![]() |
![]() |
Anantra![]() |
...ฉันมีอีกคนนึงที่เขาก็รักฉัน อยู่ข้าง ๆ ฉันตอนที่ฉันทุกข์ใจที่สุด ทำให้ฉันลืมความเศร้าไปได้ ฉันควรจะต้องตอบแทนเขาบ้าง แม้ฉันจะยังไม่รู้ว่ามันคือความรักหรือเปล่าก็ตามที...
ฉันดีใจมากที่น้อตเชื่อฉัน เขารับปากกับฉันว่าเขาจะคืนดีกับจอย และจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีก จอยฟื้นขึ้นมาแล้ว น้อตยังคงยืนก้มหน้าอยู่ข้างเตียงของเธอ
"จอย น้อตขอโทษ" เขาพูดเสียงเครือ
จอยดึงมือน้อตมาแนบไว้กับแก้มของเธอ
น้อตโผเข้าไปกอดจอย ร้องไห้...
"น้อตขอโทษ น้อตมันไม่ดีเอง น้อตขอโทษ" เขาพร่ำบอกซ้ำ ๆ
เธอยิ้มให้เขา ลูบหัวเขาเบาๆ น้อตยังคงร้องไห้อยู่อย่างนั้น
ฉันรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาคลอ รู้สึกดีใจกับทั้งคู่ด้วย ที่ในที่สุดเรื่องราวมันก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
จอยเข้มแข็งขึ้นมาก และเธอก็รักน้อตมากด้วยเช่นกัน เธอถึงได้ให้อภัยเขาในทันที
พี่หนึ่งดึงมือฉันเบา ๆ ฉันเข้าใจในทันทีว่าเวลาแบบนี้ เราควรจะปล่อยให้เขาทั้งสองคนปรับความเข้าใจกัน หมดหน้าที่ของฉันแล้ว ที่เหลือก็ต้องขึ้นอยู่กับใจของทั้งสองคนเองว่าจะประคองรักครั้งนี้ให้มั่นคง แข็งแรงเพียงใด
ฉันกับพี่หนึ่ง ค่อย ๆ ออกมาจากห้องนั้นโดยไม่ได้ร่ำลา ไม่อยากจะรบกวนเวลาของพวกเขา อยากจะให้เขาปรับความเข้าใจกันอย่างเต็มที่
ฉันเล่าเรื่องราวให้พี่หนึ่งฟัง ขณะที่เรากำลังขับรถกลับบ้าน
"ทำไมอร ไม่โทรหาพี่ล่ะครับ ไปรบกวนอ้นเขาทำไม" พี่หนึ่งพูด น้ำเสียงน้อยใจ
"ตอนนั้นอรคิดอะไรไม่ออกหรอกค่ะ โชคดีนะคะที่อ้นเขาโทรมาพอดี ไม่งั้นอรแย่แน่ ๆ" ฉันบอก
พี่หนึ่งเงียบไป ฉันก็เลยพลอยเงียบไปด้วย
"อร หายโกรธพี่รึยังครับ" พี่หนึ่งถามขึ้นมา
"ทำไม อรจะต้องโกรธด้วยล่ะคะ"
"พูดแบบนี้ แสดงว่ายังโกรธอยู่" เขายิ้ม
ฉันเงียบไม่พูดอะไร ฉันคงโกรธเขาไม่ลงหรอก เพียงแต่ฉันยังไม่ลืมเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวัน ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องพาฉันไปด้วย ในเมื่อมันไม่เกี่ยวกับฉันเลยสักนิด
"แจนกับพี่ เราเคยคบกันเมื่อตอนที่เรียนอยู่ที่อังกฤษ แต่มีเหตุการณ์ทำให้พี่ต้องกลับมาก่อน เพราะตอนนั้นคุณแม่ป่วยมาก และพี่ก็เพิ่งจะมารู้ทีหลังว่า แจนเป็นลูกติดของภรรยาใหม่ของคุณพ่อ ซึ่งพี่ไม่เคยรู้มาก่อน" เขาเงียบไปพักนึง "พี่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคุณพ่อถึงยังอยากให้เราแต่งงานกันอีก" เขาพูด
ฉันยังคงเงียบ แต่ก็ตั้งใจฟัง ไม่น่าล่ะคุณแจนถึงได้ทำท่าทางเหมือนรู้จักพี่หนึ่งเป็นอย่างดี บางทีคุณแจนอาจจะยังไม่ลืมพี่หนึ่งก็ได้ หรือไม่คุณพ่อก็อาจจะอยากให้ทั้งสองคนแต่งงานกันจะได้ช่วยกันดูแลบริษัทต่อไปก็ได้
"แล้วเรื่องมันเป็นยังไงต่อคะ ในเมื่อรักกัน เรื่องแค่นี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร" ฉันพูด
"พี่ยอมรับไม่ได้น่ะสิ มันจะเป็นไปได้ยังไง อรก็รู้ว่าพี่เกลียดผู้หญิงคนนั้น(แม่เลี้ยง)แค่ไหน พี่เลยตัดสินใจไม่กลับไปที่นั่นอีก และตัดการติดต่อทุกอย่างจากเขา" พี่หนึ่งเล่า
"บางทีคุณแจนอาจจะยังรักพี่หนึ่งอยู่" ฉันพูดเสียงเบา
"สำหรับเขาพี่ไม่รู้ แต่สำหรับพี่ตอนนี้ เขาเป็นเพียงน้องสาวของพี่คนหนึ่งเท่านั้น" พี่หนึ่งสบตาฉัน เขาพูดน้ำเสียงหนักแน่น
ฉันก้มหน้าในทันที ไม่กล้าสบตาเขา มันเป็นเพราะอะไร ฉันก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน
ถึงบ้านแล้ว พี่หนึ่งจอดรถหน้าบ้าน ระหว่างที่ฉันกำลังจะลงจากรถ พี่หนึ่งดึงมือฉันไว้...
"ไปอังกฤษกับพี่นะ อร" เขาพูดขึ้นมา
ฉันรู้สึกตกใจ มันกระทันหันเกินไป ฉันยังไม่ทันเตรียมใจ
"พี่จะกลับไปเรียนต่อให้จบ แต่พี่ห่วงอร พี่กลัวว่าจะมีใครมาแย่งอรไปจากพี่" เขาพูดหน้าเศร้า "อรก็รู้ว่าพี่คิดยังไงกับอร พี่ไม่อยากเสียอรไป"
ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยตอนนี้ และฉันก็ไม่รู้ว่าจะตอบเขาว่ายังไง มันลังเล สับสน
"มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยนะคะ คืออรขอเวลาพี่หนึ่งได้ไหมคะ อรยังตอบไม่ได้ตอนนี้" ฉันบอกเขา
"พี่เข้าใจ" เขาพูด น้ำเสียงผิดหวัง
ฉันรู้สึกสับสนในใจ ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะตอบตกลงกับเขาดีไหม ไม่ใช่ว่าฉันรังเกียจเขา ตรงกันข้ามฉันรู้สึกดีกับเขามาก แต่ฉันยังไม่แน่ใจว่ามันคือความรักหรือเปล่า แต่ถ้าฉันยังมัวแต่ลังเล ฉันอาจจะเสียใจในภายหลังก็ได้ ฉันคิดว่าฉันควรจะต้องตัดสินใจเสียที
ฉันคิดไม่ตก นอนไม่หลับเลยตลอดคืน นึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาในวันนี้
อ้นดีกับฉันมาก วันนี้เขาได้ทำอะไรต่าง ๆ มากมาย เขาช่วยฉันได้มากทีเดียว ถ้าไม่มีเขาในวันนี้ก็ไม่รู้ว่าจอยจะเป็นอย่างไรบ้าง
ภาพความหลังระหว่างฉันกับเขาค่อย ๆ ย้อนกลับมา ทำให้คิดถึงเรื่องราวความรักของสองเราเมื่อวันวาน นึกถึงทีไรก็ยังเป็นสุขใจ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่ฝัน แต่ฉันก็ไม่เคยเสียใจที่เราเคยรักกัน ฉันนึกขอบคุณเขาในใจที่เขายังคงดีกับฉันเสมอมา และที่สำคัญเขายังคงรักฉัน ฉันรู้สึกซาบซึ้งในความรักที่เขามีต่อฉันมาก แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อมันจบลงไปแล้ว
ฉันมีอีกคนนึงที่เขาก็รักฉัน อยู่ข้าง ๆ ฉันตอนที่ฉันทุกข์ใจที่สุด ทำให้ฉันลืมความเศร้าไปได้ ฉันควรจะต้องตอบแทนเขาบ้าง แม้ฉันจะยังไม่รู้ว่ามันคือความรักหรือเปล่าก็ตามที



หลังจากเลิกงาน พี่หนึ่งพาฉันไปรับประทานอาหารเย็นกับคุณแม่ของเขาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
"เรื่องเมื่อวันนั้นน่ะ แม่ต้องขอโทษแทนคุณพ่อด้วยนะจ๊ะ เขาก็เป็นคนแบบนี้แหล่ะ อยากจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้" คุณแม่พูด
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแม่ เรื่องนั้นอรไม่ถือหรอกค่ะ" ฉันรีบออกตัว
"ไม่ถือหรอกนะครับคุณแม่ แต่งอนผมไปหลายวันเลย" พี่หนึ่งแซว
ฉันเขิน ทำหน้าไม่ถูก คุณแม่กับพี่หนึ่งหัวเราะออกมาพร้อมกัน ไม่เห็นจะน่าขำตรงไหน ลองมาโดนกับตัวเองบ้างสิ จะได้รู้สึก
"ว่าแต่หนึ่งคุยกับคุณพ่อเรื่องนี้รึยังล่ะ หืม..." คุณแม่ถาม
"ยังเลยครับคุณแม่" พี่หนึ่งก้มหน้า
"รีบหน่อยนะ เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์ เวลามันใกล้เข้ามาทุกที เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของหนึ่งกับคุณพ่อ แม่คงช่วยอะไรมากไม่ได้" คุณแม่ออกตัว
"ครับ" พี่หนึ่งรับปาก
ระหว่างทางกลับบ้าน เราสองคนนั่งเงียบกันไปตลอดทาง ระยะนี้เราสองคนดูไม่ค่อยสนิทสนมกันเหมือนเดิมตั้งแต่เรื่องที่โรงแรมคราวนั้น ต่างจากเมื่อก่อนที่เวลามีอะไร เรามักจะคุย ปรับความเข้าใจกันในทันที อาจจะเป็นเพราะมีสิ่งต่าง ๆ มากมายเข้ามากวนใจเราสองคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณแจน หรือว่าอ้น
วันนี้ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะให้คำตอบกับพี่หนึ่ง ไหน ๆ เรื่องราวมันก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว ฉันควรจะต้องเลือกเสียที
"พี่หนึ่งคะ อรไปคิดดูแล้ว อรจะไปอังกฤษกับพี่หนึ่งค่ะ" ฉันบอกเขา
"จริงเหรออร อรพูดจริงรึเปล่า" เขาพูดน้ำเสียงดีใจ
ฉันพยักหน้าอมยิ้มให้กับเขา
"พี่ดีใจจริง ๆ นะอร" เขาเผลอตัวจะกอดฉัน
"ระวังค่ะ พี่หนึ่ง กำลังขับรถอยู่นะ" ฉันรีบเตือน
"จริงด้วยสิ พี่ลืมตัวไปหน่อย" เขาหัวเราะ
"แต่ว่าอรยังไม่ได้บอกคุณพ่อคุณแม่เลยนะคะ ไม่รู้ว่าท่านจะว่ายังไงบ้าง" ฉันบอกเขา
"อรจะให้พี่ไปคุยให้ไหม พี่จะรับปากกับท่านด้วยตัวพี่เอง ท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง" เขาเสนอตัว
"ไม่เป็นไรค่ะพี่หนึ่ง อรจะบอกพวกท่านเอง" ฉันตั้งใจว่าอย่างนั้น
ตอนนี้พี่หนึ่งดูมีความสุขมาก ฉันเองก็พลอยรู้สึกดีไปด้วย หลายวันมานี้ เราสองคนไม่เข้าใจกันเหมือนก่อน แต่ต่อจากนี้ไป ฉันจะเลิกลังเล ฉันจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพื่อเราสองคน ฉันไม่อยากจะเสียใจอีกแล้ว บางทีการที่เราสองคนลองไปใช้ชีวิตด้วยกันสักพักมันก็อาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไม่ต้องมีใครมารบกวน ไม่ต้องคิดถึงใคร มีแต่เราสองคน
ฉันเองก็ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ดูแลตัวเองได้ ส่วนพี่หนึ่งเองเขาก็เป็นผู้ใหญ่ คงจะไม่ทำอะไรที่จะเป็นการเสื่อมเสีย
"พี่รักอรนะ และพี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำให้อรต้องเสียใจ" พี่หนึ่งหอมแก้มฉันเป็นครั้งแรก
พี่หนึ่งเป็นสุภาพบุรุษมาก ไม่เคยล่วงเกินฉันเลยแม้แต่น้อย แม้แต่จับมือก็นับครั้งได้ และแค่ในบางสถานการณ์เท่านั้น
นี่คงจะเป็นสัญญาณว่าต่อจากนี้ไป ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับพี่หนึ่งกำลังจะก้าวไปอีกขั้นแล้ว ไม่ใช่แค่เพื่อนอีกต่อไป
เมื่อวันที่ : 14 ก.ค. 2549, 09.24 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...