...

กบในสระน้ำ

กบตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในสระน้ำใกล้กุฎิพระ เช้าตรู่กบเห็นพระตื่นมาสวดมนต์ ครอง...

กบในสระน้ำ

กบตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในสระน้ำใกล้กุฎิพระ เช้าตรู่กบเห็นพระตื่นมาสวดมนต์ ครองผ้า พอสว่างก็ออกบิณฑบาตได้อาหารมาฉันเป็นเช่นนี้ทุกวัน กบก็อยากเป็นพระ เห็นว่าตัวเองหาใส่ปากใส่ท้องด้วยความยากลำบาก

อันตรายก็รอบทิศ เอาตัวไม่ค่อยรอด กบเลยร้อนใจอยากจะได้พระมาก เห็นความเป็นกบว่า แสนเลวร้ายลำบากลำบนเหลือจะทนทาน

ต่อมาเมื่อพระฉันอาหารอิ่มแล้ว ก็เอาข้าวสุกมาโปรยทานให้ไก่ กบเห็นไก่จิกกินอาหารสำราญใจก็เลยเปลี่ยนใจใหม่ เห็นว่าพระสู้ไก่ไม่ได้ กว่าจะได้อาหารมาฉัน ต้องตื่นแต่เช้ามืดไปเดินบิณฑบาตต้องเดินเสียแฮก

บางทีไปเหยียบขวดแตกได้แผลซะอีก สู้ไก่ไม่ได้อยู่กับที่ ถึงเวลาก็มีอาหารมาโปรยให้กินถึงที่ กบเลยคิดว่าทำอย่างไรถึงจะได้เป็นไก่กับเขาบ้าง เดินเกร่รออาหารสบาย ๆ
เผลอคิดอยู่ครู่เดียว หมดวัดตัวหนึ่งก็วิ่งมาแย่งอาหารไก่กินไก่กลัวมากัดตาย ต้องละอาหารแล้วหนีเอาตัวรอดไป

หมาก็ยึดอาหารกินอย่างสำราญ กบเห็นดังนั้นจึงหันไปชื่นชมหมาเห็นไก่ไม่เข้าท่าเสียแล้ว เห็นหมดเป็นวีรชน

คิดอยากเป็นหมดต่อไปอีก
ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในวัด หมากระโดดเข้าใส่ จะขบกัดชายนั้นก็เอาไม่รวกหวดหมาเข้าให้ หมดวิ่งร้องลั่น วิ่งหางจุกตูดหนีลับไป กบจึงเปลี่ยนใจ อยากจะเป็นคนที่ปราบหมาได้ชะงันนั่นอีกแล้ว
ชายผู้นั้นเดินเลยมานั่งตรงขอบสระที่กบอาศัยอยู่ เพราะเป้นกลางวันในฤดูร้อนจึงมีแมลงวันชุกชุมและมาตอมกวนชายนั้นเขารำคาญมากเลยลุกหนีไป บ่นลั่นว่า รำคาญแมลงวันเสียจริง กบได้ยินก็นึกว่า โธ่เอ๋ย..เก่งเสียเปล่า ปราบหมาได้ แต่แพ้แมลงวันกบเลยอยากเป็นแมลงวันท่าจะดีกว่า
กบกำลังเคลิ้ม

นึกอยากเป็นแมลงวันอยู่ พอดีแมลงวันตัวหนึ่งบินมาเกาะจมูกกบ ด้วยความเคยชิน กบก็ตวัดลิ้นม้วนแผล็บเอาแมลงวันเข้าปากกินเสีย พอรู้รสแมลงวันในปาก กบก็บรรลุสัจธรรมเลยว่า โธ่เอ๋ย...เป็นอะไรก็ไม่ดีเท่าเป็นตัวกูนี่แหละ...

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า " ถ้าเราอยากมีความสุขในชีวิต เราก็ต้องรู้จักวิธีดับไฟ "ไฟ" นี้ หลวงตากบอกว่าคือ "ความอยาก" อยากมี อยากเป็น อยากได้ อยากที่อยู่นอกเหนือวิสัยแห่งตน อยากไปก็มีแต่ทุกข์ ถ้าเราพยายามฝึกจิตใจให้ชื่นชมยินดีกับสมบัติของเรา ภาวะของตัวเรา มองทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับัวเราในแง่ดี เราก็จะมีแต่ความสุขในชีวิต แบบนี้อาจารย์ฝรั่งเคยสอนเราว่า " Dont search for the greener "

อย่านึกว่าหญ้าในสนามของคนอื่นจะเขียวกว่าหญ้าในสนามบ้านเรา ถ้าเราพอใจในบ้านเรา ที่ทำงานเรา ภรรยาเรา สามีเรา ลูกของเรา อย่าไปคิดแข่ง คิดเทียบเคียงกับของคนอื่น เราก็จะหาความสุขได้ง่าย ๆ และตลอดไป พอถึงตอนนี้เราก็เลยขอสารภาพว่า ตั้งแต่นี้ต่อไป

เราจะพอใจในรถโตโยต้าของเรา จะไม่อิจฉารถพอร์ชของคนข้างบ้าน
เราจะไม่อิจฉาเจ้านายเรา ที่ทำไมถึงรวยเอา ๆ เพราะพี่แกก็มีสมองพอที่จะรวยแบบนั้น
เราจะไม่เทียบตัวเราว่าอายุมากกว่าคนอื่น ๆ อีกต่อไปแล้ว แก่ ๆ แหละดี มีประสบการณ์เพียบ
เราจะพอใจกับทุกอย่างที่เรามี เราเป็น และเราเป็นเจ้าของ

เมื่อวันที่ : 01 ส.ค. 2548, 15.09 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...