...มีเสียงแมวร้องอย่างเจ็บปวด แล้วแมวของแกตัวหนึ่งก็กระเด็นตกลงมาจากชานบ้านชั้นบน...มันถูกเตะกระเด็นไปติดข้างฝาด้วยไอ้โอ๊ป...

"ป้าจะเลี้ยงมันไปทำไมตั้งห้าหกตัว" นี่เป็นคำเตือนครั้งแรกจากเจ้าของบ้านข้างๆกัน

"มีแมวตั้งสิบกว่าตัวแล้ว ...ป้าจะเลี้ยงไหวหรือ ? ระวังนะ ! " และนี่เป็นคำเตือนถัดมาจากเพื่อนบ้านอีกเหมือนกัน ป้าจันทร์สมยังจำคำเตือนพวกนี้ได้ ตอนที่แกเพิ่งจะเอาแมวมาเลี้ยงได้ใหม่ๆ ...

แต่เมื่อเวลาผ่านไปอีกสามปี แมวที่ป้าจันทร์สมเลี้ยงไว้ก็กลายเป็นเจ็ดสิบกว่าตัว หรืออาจจะมากกว่านั้น ยังไม่มีใครรวมทั้งแกเองจะนับมันได้ถ้วน

ป้าจันทร์สมเป็นหญิงสูงอายุหม้ายใจบุญที่ทุกคนในหมู่บ้านรู้จัก ว่าที่จริงหลายๆคนก็เป็นญาติกับสามีแกด้วย แกได้เก็บเอาลูกแมวสีขาวที่มีแต้มสีดำจากตลาดมาเลี้ยงไว้เมื่อสามปีมาแล้ว ...นี่คือการเริ่มต้นของปัญหา !

วันนั้นตัวมันนิดเดียวและสกปรกมอมแมม ลูกแมวน้อยตัวสั่นเทาด้วยความ กลัวอยู่บนเสารั้ว หมาเจ้าถิ่นสองสามตัวกำลังเห่ากรรโชกและตะกายรั้วที่มันหนีขึ้นไปหลบคมเขี้ยวอยู่

ป้าจันทร์สมตะเพิดหมาพวกนั้นไปเสีย แล้วเข้าไปอุ้มเจ้าแมวขาวแต้มดำ มันเป็นแมวตัวเมีย ! ใครคงจะเอามาปล่อยไว้ แมวน้อยร้องครางเบาๆ มันเลียมือแกเหมือนสำนึกบุญคุณและขอฝากชีวิต

ไม่รู้ว่าเป็นบุญหรือเป็นกรรมของใคร ป้าจันทร์สมให้รู้สึกว่าแกมีความสัมพันธ์กับมันมาแต่เก่าก่อน อาจจะเมื่อชาติที่แล้ว ! แกเอามันกลับมาบ้านและเลี้ยงไว้เป็นแมวตัวแรกของแกตั้งแต่นั้นมา

"เอ็งชื่อแต้มก็แล้วกัน" แกบอกมันเมื่อเอาข้าวก้นชามให้มันกินเป็นมื้อแรก

นางแต้มน้อยติดแกแจ มันตามป้าจันทร์สมไปทุกหนทุกแห่ง เมื่อยามที่แกเข้านอนมันจะก็เข้ามานอนขดอยู่ที่หน้าท้องเพื่อรับไออุ่นจากแก เมื่อจะออกจากบ้านไปตลาดหรือจะออกจากบ้านไปไหนๆมันก็จะวิ่งตามออกไป จนแกต้องหากรงเล็กมาขังมันไว้ก่อนจะออกจากบ้าน

มันต้องมีเพื่อน ! ป้าจันทร์สมคิด แล้วอีกสองสามวันต่อมาแกก็ไปเก็บลูกแมวที่วัดมาอีกสองตัว เป็นตัวผู้หนึ่งและตัวเมียอีกหนึ่งให้มันเป็นเพื่อนกัน แต่เมื่อถึงเวลานอน ที่นอนของแกก็คือที่นอนนางแต้มตัวเดียวเท่านั้น ตรงนั้นเป็นที่เดียวที่แมวตัวอื่นจะมานอนด้วยไม่ได้ นางแต้มเป็นนางพญาแมวของบ้านตั้งแต่นั้นมา
.....................................................................................

อีกเจ็ดเดือนต่อมา ก็มีแมวตัวเมียหลงมาอยู่กับแมวของป้าจันทร์สมอีกสองตัวรวมเป็นห้าตัว แกเลี้ยงมันไว้เอาบุญ

"แหมป้า ! ตั้งแต่ป้าเลี้ยงแมวนี่หนูแถวนี้หายไปหมด ดีจัง ! " เพื่อนบ้านข้างๆชมป้าจันทร์สมกับนางแต้มและพรรคพวกของมัน

แม้หนูจะหมดไปแต่แกก็ต้องซื้อปลาทูตัวเล็กสองเข่งกับข้าวสารถูกๆมาหุงคลุกให้แมวกินทุกวัน ลำพังข้าวที่เหลือติดก้นชามนั้นไม่พอที่จะเลี้ยงพวกมันเสียแล้ว

เมื่อครบปีที่เอานางแต้มมาเลี้ยง ป้าจันทร์สมก็มีแมวเป็นบริวารอีกรวมเป็นสิบแปดตัว เป็นลูกครอกแรกของนางแต้มเสียเจ็ดตัว และลูกของแมวที่มาอยู่ใหม่อีกหกตัว

"ป้า ! เอามันไปทำหมันเสียสิ เดี๋ยวป้าจะมีแมวเป็นร้อยนะ" เพื่อนบ้านคนที่เคยเตือนแกตอนแรกแนะนำ

แม้ว่าจะต้องเจียดเงินบำนาญตกทอดจากสามีที่ได้รับทุกเดือนมาเป็นค่าปลาทูกับค่าข้าวเพิ่มขึ้น จนแกซื้อข้าวปลาอาหารสำหรับกินเองได้น้อยลงก็ตาม ป้าจันทร์สมก็ยังไม่สนใจคำเตือนนั้น มันน่าจะบาปถ้าสัตว์โลกจะเกิดแล้วไปห้ามมันไว้ แกเชื่ออย่างนี้ ! ตามที่เคยได้รับการบอกเล่ามาตั้งแต่ยังสาว

จนกระทั่งย่างเข้าปลายปีที่สองนางแต้มก็ตั้งท้องอีกครั้ง ไล่ๆกันกับแมวตัวเมียตัวอื่นๆที่เลี้ยงไว้อีกหลายตัว ป้าจันทร์สมสังเกตว่านางแต้มจะตั้งท้องนำแมวตัวอื่นทุกครั้ง ! และเมื่อครบรอบสองปีเต็มของการเลี้ยงแมว บ้านป้าจันทร์สมก็มีแมวกว่าสี่สิบตัวเข้าไปแล้ว

เพื่อนบ้านเริ่มบ่นที่แมวของป้าจันทร์สมไปก่อความรำคาญให้ บางคนมาฟ้องว่าแมวของแกไปขโมยของกินในครัว บางคนบ่นว่าแมวของแกไปตะปบลูกไก่เจี๊ยบของเขาตาย อีกหลายๆคนพากันบ่นในอีกหลายเรื่องที่แมวของแกเป็นตัวการ

ลูกแมวรุ่นใหม่โตขึ้นและกินจุขึ้น อีกไม่นานพวกมันก็ทยอยกันตั้งท้องและออกลูกมาอีกหลายครอก ถึงตอนนี้ป้าจันทร์สมก็ไม่มีเงินที่จะซื้ออาหารเพิ่มให้กับฝูงแมวของแกให้มันพอกินได้อีกแล้ว ทุกเดือนเฉพาะค่าอาหารแมวก็เกินกว่าครึ่งของเงินที่แกมีแล้ว

"ป้าก็เอามันไปปล่อยเสียบ้างสิ ! " เพื่อนบ้านคนหนึ่งแนะนำแก เมื่อแกเล่าให้ฟังถึงปัญหาประชากรแมวที่มากเกินไป

แต่ป้าจันทร์สมไม่มีวันที่จะทำตามที่เพื่อนบ้านคนนั้นบอกได้ แค่คิดก็บาป แล้ว ! และถ้าทำอย่างนั้นมันไม่รับผิดชอบ ! เดี๋ยวนี้แกใกล้ชิดสนิทสนมกับแมวที่เลี้ยงไว้มากกว่าเพื่อนบ้านทุกคนเสียอีก มันเหมือนกับลูกๆหลานๆของแกทีเดียว

และเมื่อครบสามปี ป้าจันทร์สมก็มีบริวารแมวยั้วเยี้ยเต็มบ้านของแกเอง และมันยังแผ่อาณาจักรไปถึงบ้านข้างๆโดยรอบอีกด้วย โดยมีบ้านแกเป็นเมืองหลวง

ป้าจันทร์สมพยายามจะนับจำนวนแมวทั้งหมดที่มีอยู่แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ เพราะมันไม่ได้อยู่ที่บ้านพร้อมๆกัน พวกมันจะมาพร้อมหน้าพร้อมตากันก็เฉพาะเมื่อได้เวลาให้อาหารเท่านั้น ทุกตัวจะหิวโซและเดินพล่านสับสนจนไม่อาจจะนับมันได้ แต่ถ้าประมาณอย่างคร่าวๆละก็ ป้าจันทร์สมคงจะมีแมวไม่น้อยกว่าเจ็ดสิบตัว ความจริงน่าจะมากกว่านั้นเยอะ !

เกือบทุกวันป้าจันทร์สมจะได้รับการร้องเรียนจากเพื่อนบ้านเรื่องแมวของแก พวกมันได้อาหารไม่พอกิน จึงเที่ยวไปแอบอาศัยอยู่ตามบ้านคนอื่น คอยลักขโมยอาหารที่เขาวางทิ้งไว้กิน หลายตัวไปขี้ไว้ตามใต้ถุนบ้านอื่น บางทีก็ไปไล่กัดกันจนจานชามเขาแตกเสียหาย ...

เสียงบ่นและเสียงด่าแมวของชาวบ้านสร้างความทุกข์ใจให้กับป้าจันทร์สมมาก แกเองไม่ได้นิ่งนอนใจในปัญหานี้ แต่ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไร เดี๋ยวนี้ ป้าจันทร์สมเองก็ไม่ค่อยอยากจะพบหน้าใครๆในหมู่บ้านอีกแล้ว กลัวว่าเขาจะบ่นใส่หน้าเรื่องแมว

"สร้างกรงใหญ่ๆใส่มันเสียสิ !" ผู้ใหญ่บ้านแนะนำป้าจันทร์สม เพราะชาวบ้านไปร้องเรียนเรื่องแมวของแก

แต่ป้าจันทร์สมไม่มีปัญญาจะไปซื้อไม้มาสร้างกรงเอง และแกก็พอรู้อยู่แก่ใจว่า ถ้าเอาแมวทั้งหมดมาขังกรงไว้ ก็ไม่มีอาหารพอที่จะให้มันกิน เพราะตอนนี้ประชากรแมวของแกได้อาศัยอาหารที่มันขโมยจากบ้านอื่นกินบ้าง จากที่เขาให้มันกินเพราะสงสารบ้าง บางตัวก็เก่งในการจับกบ เขียด กิ้งก่า จิ้งจก จิ้งเหลน และนกกินได้บ้างจึงอยู่มาได้ แม้กระนั้นแมวส่วนใหญ่ก็ผอมโซ จะมีก็นางแต้มนางพญาแมวเท่านั้นที่ไม่ต้องแย่งตัวอื่นกิน เพราะป้าจันทร์สมจะดูแลให้มันได้กินตัวเดียวจนอิ่มโดยเฉพาะ

"โธ่เอ๋ย ! ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน" ป้าจันทร์สม โอดครวญเมื่อเพื่อนบ้านคนหนึ่งหิ้วกรงนกมาให้ดูถึงบ้าน ในกรงมีนกเขาตัวโปรดของเขานอนตายอยู่ ตามตัวมีแผลเหวะหวะ ขนนกกระจายเต็มกรง มันเป็นฝีมือของแมวตัวใดตัวหนึ่งของแก
แล้วเขาก็หิ้วกรงกับซากนกกลับไปอย่างโกรธเกรี้ยว พร้อมกับส่งเสียงด่าและสาปแช่งแมวและตัวแกเองดังคับซอย คราวนี้เขาด่าอย่างไม่เกรงใจแล้ว ! ...

เสียงเพื่อนบ้านคนหนึ่งตะโกนขึ้นลอยๆเมื่อเดินผ่านหน้าบ้านแก

"ไอ้ห่า ! ไม่รู้จะเลี้ยงไว้ทำไมมากมาย เลี้ยงแมวแล้วก็ไม่มีปัญญาดูแล ระยำ ! " นี่เกือบเป็นเหตุการณ์ประจำวัน และมันก็ยิ่งทำให้ป้าจันทร์สมหลบหน้าเพื่อนบ้านมากขึ้นจนไม่ยอมพบปะใคร เหมือนกับแม่มดแห่งอาณาจักรแมวที่ไม่สู้หน้าผู้คน

สามวันต่อมาจากที่แมวแกไปกัดนกของเขาตาย ป้าจันทร์สมก็ได้ยินเสียงเอะอะตึงตังมาจากข้างบ้าน มีเสียงดังโครมที่ข้างฝาบ้านนั้น มีเสียงแมวร้องอย่างเจ็บปวด แล้วแมวของแกตัวหนึ่งก็กระเด็นตกลงมาจากชานบ้านชั้นบน มีเสียงด่าตามมา แมวตัวนั้นชักอยู่ที่พื้นดินครู่หนึ่ง แล้วก็คลานกระเสือกกระสนมาจนถึงบ้านและตายในเช้าวันรุ่งขึ้น มันถูกเตะกระเด็นไปติดข้างฝาด้วยไอ้โอ๊ป เพราะไปขี้ที่กระถางธูปที่ที่บูชาหัวนอนเตียงของบ้านนั้น !

ป้าจันทร์สมร้องไห้เงียบๆให้แมวตัวนั้นขณะที่ขุดหลุมฝังซากของมัน ...

....................................................................................

ประชาชนค่อนเมืองเดือดร้อนแสนสาหัส เมื่อฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน และน้ำป่าจากดอยหลากไหลลงสู่แม่น้ำ แล้วมันเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนริมน้ำและแถบที่ลุ่มอย่างรวดเร็ว หลายหมู่บ้านผู้คนต้องอยู่บนชั้นสองของบ้าน อดข้าวอดน้ำ รอความช่วยเหลือจากภายนอก

ที่หมู่บ้านของป้าจันทร์สม สถานการณ์น้ำท่วมไม่รุนแรงถึงขั้นนั้น น้ำท่วมแค่ค่อนแข้ง แม้แต่บ้านชั้นเดียวน้ำก็ไม่เข้าบ้าน ลำบากกันก็ตรงต้องเดินลุยน้ำออกจากบ้านไปทำมาหากินเท่านั้น

แต่ชาวบ้านที่เป็นเพื่อนบ้านป้าจันทร์สมก็ต้องพบทุกข์อีกอย่างหนึ่งซึ่งหมู่บ้านอื่นไม่มี บรรดาแมวของป้าจันทร์สมซึ่งไปแอบอิงอาศัยตามบ้านอื่นอยู่นั้นติดน้ำท่วม พวกมันลุยน้ำกลับไปกินข้าวที่บ้านไม่ได้และหิวจัดจนไม่กลัวคน

มันขโมยอาหารทุกอย่างที่ขวางหน้าเหมือนแมวป่าที่อดโซ ว่ากันว่ามันกล้าแย่งขนมจากมือเด็กสามขวบที่กำลังกินอยู่คนเดียว แล้วมันก็เที่ยวขี้ไว้เรี่ยราดตามพื้นห้องและในครัว บางบ้านมันขึ้นไปขี้แม้แต่บนที่นอนของเขา น้ำท่วมพื้นดินหมดจนมันไม่มีที่แห้งจะขี้อย่างเคย

เสียงก่นด่าแมวและเจ้าของของมันดังอยู่รอบๆบ้านป้าจันทร์สม ส่วนที่บ้านของแกเองสถานการณ์ร้ายไม่น้อยกว่าที่อื่น เพราะมีแมวอยู่หนาแน่นกว่าทุกบ้าน...ป้าจันทร์สมเองมีทุกข์ทั้งกายและใจ ปลาทูไม่มีขายในตลาด และแกต้องคอยเก็บกวาดขี้แมววันละเป็นสิบๆกองโยนทิ้งลงไปใต้ถุนบ้าน น้ำใต้ถุนบ้านของแกและบริเวณรอบๆเน่าเหม็นส่งกลิ่นไปทั่ว เสียงด่าทอและสาปแช่งแมวและตัวแกเองดังยิ่งขึ้น

สามวันน้ำก็ลดแต่ยังเฉอะแฉะ พื้นดินเป็นโคลนลื่น หลายบ้านต้องคอยเช็ดรอยตีนแมวที่แอบเข้ามากินอาหารบนโต๊ะซึ่งเขาลืมเก็บเข้าที่เข้าทาง ส่วนที่บ้านป้าจันทร์สม เมืองหลวงของอาณาจักรแมวนั้น บนพื้นบ้านมีแต่โคลนรอยตีนแมวสับสนไปหมด พวกแมวกลับมารวมกันอีกครั้งเพราะแกออกไปซื้อข้าวกับปลาทูมาได้แล้ว แต่จำนวนปลาทูนั้นลดลงด้วยราคาแพงขึ้นมากหลังน้ำท่วม พวกมันหิวจัดขึ้นกว่าแต่ก่อน...

ชายเพื่อนบ้านคนหนึ่งเดินอาดๆชูซากแมวสองตัวมาที่หน้าบ้านของเจ้าของของมัน

"ป้า ! เอาแมวของป้าไป มันไปกินยาเบื่อที่ฉันวางไว้เบื่อหนูเมื่อคืนนี้ " แล้วเขาก็โยนมันโครมลงตรงหน้าแก

ป้าจันทร์สมร้องไห้อีกครั้งขณะที่กำลังขุดหลุม แกรู้ว่าเขาตั้งใจจะวางยาเบื่อมัน เพราะหมู่บ้านนี้ไม่มีหนูมานานแล้ว คราวนี้แกร้องไห้ให้กับแมวทั้งสองตัวที่ตายไปและร้องไห้ให้กับตัวเองที่ได้สูญเสียเพื่อนบ้านไปจนหมดสิ้น คงมีอยู่ก็แต่คนข้างๆบ้านเท่านั้น !

นางแต้มเดินเข้ามาเคล้าแข้งเคล้าขาป้าจันทร์สม ช่างประจบเสียจริง ! แล้วก็เข้าไปดมซากเพื่อนของมันที่นอนนิ่งอยู่อย่างแปลกใจ ป้าจันทร์สมเพิ่งสังเกตเดี๋ยวนี้เองว่ามันตั้งท้องอีกแล้ว เป็นท้องที่สาม ! ...O

เมื่อวันที่ : 03 ก.ย. 2548, 20.54 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...