![]() |
![]() |
รันนรา![]() |
...นาทเอง..ก็ใช่ว่าจะมีอารมณ์ทำการบ้าน หลังวางหูโทรศัพท์จากเนเน้..เขาก็นั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียว...
นาทเอง..ก็ใช่ว่าจะมีอารมณ์ทำการบ้านหลังวางหูโทรศัพท์จากเนเน้..เขาก็นั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียว
หนุ่มนั้นเข้าไปในห้องของตัวเองตั้งแต่เลิกซ้อมดนตรีแล้ว เก็บตัวเงียบไม่ยอมออกมาแม้เขาจะเรียกให้ทานข้าว
กับน้องชายคนนี้..เขารู้จิตใจของหมอนั่นดี
ในสายตาของคนอื่น หนุ่มอาจจะเป็นคนที่คล้ายกับไม่ยี่หระกับอะไร วัน ๆ ก็สนุกสนานไปตามเรื่อง
แต่ส่วนลึกของหนุ่มแล้ว..คงจะมีเขานี่แหละ..ที่มองเห็นความในใจของหนุ่มได้อย่างปรุโปร่ง
การกระตือรือร้นที่จะมาเรียนที่นี่..บางคนอาจจะเห็นว่าหนุ่มทำเพราะเพื่อน ๆ แต่ความเป็นจริงแล้ว..หนุ่มทำเพราะเนเน้มากกว่า
พ่อแม่ของเนเน้แยกทางกัน..แม่ของเนเน้ทิ้งเธอไว้กับพ่อ
พ่อที่มีภรรยาใหม่ ภรรยาที่มีลูกติดมาด้วยคนหนึ่ง
ลูกที่ติดมาด้วยคนนั้น..เป็นผู้ชาย อายุมากกว่าเนเน้สองสามปี
นั่นเป็นสาเหตุที่เนเน้ไม่อยากจะอยู่บ้านเดียวกับพ่อของเธอ เธอขยะแขยงสายตาของคนที่เธอต้องเรียกว่า "พี่" คนนั้นยามที่มองเธอ
หนุ่มลงทุนอ้อนวอนให้เขาช่วยพูดกับคุณพ่อคุณแม่ ว่าพวกเขาอยากจะเรียนที่นี่..ที่ ๆ ญาติข้างแม่ของเนเน้มีหอพักอยู่ใกล้กับโรงเรียน
เขาชักจูงให้นิ่มช่วยคุยกับเนเน้ ให้เห็นถึงความสนุกสนานที่พวกเขาจะได้เรียนอยู่ที่เดียวกันอย่างพร้อมหน้า
ทั้งยอมให้สัญญากับคุณพ่อกับคุณแม่ว่า เขาจะเลิกเล่นเกมคอมพิวเตอร์อย่างเด็ดขาด เพื่อแลกกับการได้มาเรียนที่นี่..และการได้เช่าบ้านอยู่ที่นี่
แม้ว่าเกมจะเป็นชีวิตจิตใจของเขามาก่อนก็ตาม
หนุ่มไม่เคยเอ่ยปากกับเขา..ว่าหนุ่มทำไปเพื่ออะไร
แต่การใกล้ชิดกันมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาย่อมมองออก
การที่ชอบแกล้งเย้าหยอกเนเน้อยู่เป็นนิจ..เป็นการปกปิดความในใจของเขาที่มีต่อเนเน้นั่นเอง..
เขาคงทำไม่ผิด..ที่ในที่สุดแล้ว..เขาก็เลือกที่จะบอกกับเนเน้ไปถึงความในใจของหนุ่มที่มีต่อเธอ
ทั้งที่หนุ่มเอง..ได้ยอมถอยหลังให้กับเขาแล้ว..มันน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่เขาควรจะฉวยไว้
หากหนุ่มไม่เป็นน้องชาย..เติบโตมาด้วยกัน ผูกพันกันอย่างลึกซึ้งเกินกว่าจะอธิบายได้ (แม้ตลอดเวลาจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อย ๆ แต่ก็เป็นเรื่องปกติของพี่กับน้อง)
และหากไม่เป็นเพราะหนุ่มกำลังเข้าใจผิด..เข้าใจผิดว่าเมื่อคืนนี้เขากับเนเน้คงได้คุยอะไรกัน..แล้วมาแสดงอาการสนิทสนมกันอยู่ภายในห้องสองต่อสอง..เขาก็คงจะฉวยโอกาสนี้ไว้
แม้ว่าเขาจะรักเนเน้มานานแล้วเหมือนกัน..และแน่ใจว่าเขาก็รักเธอไม่น้อยกว่าใคร..เขาก็จำต้องถอยห่างออกมา
ลูกผู้ชายอย่างเขา..ควรจะปล่อยให้ผู้หญิงเลือกเองดีกว่า..ที่จะกระโดดเข้าใส่โอกาสที่เปิดให้นี้อย่างไม่คิดอะไร
เขาจะคืนโอกาสนี้ให้กับน้องชาย..ปล่อยให้หมอนั่นได้พยายามทำอย่างเต็มที่เสียก่อน..ถ้าไม่สำเร็จเมื่อไรล่ะก็..เวลานั้นก็คงจะเป็นทีของเขาบ้าง..
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาบอกกับเนเน้ไปว่า หนุ่มกำลังชอบเธอ
+++
นาทยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องของน้องชาย..ใช้เวลาตัดสินใจเล็กน้อยแล้วเคาะประตู
เขาควรต้องบอกกับเรื่องนี้กับหนุ่ม..ให้หนุ่มรู้ตัวว่า บัดนี้ เนเน้รู้แล้วว่าหนุ่มชอบเธอ
เขาควรจะต้องอธิบายเรื่องเมื่อคืนให้ชัดเจนออกไป..ว่าเขากับเนเน้ไม่ได้คุยอะไรกัน และไม่ได้มีอะไรกัน..หากเขาเข้าใจผิดไปถึงขนาดนั้น..
และเขาจะบอกกับน้องชายว่า..วันใดที่หนุ่มรู้ตัวว่า ต่อให้พยายามสักเท่าไรก็ไม่สามารถพิชิตหัวใจของเนเน้ได้ เมื่อนั้นเขาจะขอคบกับเนเน้ และพยายามจะจีบเธอให้สำเร็จให้ได้
ประตูเปิดออกมา..หนุ่มยืนอยู่ตรงนั้น..ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
ราวกับเพิ่งจะหยุดร้องไห้มาเมื่อกี้นี้เอง..
++++
เช้าวันจันทร์ มักจะเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งที่สุดสำหรับเนเน้
หัวยุ่ง หน้ายุ่ง ที่นอนหมอนมุ้งพากันยุ่งไปหมด
ในทันทีที่เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น..เธอก็เอื้อมมือไปตบให้มันหยุดส่งเสียงแล้วก็นอนต่อ
ขณะนอนต่อ..เธอจะไม่ยอมหลับ..กระดิกปลายเท้าเล็กน้อยไว้ตลอดเพื่อเรียกความรู้สึกของตัวเองไม่ให้หลับลงไปได้
ในสมองก็ครุ่นคิดว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง เรียนอะไรบ้าง จะเจอเหตุการณ์อะไรบ้าง
และเมื่อเธอตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง..เธอก็ไม่มีเวลาจะคิดอะไรต่ออีกเลย เพราะต้องรีบอาบน้ำ แต่งตัว แล้วไปโรงเรียนให้ทันเวลา
การมาสายจะต้องถูกบังคับให้ยืนโชว์หน้าเสาธง..หากเป็นเมื่อก่อนเธอไม่เคยจะรู้สึกอะไร แต่ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้..เวลาที่เธอรู้ตัวเองว่าเธอเป็นสาวแล้ว..เธอถึงกับทนไม่ได้ที่จะต้องไปยืนตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครอย่างนั้น
วันนี้เลยยุ่งเป็นพิเศษกว่าทุกวัน..
ขณะก้าวเท้าออกจากหอพัก..เธอก็คิดว่าเธอพร้อมแล้วว่าจะเผชิญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างไร
เธอตัดสินใจแล้วว่า..เธอจะต้องทำอย่างไรเมื่อต้องเจอหน้าเขาคนนั้น
คนที่เธอเพิ่งรู้ว่าเขาชอบเธอ..ทั้งที่คบกันเป็นเพื่อนมาตั้งแปดเก้าปี
เธอจะคุยกับเขา..ทำเป็นไม่รู้ว่าเขาชอบเธอ..แล้วจะบอกกับเขาว่าเนยกำลังชอบเขา..
เขาควรจะเปลี่ยนใจจากเธอ..ไปให้ความสำคัญกับเนย ผู้หญิงที่สวยกว่าน่ารักกว่าเรียบร้อยกว่าเหมาะกับเขามากกว่าและอะไรกว่า ๆ อีกเยอะแยะหากเทียบกับเธอ
เขาไม่ควรจะทำร้ายจิตใจเนย เนยเป็นคนดีที่ไม่ควรจะต้องมาร้องไห้ในเรื่องพวกนี้
ยิ่งไม่ควรมาร้องไห้เพราะเธอ..เนยจะต้องไม่รู้เด็ดขาดว่าหนุ่มชอบเธอ
เนยอ่อนแอเกินไป..
สำหรับนิ่ม..ถึงเวลาที่เธอจะต้องคุยกับหล่อนอย่างจริงจัง
ความรักของผู้หญิงกับผู้หญิง..ถึงอย่างไรก็มีจุดลงเอยด้วยน้ำตาอยู่วันยังค่ำ
เธอจะแนะนำให้นิ่มรีบตัดใจ..แล้วเธอจะแอบไปกระซิบบอกกับเนยว่าให้ช่วยเป็นกำลังใจให้นิ่ม..
เธอยังจะต้องกระซิบบอกหนุ่มด้วยว่าหากจะคบกับเนยแล้วในระยะแรก ๆ อย่าให้นิ่มรู้ จนกว่าหล่อนจะตัดใจจากเนยได้
โอย..ทำไมเธอถึงได้มีอะไรต้องทำมากมายนักนะ?
บ้าเอ๊ย!!
เนเน้ตะโกนคำนี้ออกมาอย่างกลัดกลุ้มจนเสียงดังลั่นซอย..
++++
พอย่างก้าวเข้าประตูโรงเรียน..สิ่งที่รอเธออยู่กลับเป็นสิ่งที่เธอคิดไม่ถึง
พี่อุเทน..หรือไอ้ดักแด้ของหนุ่มคนนั้นนั่นเอง..
ตอนแรกเนเน้คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่เขาอาจจะมายืนคอยใครอยู่ตรงนั้น..แต่เมื่อเห็นเขาเดินยิ้มร่าเข้ามา..เธอก็ใจหายวาบ
"เน้..พี่มารอตั้งนานแล้ว..ขอพี่คุยอะไรหน่อยได้ไหม?"
"คะ..?"เธออุทานเป็นคำถามออกมา
"เรื่องเมื่อวันนั้น.."
หญิงสาวขมวดคิ้ว..นี่จะมาตอกย้ำกันอีกหรืออย่างไร?
"คงไม่ต้องคุยอะไรกันอีกแล้วมังคะ..เพราะเน้เข้าใจดี..ว่าคนอย่างพี่เทนคงไม่สนใจเด็กกะโปโลอย่างเน้หรอก.."
พูดจบเธอก็ก้าวเท้าออกเดิน..หัวใจที่เพิ่งหายเจ็บปวดจากเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์มันรู้สึกแปล๊บ ๆ ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
จริง ๆ แล้วเธอเกือบจะลืมเขาไปแล้วซะด้วยซ้ำ..หลังจากเหตุการณ์ของสองวันที่ผ่านมาเกิดขึ้นมากมายมาให้เธอขบคิด แต่เมื่อมาเจอกันเขาเข้าอีกครั้ง..ความรู้สึกเดิม ๆ ก็กลับเข้ามาอีก
"เดี๋ยวสิครับ..คุยกับพี่ก่อน..นะ.." อุเทนเดินตาม พยายามอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงที่เนเน้ไม่เคยได้ยินมาก่อน
"พี่เทนต้องการอะไรกันแน่คะ?" เธอหยุดเดิน ยกหนังสือขึ้นกอดออก..ดวงตาวาวมองหน้าเขานิ่ง
"พี่อยากจะขอโทษเน้..เรื่องเมื่อวานนี้"
เธอเอียงคอ..นี่ถ้าไม่เกรงใจคงจะใช้นิ้วแคะหูให้แน่ใจว่าเธอหูไม่ฝาดแล้ว
"เมื่อวานนี้พี่พูดไปโดยไม่ทันได้คิด..หลังจากนั้นพี่ก็ทรมานมาก โทรฯ ไปที่ห้องของเน้ก็มีแต่ให้ฝากข้อความ..พี่รู้ว่าเน้โกรธพี่..แต่.."
เนเน้ยกมือขึ้นห้ามเหมือนจราจรกั้นรถ
"พอเถอะค่ะ..เน้ไม่อยากฟัง เน้รู้แล้วว่าหัวใจของพี่ไม่เคยมีเน้มาก่อนเลย.."
"ตอนแรกพี่ก็คิดอย่างนั้น..แต่พอพี่พูดคำนั้นออกไป..พอพี่ได้เห็นสีหน้าของเน้..พี่ก็เพิ่งจะรู้ตัวเองว่าพี่ขาดเน้ไม่ได้.."
หญิงสาวทำตาปริบ ๆ มองหน้าของเขา
นายคนนี้ทำให้เธอเจ็บช้ำ นายคนนี้ทำให้เธอเมา และนายคนนี้ทำให้เธอตื่นมาแล้วโป๊จนเข้าใจผิดไปต่าง ๆ นานา แต่เวลานี้เขากลับมาขอโทษเธอ แล้วพูดออกมาหน้าตาเฉยว่าเขาขาดเธอไม่ได้!!
ฮ่า ๆ ๆ ตาหลก
แต่เนเน้ทำได้เพียงแต่หัวเราะออกมาในลำคอ
"พี่เทนแน่ใจหรือคะที่พูดกับเน้อย่างนี้..?"
ชายหนุ่มหน้าตาเหมือนนักร้องรูปหล่อ..รีบพยักหน้าเพื่อยืนยันคำพูดตัวเอง
"เราไปหาที่คุยกันเงียบ ๆ ดีกว่า..ตรงนี้มีแต่คนมอง..พี่ไม่ชอบเลย"
เนเน้หันมองรอบตัว..จริงดังเขาว่า เด็กผู้หญิงทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่ต่างหันมามองเขาและเธอเป็นตาเดียว
เนเน้รู้สึกอายขึ้นมาบ้างเหมือนกัน
"ก็ได้ค่ะ.."
เขาเดินนำเนเน้ไปที่โต๊ะหลังห้องประชุม มันอยู่หน้าห้องน้ำที่ร่มรื่นไปด้วยต้นหูกวางที่แผ่กิ่งก้านใบปกคลุมเป็นบริเวณกว้าง บริเวณนั้นมีนักเรียนนั่งอยู่ในโต๊ะอื่น ๆ ไม่มากนัก
เนเน้พยายามนั่งให้ชิดริมม้านั่ง..เพื่อให้เขาไปนั่งฝั่งตรงข้าม แต่เขากลับหย่อนก้นลงชิดกับเธออีกด้านหนึ่ง
หล่อนขยับตัว..เขาก็ใช้เสียงเศร้าสร้อยดึงหล่อนไว้
"แค่พี่รู้ใจตัวเองได้ช้า..ทำให้เน้รังเกียจพี่ขนาดนี้เชียวหรือ?"
เนเน้จึงไม่ลุกขึ้นอย่างตั้งใจ ไม่ใช่ใจอ่อน..แต่เห็นว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะคุยกับเขาแล้วนี่นะ
"ว่ามาเถอะค่ะ.."
สิ่งที่อุเทนบอกกับเธอ..กลับเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของเธอไปอย่างมากมาย
เขาบอกว่าในวันวาเลนไทน์ เขารับและการ์ดมากมายจากผู้หญิง ทุกคนขอที่จะคบกับเขา..เขาจำเป็นต้องปฏิเสธทุกคน ด้วยเหตุผลว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงพวกนั้นเลย..
เนเน้ก็เป็นคนหนึ่งในจำนวนนั้นด้วย..
แต่แปลก..หลังจากที่เขากลับถึงบ้าน..ความรู้สึกบางอย่างก็รบกวนจิตใจของเขาจนนอนไม่หลับ
ภาพดวงตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจของเธอ..รบกวนเขาอยู่ตลอดเวลา
แม้ผู้หญิงคนอื่นจะมีความเสียใจดุจเดียวกับเธอ แต่เขากลับแคร์เธอมากกว่าใคร
เขาพยายามโทรฯหาเธอหลายครั้ง แต่ก็มีแต่เสียงตอบรับอัตโนมัติ(ที่เนเน้ตั้งไว้แล้วลืมดูว่ามีข้อความฝากไว้หรือเปล่า) ซึ่งตรงกับเวลาที่เธอกำลังไปเมา(เพราะน้ำปลา?? -*-) อยู่พอดี
พอวันอาทิตย์เขาก็โทรฯ ไป มันก็เป็นเวลาเดียวกับที่เธอกระโจนออกจากบ้านเพื่อไปเล่นงานนาทที่เธอเข้าใจว่าเขาบังอาจมาถอดเสื้อผ้าของเธอจนเห็นไปถึงไส้ถึงพุงนั้นพอดี
มาวันนี้เขาก็เลยมาดักรอเธอตั้งแต่เช้า..เขาหวังว่าความสัมพันธ์ของเขากับเธอจะเดินหน้าต่อไปด้วยดี
เขาขอโทษในสิ่งที่เขาได้พูดไป..เขาสัญญาว่าเขาจะบอกให้ทุกคนได้รับรู้ว่าเขามีแฟนแล้ว..แฟนของเขาคือเนเน้นั่งเอง..
เนเน้นิ่งฟังด้วยอาการสงบ
น่าแปลกที่เธอไม่ดีใจ..น่าแปลกที่เธอไม่ยินดีสักเท่าไร
ผิดกับวันที่เธอไปขอความรักจากเขาในวันนั้น..หากเขาพูดอย่างนี้เธอคงจะกระโดดไชโยสูงจากพื้นนับสิบฟุต..ดีไม่ดีอาจจะกระโดดกอดคอหอมแก้มเขาก็ได้
หญิงสาวก็แปลกใจตัวเอง..ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
ทำไมความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาถึงได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้??
แต่ถ้าจะถามว่าเธอปลื้มไหม? เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่รู้สึกอย่างนั้น..
แต่มันไม่ค่อยสนิทใจอย่างไรชอบกล??
เธอยอมรับว่าหัวใจของเธอสับสนมาก..มากจนอยากจะควักออกมาดูว่ามันรู้สึกอย่างไรกันแน่
แต่สิ่งที่เธอทำได้ในตอนนี้..ก็คือบอกกับเขาไปว่า
"เน้คงยังช็อคไม่หายจากวันนั้น..ยิ่งมาวันนี้พี่เทนพูดอย่างงี้เน้เลยช็อคเป็นสองเท่าเลย..เอาเป็นว่าเน้ขอบคุณนะคะ..ที่รู้สึกดี ๆ กับเน้..แต่..ขอเวลาเน้อีกสักนิด.."
"หมายความว่าเน้จะไม่คบกับพี่เหรอ?" เขาถามเสียงสูง สีหน้ามีแววไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน ก็ผู้หญิงคนนี้ เมื่อวันก่อนเพิ่งจะมาสารภาพว่าเธอชอบเขาอยู่หยก ๆ ไม่ใช่หรือ??
"เน้ก็ไม่รู้ใจตัวเองเหมือนกัน..เอาเป็นว่าพี่เทนโทรฯ หาเน้ได้เสมอ..เรายังคงเป็นเพื่อนกันต่อไป..หากเน้พร้อมเมื่อไร เน้จะบอกพี่ให้เร็วที่สุดเลย.."
พูดจบเนเน้ก็ลุกขึ้น..เป็นจังหวะเดียวกับที่ข้อมือของเธอถูกคว้าเอาไว้
และเป็นจังหวะเดียวกับที่หนุ่มซึ่งยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ต้นหนึ่งรีบสะบัดหน้าออกมาจากภาพที่ทำให้หัวใจปวดร้าวภาพนั้น
หนุ่มจึงไม่เห็นอาการสะบัดมือของเนเน้..ไม่เห็นสีหน้าของเธอที่โกรธเกรี้ยวอย่างเต็มที่
"ปล่อยมือเน้เดี๋ยวนี้นะ!!"
เธอคำรามลอดไรฟัน..
++++
ความรู้สึกของหนุ่มตอนนี้..ไม่ผิดอะไรกับปลาที่กระโดดจากผิวน้ำด้วยอาการอันลิงโลด หากตกลงกระทบพื้นดินด้วยเพราะกระโดดแรงเกินไป
มันเจ็บ..มันปวด..มันทุรนทุราย..ความสิ้นหวังเข้าครอบงำหัวใจทั้งดวงสุดที่จะห้ามได้
นาทอุตส่าห์มาบอกกับเขา..ว่านาทพร้อมจะหลีกทางให้..ทั้งที่นาทเองก็มีหัวใจเดียวกันกับเขา
นาทอุตส่าห์มาเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่เขาเข้าใจผิด..นาทให้ความหวังเขาว่าในสายตาของเนเน้..เขาต่างหากที่เนเน้ให้ความสนิทสนมมากที่สุด
นาทบอกกับเขา..หากผู้ชายคนที่เนเน้เลือกเป็นเขา..นาทจะยินดีพอ ๆ กับที่นาทจะได้ครอบครองหัวใจของเนเน้ด้วยตนเอง
เขาดึงนาทเข้ามากอด..และเป็นครั้งแรกที่เขายอมเรียกนาทว่าพี่
"พี่นาท..ขอบคุณนะครับ"
เมื่อวันที่ : 05 มิ.ย. 2549, 22.43 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...