![]() |
![]() |
รันนรา![]() |
...เมื่อผมได้อยู่ตามลำพังสองคนกับฝ้าย..น้ำตาของผมก็ไหลออกมาอีกครั้ง ผมค่อย ๆ เอื้อมมือไปแตะที่แก้มของเธอ..มันเย็นชืด..ขนตางอนยาวหลับพริ้ม..ลมหายใจรวยริน...
เมื่อผมได้อยู่ตามลำพังสองคนกับฝ้าย..น้ำตาของผมก็ไหลออกมาอีกครั้งผมค่อย ๆ เอื้อมมือไปแตะที่แก้มของเธอ..มันเย็นชืด..ขนตางอนยาวหลับพริ้ม..ลมหายใจรวยริน
เธอเป็นคนที่ผมรัก..และรักเธอเสมอมา
หลังจากที่เราต้องแยกจากกัน..ผมไม่ได้ยินข่าวคราวของเธออีกเลย
แม้หัวใจจะโหยหา..แม้ความคิดถึงจะมีมากมาย แต่ผมก็ทำได้แค่เพียงเก็บกดความรู้สึกนั้นเอาไว้
การเป็นหนึ่งในนักเรียนฝึกการรบพิเศษของกองทัพ..การถูกฝึกให้เป็นสายลับทำให้ผมต้องทิ้งอดีตทั้งหมดของตัวเองเอาไว้..
สาเหตุที่ผมต้องขึ้นเหนือในครั้งนั้น..ก็เพราะกำลังติดตามขบวนการร้ายขนาดใหญ่ขบวนการหนึ่ง
แต่เดิมมันเป็นแค่พวกค้ายาเสพติดเท่านั้น..แต่แล้วอะไรบางอย่างทำให้มันเริ่มเปลี่ยนไป
ในทางลับพวกเราสืบทราบมาว่า..มันติดต่อคบหากับกองโจรที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นทุกที
การก่อการร้ายเป็นระยะ ๆ ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้..ดูเหมือนว่าจะได้รับทุนสนับสนุนจากขบวนการนี้อย่างลับ ๆ
ผมขึ้นเหนือไปเพื่อหาตัวหัวขบวนของมัน..ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจหนุ่มใจเสาะขี้เมา(จริง ๆ แล้วเรื่องขี้เมานี่ไม่ต้องปลอมเล้ย)ติดต่อค้าขาย"ข่าว"บางอย่างที่พวกเราคิดว่าสำคัญสำหรับพวกมัน
แต่แล้วทุกอย่างก็พังทะลายเมื่อผมเกิดกินเบียร์มากไปหน่อย..ทำให้เสียหลักศีรษะไปชนเต็มแรงเข้ากับราวเหล็กของรถไฟขณะเบรคฉุกเฉิน..จนกลายเป็นเด็กทารกอยู่ในขณะนี้..
สำหรับฝ้ายเอง..เมื่อเธอไปเรียนญี่ปุ่น..เธอใช้เวลาเรียนกี่ปีผมไม่รู้
เธอไปเรียนอะไร? เธอกลับมาเมื่อไร? ทุกวันนี้เธอประกอบอาชีพอะไร? ผมไม่รู้ทั้งสิ้น
แต่ในสายตาสายลับอย่างผม..พอจะคาดเดาอะไรเกี่ยวกับเธอได้บางอย่าง
ท่วงท่าการต่อสู้..การใช้ปืน ความสามารถในการขับรถ..การตัดสินใจอย่างทันถ่วงที..คล้ายเธอจะถูกฝึกมาเพื่อการนี้ไม่น้อยเหมือนกัน
หรือเธอก็เป็นหนึ่งในสายลับที่ทำงานให้กับองค์กรหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเหมือนผม..และเธออาจจะพลาดท่าเสียที..เธอถึงได้ถูกจับมัดมาขังไว้ในโกดังแห่งนั้น?
เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ ก็คล้ายกับเป็นชุดทำงานพิเศษของหน่วยจารกรรม แต่มันไม่มีสัญลักษณ์ใด ๆ ให้ผมเห็นได้ว่าเธอสังกัดอยู่หน่วยงานไหนเลย..
ขณะที่ผมนั่งน้ำตาไหลผสมกับน้ำลายที่ไหลไม่ยอมหยุด...ขบคิดทบทวนเรื่องราวอยู่นั้น..ปรอทที่เสียบคาไว้ที่ปากของเธอ..ก็ลดระดับต่ำลงจริง ๆ
ลำตัวของเธอเย็นยิ่งขึ้น..ผมพยายามใช้สองมือเล็ก ๆ เขย่าตัวเธอ
ไม่ได้ผล..เธอคงไม่รู้สึกตัว..แม้ผมจะเขย่าเต็มแรงแล้วก็ตาม
ให้ตาย..ผมจะทำอย่างไรดี?..ฝ้ายกำลังเข้าสู่อาการโคม่าจากสาเหตุร่างกายขาดเลือดอยู่แล้ว
การเขย่าให้เธอรู้ตัวทำได้แค่เพียงให้ตัวเธอสั่นนิดหน่อยเท่านั้น..ผมไม่มีเรี่ยวแรงไปกว่านั้น..
ผมจะทำอย่างไรให้หัวใจของเธอสูบฉีดเลือดที่มีเหลืออยู่น้อยในตัวเธอให้แรงขึ้น..เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองของเธอได้เพียงพอ
มีดผ่าตัดเหล่านั้นยังวางอยู่ใกล้ ๆ หากผมทำให้เธอเจ็บ เธอจะรู้สึกตัวหรือไม่?
ไม่น่าจะได้ผล ประสาทรับรู้ทางภายนอกของเธอคงจะเฉื่อยชาไปตามสมองที่เริ่มจะขาดเลือดหล่อเลี้ยง
สิ่งที่ผมต้องทำก็คือ..ทำอะไรก็ได้ ให้เกิดเสียงดังที่สุด
ใช่สิ..เสียงดังกระทันหันจะเข้าไปกระตุ้นทุกอย่างในร่างกายของเธอได้ ไม่ว่าจะเป็นสมองหรือหัวใจ
แล้วอะไรล่ะ? ที่ผมจะทำให้เกิดเสียงได้??
อะไร???
+++
ห้องที่รกด้วยสิ่งของที่วางระเกะระกะนั้นไม่มีอะไรให้ผมใช้ได้เลย
หม้อกระทะไหตุ่มที่จะตีให้ดังให้แตกก็ไม่มี
หันซ้ายหันขวา..คลานต้วมเตี้ยมไปมาจนฝุ่นที่พื้นห้องติดก้นติดมือดำปื๋อ..ก็ยังไม่มีวิธีจะช่วยชีวิตของฝ้ายได้
ทุกวินาทีมีค่า..ในใจผมได้แต่ภาวนาขอปฏิหาริย์มาช่วย
แล้วผมก็เจอกระเป๋าใบหนึ่ง..คล้ายกระเป๋าเจมส์บอนด์สีดำ
มันวางอยู่ซ่อนอยู่ใต้โซฟาที่ฝ้ายนอนอยู่นั่นเอง
ผมรีบคลานเหมือนลูกหมาเจอนมแม่..หัวซุกหัวซุนมุดเข้าไปที่ใต้โซฟ้านั้น
ลากมันออกมา..นั่งน้ำลายไหลมองมันอยู่ครู่หนึ่ง..ด้วยความรู้สึกประหลาด
กระเป๋าชนิดนี้..เมื่อชาติที่แล้วผมเห็นมาบ่อยครั้ง
แต่ละครั้งสิ่งของที่บรรจุอยู่ในนั้น..ล้วนแต่คาดไม่ถึงทั้งสิ้น
บ้างก็มีธนบัตรบรรจุอยู่เต็ม..เหมือนในหนังที่พวกค้ายาเสพติดเปิดโชว์เพื่อแลกกับเฮโรอินที่จะต้องถูกชิมโดยคนใดคนหนึ่งเสมอ
บ้างก็เป็นอาวุธประสิทธิภาพสูง..ที่พระเอกหรือตัวโกงจะต้องเอาออกมาประกอบกันให้เห็นจะ ๆ กลัวคนดูจะประกอบไม่เป็นก่อนจะเอาไปยิงใครบางคน
และบ้างก็เป็นระเบิดเวลา..ที่เมื่อเปิดขึ้นมาปุ๊บ..จะต้องเห็นตัวเลขนาฬิกากำลังเดินถอยหลังไปเสียทุกที
บัดนี้..กระเป๋าลักษณะเดียวกันนั้นมันวางอยู่ตรงหน้าผม..ผมซึ่งเป็นเด็กอายุไม่ถึงขวบ..น้ำลายยืดเต็มหน้าอก..ทั้งฉี่ทั้งอึ๊หมักอยู่เต็มผ้าอ้อมคนนี้..
ในนั้นมันมีอะไร?
การช่วยชีวิตฝ้ายเป็นเรื่องที่รีบด่วนที่สุด
ผมหวังว่าในกระเป๋าใบนี้จะมีอะไรที่ช่วยฝ้ายได้
กระเป๋ามีระหัสล็อค..แต่มันห้ามอดีตสายลับมือหนึ่งของกองทัพอย่างผมไม่ได้
ใช้หูแนบชิด..ค่อย ๆ เลื่อนปุ่มระหัสนั้น..ไม่นานมันก็ลั่นเป๊าะ
กระเป๋าเผยอขึ้นเล็กน้อย..มือเล็ก ๆ ของผมค่อย ๆ เปิดมันขึ้น
สิ่งที่ปรากฎตรงหน้า..ทำให้ผมตาเหลือกค้าง
มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง??
......
เงินสดใบละพันจำนวนนับสิบปึก..เรียงกันอยู่ในนั้นอย่างเรียบร้อย..
กลิ่นธนบัตรใหม่เอี่ยมลอยเข้าจมูก..มันเป็นกลิ่นเดียวกับที่ผมได้กลิ่นเมื่อตกอยู่ในถุงเงิน ขณะถูกเจ้าโจรปล้นมาโดยที่ไม่รู้ว่ามีผมอยู่ในถุงนั้นด้วย
ให้ตายเถอะครับ..คุณ ๆ ยังจำที่ผมพูดถึงหมายเลขของธนบัตรได้ไหม? มันมีหมายเลขในหมวดเดียวกันกับปึกธนบัตรที่ผมงับมันด้วยความหิวในตอนนั้น!!
มันมาอยู่ในบ้านเจ้าแว่นนี่ได้อย่างไง?? หรือเขาจะมีส่วนในการปล้นครั้งนี้? หรือเขาเองนั่นแหละที่เป็นผู้วางแผนการณ์ทั้งหมด?
แต่ผมไม่มีเวลาจะขบคิดเรื่องนี้..อย่างที่บอก การช่วยชีวิตของฝ้ายเป็นเรื่องที่เร่งด่วนที่สุด
โชคดีที่ในกระเป๋าใบนั้นมีปืนพกเล็ก ๆ วางอยู่ด้วย
ปืนขนาดจุดสองสอง..เล็กพอที่ผมจะถือไว้ในอุ้งมือได้
เสียงปืนจะช่วยดึงให้สติของฝ้ายกลับมา
ผมปลดเซฟล็อคด้วยการทุบมันกับขอบไม้ของโซฟา
หันปลายกระบอกปืนไปที่หน้าต่าง
เหนี่ยวไก..
แหะ..มันแข็งเกินไปที่เด็กอย่างผมจะทำได้
ผมออกแรงเต็มที่..ไม่ได้ผล..นิ้วของผมไม่มีแรงที่จะทำอย่างนั้น
เชือกมัดของเส้นหนึ่งถูกผมแกะออกมาจากกล่อง ผูกปืนไว้กับขาโซฟา
มันแน่นหรือเปล่าไม่รู้ แต่ผมก็พยายามรัดให้ตึงที่สุดแล้ว
ปลายเชือกอีกด้านหนึ่งผมร้อยผ่านโกร่งไก..แรงกดกับแรงดึงย่อมไม่เท่ากันอยู่แล้ว
แรงกดของเด็กทารกอย่างผม ไม่สามารถเหนี่ยวไกปืนได้ แต่ถ้าเป็นแรงดึง..มันอาจจะได้ผล
ผมถอยตัวเองไปให้ไกลจากปืนมากที่สุด..หมอบคุดคู้ แล้วออกแรงดึงเต็มที่
"เปรี้ยงงงงงงง"
++++
จริง ๆ แล้วผมเล็งปลายกระบอกปืนไปที่หน้าต่าง
แต่เมื่อผมออกแรงดึง ปลายกระปืนกลับกดลงต่ำด้วยเพราะผมมัดด้ามปืนไว้ไม่แน่นพอ
กระสุนพุ่งลงพื้น แฉลบขึ้นกระทบฝา..แฉล่บอีกทีไปสร้างรูโหว่อยู่ที่ประตูห้องน้ำ และมันก็คงจะสิ้นฤทธิ์ฝังตัวอยู่ในนั้น
เสียงปืนดังพอที่จะทำให้ฝ้ายรู้สึกตัว..
ร่างกายที่คงจะถูกฝึกมาอย่างดี จึงแข็งแกร่งกว่าที่คิด
เธอผวาชันตัวลุกขึ้น..มองซ้ายขวาอย่างตื่นตระหนกในทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น
และคงรู้ถึงอาการบาดเจ็บของตัวเอง เธอยกมือกุมบาดแผลที่หัวไหล่ซึ่งได้รับการรักษาแล้ว
สีหน้ายังคงซีด..หากอาการตื่นงงดูจะมีมากกว่า
แล้วเธอก็เห็นผม..ซึ่งกำลังอ้าปากหัวเราะอย่างไม่มีเสียงด้วยความดีใจอยู่พอดี
"หนู..."
ผมใช้มือสองของตบเข้าหากัน..ปรบมือให้กับตัวเองที่เก่งเหลือเกิน..
"เกิดอะไรขึ้นนี่..ฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไง?"
ผมเล่าเหตุการณ์ให้หล่อนฟังอย่างละเอียด
"อือ..อา..แอ่..อ่อ.."
แต่ดูเหมือนเธอจะฟังรู้เรื่อง..หรือไม่เธอก็ฉลาดพอที่จะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ด้วยตัวเอง
เธอพยักหน้าช้า..ขณะหันไปรอบตัวอีกครั้ง
แต่เมื่อเธอเห็นกระเป๋าที่เต็มไปด้วยเงินใบนั้น..อีกทั้งปืนที่ยังส่งควันกรุ่นอยู่ที่ขาโต๊ะโซฟา เธอก็ถึงกับอุทานออกมา
"หนูทำได้ยังไง??"
ผมก็ได้แต่หัวร่อร่าปากแบะน้ำลายเยิ้มให้กับเธอ
.....
ฝ้ายยังคงมีทีท่าเหนื่อยอ่อน แม้เธอจะมีร่างกายเข้มแข็งอย่างไรการเสียเลือดมากมายจนเกือบทำให้เธอช๊อคขณะสิ้นสติ ซึ่งแม้หัวใจจะสูบฉีดเลือดได้แรงขึ้นเนื่องจากเกิดเสียงดังอย่างกระทันหัน ก็ใช่ว่าเธอจะลุกขึ้นเดินเหินได้เหมือนปกติในทันที
เธอคงหน้ามืด..ผมเห็นเธอล้มตัวลงนอนไปอีกครั้ง..ใบหน้าซีดเผือด..เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดตามไรผมและปลายจมูก ริมฝีปากแห้งจนเห็นรอยยับย่น..เธอพึมพำขอน้ำ
อ๋า..ผมจะหาน้ำมาเธอได้จากไหน?
ผมเองตอนนี้ก็หิวนม..และความง่วงงุนก็กำลังเข้าครอบงำทุกขณะ
ร่างกายที่เป็นเด็ก..มันกำลังเรียกร้องในสิ่งอันเป็นธรรมชาติของทารก นั่นคือการกินและการนอน..
มันเป็นสิ่งที่ผมฝืนไม่ได้..แต่มันไม่น่าจะมาเกิดขึ้นในตอนนี้เลย..
"น้ำ..ฉันหิวน้ำเหลือเกิน.." ฝ้ายส่งเสียงแหบพร่ามาอีกครั้ง..
ผมเริ่มเคลื่อนไหว..ตาที่ปิดไปแล้วครึ่งหนึ่งถูกบังคับให้เลิกขึ้นอีกครั้ง..
โอย..ทำไมมันหนักอย่างนี้??
เป็นเวลานานเท่าใดแล้วนี่ที่เจ้าแว่นออกไป..เขาบอกว่าจะไปแจ้งตำรวจที่หน้าปากซอยนี่เองไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงนานขนาดนี้?
ผมคิดถึงเขา..เพราะผมรู้ตัวเองว่าผมไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะช่วยฝ้ายได้อีกแล้ว..
การขนของเข้าบ้านของเจ้าหมอนั่น..คงเป็นไปอย่างรีบด่วน ขนมากองสุม ๆ กันเอาไว้โดยยังไม่จัดให้เข้าที่เข้าทาง..
เขาคงจะต้องหิวน้ำบ้างล่ะ..น่าจะมีขวดน้ำวางอยู่ตรงไหนสักแห่ง..
ผมคลานต้วมเตี้ยมไปทั่วบ้าน..ขณะที่ร่างกายต้องการพักผ่อนอย่างหนัก..
ฝ้ายเงียบเสียงไปแล้ว..เธอคงเพลียจนกำลังจะสิ้นสติไปอีกครั้งก็ได้
ผมหยุดคลานด้วยความเหนื่อยแทบขาดใจ..หากไม่เจอน้ำภายในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้..ผมคงจะหลับลงไปโดยห้ามตัวเองไม่ได้..และเมื่อนั้น..ฝ้ายก็คงจะแย่แน่ ๆ
น้ำลายเริ่มหยุดจากปากของผมแล้ว..มันคงไหลจนหมดบ่อ..หรือไม่ต่อมน้ำลายก็เริ่มขาดน้ำมาหล่อเลี้ยง..
ผมชักตาลาย..หันมองรอบ ๆ ตัวอีกครั้ง..
แล้วผมก็เจอมันจนได้..ขวดน้ำขวดหนึ่ง..เปิดฝาทิ้งไว้วางอยู่ชิดกำแพงด้านหนึ่งของห้อง
มันตั้งอยู่ใกล้ ๆ กระป๋องเบียร์..กระป๋องสีขาว..มีสิงห์สีทองยืนยกขาข้างเดียวอยู่ด้วย
เหมือนปาฏิหาริย์ เรี่ยวแรงของผมไม่รู้มาจากไหน..คลานปรู๊ดเดียวก็ถึง
ผมคว้าขวดน้ำขึ้นมาก่อน..มองกระป๋องเบียร์นั้นด้วยอาการชั่งใจ..
ยกขึ้นดู..มีติดก้นอยู่เกือบครึ่ง..
"รอเดี๋ยวนะฝ้าย..ขอป๊อบอายกินผักขมก่อน.."
ผมบอกกับตัวเองแล้วยกเบียร์ขึ้นซด..
"เอิ๊กซ์.."
.......
จำได้ว่าก่อนผมหลับ..ภาพสุดท้ายก็คือผมกำลังจิ้มขวดน้ำเข้าไปในปากของฝ้าย..
เธอจะกินมันได้หรือเปล่าผมไม่รู้..สิ้นแรงผลอยหลับไปตรงนั้น..
ผมหลับไปนานเท่าใดไม่รู้ได้..มารู้สึกตัวอีกทีก็ด้วยเพราะความหิว..
ผมลืมตา..เอ..ทำไมมันมืด..ต้องปิดตาอีกทีแล้วลืมอีกครั้ง
แหะ..ยังมืดเหมือนเดิม..
ผมขยับตัว...รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในอ้อมกอดของใครก็ไม่รู้
มันนุ่ม ๆ อุ่น ๆ และยังไม่รู้ว่าเป็นอ้อมกอดของใคร
และแล้วก็รู้สึกเหมือนผมจะถูกกอดกระชับมากยิ่งขึ้น..พร้อมกับเสียงกระซิบเบา ๆ ที่ริมหู
"อย่าร้องนะ..ได้โปรด.."
เป็นเสียงของฝ้าย!!
ผมพยายามมองรอบตัว..เมื่อสายตาชินกับความมืดก็รู้ตัวว่าอยู่ในที่อับ ๆ ที่หนึ่ง ขนาดไม่ใหญ่นัก..อากาศแทบไม่มีหายใจ
และเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูรถพร้อมกับการไหวเยือกของตัวเอง..ผมก็รู้ได้ทันทีว่าผมอยู่ที่ไหนกับฝ้าย
กระโปรงท้ายรถนั่นเอง!!
+++++
เมื่อวันที่ : 27 เม.ย. 2549, 13.04 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...