![]() |
![]() |
mars![]() |
...สายลมพัดพาเอาละอองน้ำเค็มเข้ามากระทบฝั่ง เสียงเกลียวคลื่นสาดลงบนหาดทราย ท้องฟ้าที่มืดสนิทกำลังมีแสงร่ำไรระเรื่อออกมาจากฟากฟ้า ผมยังคงนั่งอยู่จุดเดิม ใ...
สายลมพัดพาเอาละอองน้ำเค็มเข้ามากระทบฝั่ง เสียงเกลียวคลื่นสาดลงบนหาดทราย ท้องฟ้าที่มืดสนิทกำลังมีแสงร่ำไรระเรื่อออกมาจากฟากฟ้า ผมยังคงนั่งอยู่จุดเดิม ใต้ต้นไม้ที่ผมไม่แน่ใจในชื่อของมัน สายตาทอดมองเหม่อออกไปในท้องทะเลที่กว้างใหญ่ ความเหงาเข้ามาเกาะกินหัวใจที่เหน็บหนาวและอ่อนแอ ในใจเงียบสนิทพลางมีเสียงครุ่นคิดเล็กๆว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ตรงนี้ ที่นี่ ที่ที่เราเคยมีความสุขร่วมกับใครอีกคน....."นี่คุณ เดินประสาอะไร มีตาหรือเปล่า" เสียงเล็กหวานใส ตะโกนมาอย่างกราดเกี้ยว
"ครับ" ผมได้แต่งงว่าผมทำอะไรให้เธอต้องกราดเกรี้ยวขณะนั้น เธอชี้ลงบนเท้าผมพร้อมกับใบหน้าอันหวาน เอ๊ย ไม่ใช่ ด้วยใบหน้าอันโมโห สายตาที่ไม่เป็นมิตรมาที่ผม ผมก้มมองที่เท้าตัวเอง ปราสาททรายหลังน้อยถูกเท้าอันใหญ่โตของผมเหยียบจนทลาย ผมเงยหน้าขึ้นมายิ้มเจื่อนๆ
"ขอโทษนะครับ" ผมได้แต่ชักเท้าออก แล้วมองเธอด้วยความสำนึกผิด เธอโวยวายอยู่พักใหญ่ ก่อนจะยอมจากไป โอ ไม่ ผมไม่ได้อยากให้เธอไป ดวงหน้าดวงตาที่หวานสวยจับใจผมเป็นที่สุด แต่ไม่ทันเสียแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน.....
บนบังกะโลหลังเล็กที่ผมเช่าอยู่นั้น แทบจะไม่มีอะไรเลยนอกจากที่นอน ห้องน้ำ แล้วก็โต๊ะเล็กๆ หนึ่งตัว หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มเล็กอยู่บนเตียงพร้อมกับสมุดบันทึกสีน้ำเงินเข้ม ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียว สายลมที่พัดเข้ามากระทบผิวกายที่มีหยดน้ำเกาะพราว สร้างความหนาวเย็นจนต้องเดินไปหยิบเสื้อโปร่งสีขาวกับกางเกงเลขึ้นมาใส่ แล้วใบหน้าของใครคนหนึ่งเข้ามาในความคิด หญิงสาวผู้เป็นที่รัก
"พี่ภพ พรุ่งนี้มิวจะไปหาพี่ภพที่หาดนะ"เสียงเล็กกรอกลงมาตามสายโทรศัพท์ ยามที่ผมขอร้องให้เธอมาด้วยแต่เธอไม่มา
"จริงหรือเปล่า มิวไม่ต้องทำงานเหรอ" ผมถามเธอด้วยความตื่นเต้น เพราะสองวันก่อนที่ผมมาที่นี่ ชวนเท่าไรก็ไม่ยอมมา
"จริง เดี๋ยวเจอกันนะ บาย" เธอบอกผมแล้วก็วางสายไป มิวเป็นอย่างนี้ประจำ เธอมักจะทำงาน ทำงาน ทำงาน จนไม่ค่อยได้พักผ่อน ผมเป็นห่วงเธอ แต่เธอก็ไม่ยอมหยุด ดีใจจังพรุ่งนี้ผมจะได้เจอเธออีกครั้ง
สายลมข้างนอกพัดแรง คลื่นเข้ากระทบฝั่งด้วยความกราดเกรี้ยว พายุฝนที่ตกระหน่ำมาตลอดทั้งวัน ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ ผมเป็นห่วงเธอจัง เธอจะมาอย่างไร
ปัง ปัง เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ผมสะดุ้งตัวขึ้นจะที่นอนอย่างรวดเร็ว ปัง ปัง ปัง เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีก ผมลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู เธอยืนเปียกปอนอยู่หน้าบังกะโล ผมรับเธอเข้ามากอดด้วยความคิดถึง
"มิวมาไงนี่" ผมถามเธอก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวส่งให้เธอ มิวไม่ตอบผม เธอเช็ดผมยาวสลวยของเธอพร้อมกับหันมามองผม สายตาเธอเศร้าสร้อยจนผมใจหาย
"เป็นอะไรไปมิว" เธอยิ้มน้อยๆ แล้วเดินเข้ามากอดผมไว้
"คิดถึงพี่ภพเป็นบ้า คิดถึงมิวไหม" เธอถามพร้อมกับกระโดดหอมแก้มผมทีหนึ่ง
"คิดถึงสิครับ ชวนมาก็ไม่มา" ผมตัดพ้อเล็กๆ ก่อนจะดันตัวเธออกจากอกที่ชื้นไปด้วยหยดน้ำ
เสื้อผ้าที่ตอนนี้ไม่สามารถปกปิดร่างกายได้มิดชิดเพราะน้ำฝนที่เปียกปอนทำให้ผมต้องดึงตัวเธอเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะส่งเสื้อผ้าให้เปลี่ยน เธอเหมือนตุ๊กตาตัวเล็กที่กำลังใส่เสื้อผ้าของยักษ์อยู่ ผมเช็ดผมให้เธอ เราพูดคุยกันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เธอทำท่าง่วง และหลับไป
เราใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดสามวันที่พักที่นี่ หาดที่เงียบสงบ น้ำทะเลที่สวยสดใสราวกับไม่เคยมาพายุมาก่อน การพูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกัน ทำให้ผมรู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนไม่อยากกลับ
"พี่ภพ มานี่หน่อยสิ" เธอเรียกผมขณะที่ตัวเธออยู่ในห้องน้ำ
"อะไร มิวจะเอาอะไรเหรอ" ผมถามขณะชะโงกหน้าเข้าไปหาเธอพร้อมกับรอยยิ้ม
"ถูหลังให้หน่อย" เธอบอกพร้อมกับส่งที่ถูหลังมาให้ผม เราสองคนถูหลังกันอย่างสนุกสนานโดยไม่รู้ว่าเวลาแห่งความสุขกำลังจะเหลือน้อยเต็มที
เสื้อผ้า ข้าวของของเราถูกแพ็คลงกระเป๋าเป้ใบเก่งของผม วันนี้เธอสวยใสราวกับนางฟ้า ผมนั่งจ้องหน้าเธอจนเธอหัวเราะ
"พี่ภพจ้องมิวอย่างนี้หมายความว่าไง" เธอเอ่ยถาม
"เปล่า มิวสวยจังวันนี้" เธอเขินกับคำพูดของผม ผิวสีนวลมีรอยระเรื่อแดงเล็กๆ
"ปะ เก็บของเสร็จแล้ว กลับกันเถอะ เดี๋ยวถึงบ้านมืด" ผมชวนพลางดึงเธอให้ลุกขึ้นจากที่นอน
"พี่ภพ ขอบคุณนะสำหรับทุกอย่าง มิวรักพี่นะ" เธอเดินเข้ามากอดผมพร้อมกับสายตาที่เศร้าสร้อยจนผมอดแปลกใจไม่ได้
"เป็นอะไรไป มิว พี่รักมิวนะ ขอบคุณอะไร เดี๋ยววันหลังเรามาเที่ยวกันใหม่ก็ได้" ผมปลอบเธอเพราะคิดว่าเธอคงไม่อยากกลับ
"------------------------" เธอเงียบ พร้อมกับเก็บข้าวของลงหลังรถ
"เดี๋ยวพี่เอากุญแจ ไปคืนก่อนนะ มิวนั่งรอที่นี่ก่อนนะ" เธอยิ้มน้อยๆ ให้ผม รอยยิ้มที่หวานและสดใส รอยยิ้มที่ผมไม่คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เห็น
ผมเดินกลับมาจากการคืนกุญแจบ้านแก่เจ้าของบ้าน แล้วเธอก็หายไป มิวหายไปไหน ผมคิด ผมเดินตามหาเธอเสียทั่วหาดก็ไม่พบ ผมคิดว่าเธอคงไปเดินเล่นแถวๆ นั้น นั่งรอจนทนไม่ไหว จึงกดโทรศัพท์เข้าไปหาเธอ ประโยคที่ได้ตอบรับกลับมามันทำให้หัวใจผมแทบสลาย น้ำตาหยดเล็กไหลริน
"ภพ หรือลูก หายไหนมา น้องมิวตายแล้วนะลูก วันที่เขาจะไปหาภพ มีรถวิ่งเข้ามาชน" เสียงสะอื้นของป้าเข้ามาตามสายโทรศัพท์ ทำให้ผมแทบหมดแรง เธอผู้เป็นที่รักจากไป เธอจะจากไปได้อย่างไร เมื่อวาน วันก่อน เรายังอยู่ด้วยกัน หัวเราะ มีความสุขด้วยกัน .....
หนึ่งปีแล้วที่เธอจากไป ผมยังคงนั่งอยู่ตรงนี้ รอวันที่เธอจะกลับมาหา ทั้งที่รู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ แต่หัวใจก็ก็เฝ้ารอ ความรักของเราจบลงที่นี่ แต่หัวใจของผมก็ยังมีเธอตลอดไป..........
เมื่อวันที่ : 28 เม.ย. 2549, 00.05 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...