจะเดินออกมาหาฉัน แต่ก็ต้องชะงักเพราะพี่หนึ่งรีบแสดงตัวลงจากรถ
"อร มีอะไรหรือเปล่า ทำไมมาดึกดื่นป่านนี้" อ้นถามฉันอีกครั้ง
ฉันเริ่มร้องไห้...
"อ้นคะ อรจะมาบอกอ้นว่า ต่อไปนี้ไม่ต้องมาหาอรอีก ไม่ต้องมายุ่งกับอรอีก หวังว่าอ้นคงจะเข้าใจนะคะ" ฉันบอกเขาเสียงสั่น พูดไปพลางสะอื้นไปพลาง
เขาเงียบไปพักนึง
"ถ้าอรจะมาเพื่อเรื่องแค่นี้ล่ะก็" เขาหยุดไป
ฉันเงยหน้ามองเขา ฉันเห็นแววตาผิดหวังของเขา นี่ฉันกำลังทำอะไร ฉันคงจะบ้าไปแล้วแน่ ๆ
"อรไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องแค่นี้เอง อ้นทำให้อรได้อยู่แล้ว อรไม่ต้องกังวลนะ กลับบ้านดี ๆ ล่ะ" เขาพูดเสียงเรียบพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ
อ้นเดินกลับเข้าไปในบ้าน โดยไม่หันกลับมามอง น้ำตาของฉันไหลออกมาไม่หยุด ฉันร้องไห้โฮ ทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น นี่ฉันทำอะไรลงไป ฉันไม่น่าเลย ฉันกำลังจะสูญเสียเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันไปแล้ว ทำไมฉันถึงทำแบบนี้ได้ลงคอ
ระหว่างทางกลับบ้านฉันนั่งเงียบไปตลอดทาง แม้ว่าพี่หนึ่งจะชวนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ แต่ฉันไม่มีใจจะคุยกับเขาทั้งนั้น เขาขอโทษฉันรับปากกับฉันว่าต่อไปนี้เขาจะไม่ทำแบบนี้อีก เขาจะทำตัวให้ดีกว่านี้ จะไม่ทำให้ฉันเสียใจ จะรักและเชื่อใจ ฯลฯ แต่ฉันก็ยังคงเงียบงัน



หลังจากวันนั้นพี่หนึ่งพยายามทำดีกับฉันมากขึ้น เขากลับมาเป็นพี่หนึ่งคนเดิมแล้ว แต่ตัวของฉันเองที่มันไม่เหมือนเดิม ฉันเฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงแต่วันนั้น ภาพแววตาปวดร้าวของอ้นยังคงวนเวียนอยู่ในใจของฉันตลอดเวลา ฉันรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้น ไม่นึกเลยว่าฉันจะเห็นแก่ตัวใช้เขาเป็นเครื่องมือเพื่อให้ตัวเองสบายใจโดยไม่คำนึงถึงใจของเขา
วันนี้พี่หนึ่งมารับฉันแต่เช้า ทั้ง ๆ ที่เป็นวันหยุด เขารีบมาบอกข่าวดีกับฉันว่าทางมหาวิทยาลัยตอบรับเขาแล้วให้ฉันเตรียมตัว เราจะเดินทางไปในอีก 3 เดือนข้างหน้า
"อร ดีใจไหมครับ เรากำลังจะไปกันแล้วนะ" พี่หนึ่งถามขณะที่ฉันกำลังคิดเรื่องของอ้น
"อร ได้ยินที่พี่พูดไหมครับ" พี่หนึ่งทัก
"พี่หนึ่งว่าอะไรนะคะ" ฉันถาม
"เดี๋ยวนี้อรใจลอยบ่อยนะ มีอะไรหรือเปล่า"
"ไม่มีอะไรค่ะ อรแค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย" ฉันรีบแก้ตัว
พี่หนึ่งมองหน้าฉัน เหมือนอยากจะถามอะไร แต่ก็เปลี่ยนใจ
พี่หนึ่งพาฉันไปทานข้าวที่ร้านอาหารบรรยากาศดีแห่งนึงย่านใจกลางเมือง เราทานกันไปคุยกันไป
"อร แต่งงานกับพี่นะครับ" เขาพูดขึ้นมาในขณะที่ฉันกำลังจะตักอาหารเข้าปาก
ฉันเกือบจะสำลัก ตกใจ แต่ไม่กล้าแสดงอาการออกมามากนัก
"ไหนพี่หนึ่งบอกว่ากลับมาแล้วค่อยแต่งไงคะ" ฉันถามเขา
"ใช่พี่เคยคิดแบบนั้น แต่พี่ไม่อยากเอาเปรียบอร ไม่อยากให้ใครมาว่าอรได้ว่าอยู่กันก่อนแต่ง ถึงแม้ว่าเราสองคนจะบริสุทธิ์ใจก็ตาม พี่ปรึกษาเรื่องนี้กับคุณแม่แล้ว ท่านก็เห็นด้วยว่าเราควรจะแต่งงานกันซะเลย จะได้ไม่มีใครมาครหาได้" พี่หนึ่งอธิบาย
ฉันเงียบไม่พูดอะไรเลยสักคำ
"อรไม่อยากแต่งงานกับพี่หรือครับ" เขาพูดหน้าเศร้า
"ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ คือว่า อร.." ฉันอ้ำอึ้ง
"หรือว่าอรยังไม่ลืมเรื่องเมื่อวันนั้น พี่ขอโทษนะครับ พี่สัญญาว่าต่อไปนี้พี่จะไม่ทำให้อรต้องเสียใจอีก อรจะให้พี่ทำยังไงอรถึงจะเชื่อ บอกมาได้เลยพี่จะทำตามที่อรต้องการทุกอย่าง"
"ไม่ใช่แบบนั้นนะคะพี่หนึ่ง" ฉันรีบบอก
"ถ้าไม่ใช่ แล้วอะไรล่ะครับ" เขาทำหน้าเศร้า
ถึงตอนนี้ฉันกลับตอบไม่ได้ ตัวฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้สึกแต่เพียงว่ามันยังไม่อยากแต่ง ทำไมก็ไม่รู้ อันที่จริงอายุของฉันก็ไม่น้อยแล้ว จะย่างเข้าเลข3 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าไม่รีบแต่งตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าควรจะไปแต่งตอนไหน ทำไมฉันถึงยังมัวแต่เล่นตัวอยู่อีก
"อร ก็แค่กลัวการเปลี่ยนแปลงน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก" ฉันปลอบใจเขา
"งั้นอรก็เต็มใจที่จะแต่งงานกับพี่ ไชโย พี่จะรีบบอกข่าวดีนี้กับคุณแม่ พี่ดีใจจริง ๆ เลยอร" เขาพูดน้ำเสียงดีใจ
พี่หนึ่งดูมีความสุขขึ้นมาทันที ฉันก็พลอยรู้สึกดีไปด้วย แต่ทำไมในใจของฉันมันถึงได้ไม่สุขตามหน้าที่ยิ้มแย้มก็ไม่รู้ได้
เมื่อวันที่ : 17 ส.ค. 2549, 19.54 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...