นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๒๘ กรกฏาคม ๒๕๔๘
แทะ
รันนรา
...บรรยากาศใกล้ค่ำท่ามกลางละอองหมอก​​ที่เพิ่งเริ่มก่อตัว ทำให้เราเห็น​​ความสวยงามของธรรมชาติ ณ หมู่บ้านชายป่าแห่งนี้​​ได้มากยิ่งขึ้น​​.....
บรรยากาศใกล้ค่ำท่ามกลางละอองหมอก​ที่เพิ่งเริ่มก่อตัว ทำให้เราเห็น​ความสวยงามของธรรมชาติ ณ หมู่บ้านชายป่าแห่งนี้​ได้มากยิ่งขึ้น​

ดวงตะวันยังคงส่องแสงลำสุดท้ายจับอยู่​บนยอดไม้​เป็นสีส้มแดงบนพื้นใบไม้เขียว บาง​ส่วนสาดทะลุยอดไม้กระทบ​กับควันไฟจากการก่อฟืนติดไฟหุงต้มอาหาร มันลอยผสม​กับสายหมอกจนยาก​จะแยกแยะออกจากกัน​ได้ ถัดต่ำลงมา​เป็นทางสัญจรของหมู่บ้าน​ที่เกิดจากการย่ำ​และเดินมา​เป็นเวลานาน จนปรากฏ​เป็นหนทางขึ้น​​โดยมิ​ต้องโรยกรวดโรยดิน สองข้างทางมีบ้าน​ที่ปลูกขึ้น​หยาบ ๆ​ อยู่​เรียงราย หากเรามอง​ไปทางซ้ายของหนทางนั้น​ เรา​จะเห็นเด็กน้อยคนหนึ่ง​อุ้มน้องชายขี้มูกเกรอะไว้​ที่เอว เธอ​กำลังมองอะไร​อย่างหนึ่ง​​ที่ชายป่าติด​กับลานตากข้าวของหมู่บ้านด้วยดวงตา​ที่ตื่นเต้นเต็ม​ที่

ตอนแรกมันค่อยๆ​ โผล่​ส่วนจมูกออกมาก่อน เห็นมีสีแดงเรื่อขยับ​ไปมา​เพื่อสูดกลิ่น หนวด​ที่มีนิดหน่อย​นั้น​กระดิกตามจังหวะของปาก​ที่เดี๋ยวอ้าเดี๋ยวหุบจากการหายใจ หูของมันมีปลายแหลมตั้งชันส่ายร่อนรับคลื่นเสียงอยู่​เนืองนิจ ดวงตากลมแป๋วจ้องมองเธออย่างระแวดระวัง ใน​ที่สุดมันก็โผล่​ส่วนหัวออกมา​ได้​ทั้งหมด ​ส่วนลำตัวป้อมสั้นสีน้ำตาลแดงนั้น​ตามออกมาทีหลัง ส่ายห่างระรัวจนน่ากลัวว่า​จะหลุดออกจากก้น มันก้มๆ​ เงยๆ​ เดินอย่างกล้าๆ​ กลัวๆ​ มาหาเด็กหญิงคนนั้น​

เด็กน้อยทรุดลงนั่ง น้องชายยังอยู่​​ที่เอว เธอ​ใช้ผ้าผูกก้นน้องไว้แล้ว​สะพายชายผ้านั้น​ไขว้ไว้​ที่หัวไหล่ เธอจึงมีมือ​เป็นอิสระ​ทั้งสองมือ เธอปรบมือเบาๆ​ แล้ว​แบออก ตบพื้นเบาๆ​ แล้ว​กระดิกนิ้ว เธอทำอย่างนั้น​ซ้ำ​ไปมาจนหมาน้อยตัวนั้น​เข้ามาใกล้ให้ลูบหัว​ได้

เธอรู้ดีว่ามัน​เป็นหมาป่า ​ถ้า​เป็นหมาบ้าน​จะไม่ใช่ลักษณะอย่างงั้น มัน​เป็นลูกหมาตัวเล็กๆ​ ​ที่น่ารัก เธอชอบลูกหมา​ที่น่ารัก ​เพื่อนในวัยเดียวกัน​กับเธอก็ชอบลูกหมา แล้ว​เธอยังรู้อีกว่าพวกผู้ใหญ่ไม่ชอบลูกหมาป่า ​เพราะหมาป่า​เป็นศัตรู​กับพวกผู้ใหญ่​ที่​เป็นผู้ชาย มันชอบแอบเข้า​ไปขโมยสัตว์​ที่ตายจากการล่าของพวก​เขา มันชอบเข้ามาขโมยลูกหมูลูกไก่​ไปกิน หรือไม่ก็เนื้อตากแห้ง​ที่ผู้ใหญ่​เขาตาก​เอาไว้ นาน ๆ​ ทีพวกผู้ใหญ่ก็จับกลุ่มกันออกตามล่าฝูงหมาป่า​ที่บังเอิญผ่านเข้ามาเฉียดหมู่บ้าน อย่าง​เมื่อคืนนี้ไง พ่อของเธอก็​เป็นคนหนึ่ง​​ที่ร่วม​ไป​กับ​เขาด้วย ​เมื่อคืนเธอยัง​ได้ยินเสียงปืนแก๊ปดังปุ้งปุ้งจากในป่า เธอสะดุ้งตื่น​เพราะเสียงนั้น​ แม่ของเธอก็ตื่นเหมือนกัน ​แต่น้องชายไม่ตื่น เธอ​กับแม่จึงนอนหลับกันต่อ​ได้

ลูกหมาตัวนั้น​ยังไม่หยุดการส่ายหาง ตาสีดำลิ้นสีแดงขน​ที่ฟูนุ่มนั้น​ทำให้เด็กหญิงอดไม่​ได้​ที่​จะอุ้มมันขึ้น​มากอด​ที่อก น้องชายของเธอหัวร่อร่าชอบใจ ​ใช้มือตบ ๆ​ ​ที่หัวของมันเล่น จนมัน​ต้องปิดตาส่ายหน้าหลบ เธอจึง​ต้องจับมือน้อง​เอาไว้ไม่ให้​ไปตีมัน พอเธอเหลือมือเดียวมันก็ยืดหน้ายืดลิ้นเข้ามาเลียหน้าเลียปากเธอจนถึง​ต้องหลับตาปี๋ ​แต่มันก็ไม่หยุดจนเธอ​ต้องปล่อยมันสู่พื้น มันกระโดด​ไปมา หมอบบ้าง ​เอาหลังไถพื้นบ้าง บางทีก็ลุกขึ้น​ทำหางชี้​ใช้สองเท้าหน้าตะปบสลับกัน​ไปมา แล้ว​ก็ส่งเสียงเห่าดัง "อ๋อง"

เธอรีบจุ๊ปากดุมันให้มันเงียบเสียง มองซ้ายขวาว่ามีพวกผู้ใหญ่อยู่​บริเวณนั้น​หรือไม่ พอเห็นไม่มีเธอก็​จะอุ้มมันใหม่ ​แต่มันคงนึกว่าเธอ​กำลังเล่น​กับมัน มันจึงกระโดดหลบ เธอกระโจนจับ มันก็กระโดดหลบอีก กว่า​จะจับตัวมัน​ได้ก็เล่น​เอาเหนื่อย ​ส่วนน้องชาย​ที่เอวนั้น​ก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก​ไปตามประสา ตัวเขย่า​ไปด้วยตามจังหวะการกระโดดของเธอ ​เมื่อเห็นว่าน้องชอบเธอก็นึกสนุกขึ้น​มา ปล่อยตัวมัน​ไปอีกครั้ง คราวนี้ก็เลย​​ได้วิ่งไล่กันอย่างสนุกสนาน พอเธอวิ่งไล่มันก็วิ่งหนี พอเธอวิ่งหนีมันก็วิ่งไล่ พอเธอคว้ากิ้งไม้เล็ก ๆ​ ​ได้ เธอก็​เอา​ไปเขี่ยๆ​ ​ที่หน้าของมัน ใบไม้​ที่ยังเหลืออยู่​​ที่ปลายไม้ทำให้มันจั๊กจี้ มันก็เลย​ไล่งับ มันงับอยู่​สองสามทีก็งับ​ได้ แล้ว​มันก็ดึง เธอก็ดึง ประเดี๋ยวเธอก็แกล้งปล่อยให้มันก้นจ้ำเบ้า พอเธอเขี่ยแล้ว​มันงับ​ได้อีกครั้ง คราวนี้มันสะบัดหัว​ไปมาจนกิ่งไม้นั้น​ขาดคาปาก แล้ว​มันก็หยุดเล่น ปล่อยลิ้นห้อยออกมาหอบดังแฮ่กๆ​ นอนเหยียดขา​ทั้งสี่ออกมา​ทั้งสี่ทิศ เอียงคอมองเธอ​ไปมาปล่อยให้น้ำลายหยดติ๋ง ๆ​

เด็กน้อยนั้น​ก็เหนื่อย เหงื่อไหลพราวเต็มหน้า จน​ต้อง​ใช้แขนเสื้อเช็ดไม่ให้เหงื่อเข้าตา เธอนั่งยองๆ​ น้องยังอยู่​​ที่เอว หัว​กำลังคิดอยู่​ว่า​จะเล่น​กับมันอย่างไรต่อ​ไปดี ​แต่แล้ว​ก็​ได้ยินเสียงเรียกของแม่ เธอก็เลย​​ต้องลุกขึ้น​ ตั้งใจ​จะเดินกลับ ​แต่เจ้าลูกหมานั้น​กลับเดินตาม เธอหันกลับ​ไปส่งเสียงไล่ มันไม่รู้คงแปลไม่ออก ​ได้​แต่เอียงคอมอง คงนึกว่า​จะเล่น​กับมันอีก ใน​ที่สุดเด็กหญิง​ต้อง​ใช้ก้อนหินใกล้ ๆ​ ตัวขว้างเฉียด ๆ​ มัน มันจึงถอยห่างออก​ไป​ได้

เธอ​ทั้งเดิน​ทั้งวิ่ง​ไป​พร้อมๆ​ ​กับหันหลังมอง​ไปว่ามันตามมาหรือเปล่า จนกระทั่งถึงบ้าน ดี​ที่มันไม่ตามมา ​ถ้าแม่เห็นเธอคง​ต้องถูกดุแน่ แล้ว​ไอ้หมาน้อยนั่นก็​จะถูกตีด้วยไม้ถูกขว้างด้วยก้อนหิน สงสารมัน มันน่ารัก พรุ่งนี้​จะ​ไปเล่น​กับมันอีก ตอนแม่​ไปเก็บฝ้าย

แม่หุงข้าวเสร็จแล้ว​ ​พอดี​กับดวงตะวันหยุดส่องแสงอย่างสิ้นเชิง ​ความมืดมิดเข้ามาแทน​ที่ ทุกบ้านจุดตะเกียงเห็นเพียงแสงยิบ ๆ​ บ้านของเธอก็​ต้องจุดเหมือนกัน ควันจากน้ำมันก๊าดส่งกลิ่นหอม​ไปทั่วบ้าน เธอกินข้าว​กับแม่ แม่ป้อนน้อง​ไปด้วย น้องไม่ค่อยชอบกินข้าว ชอบกิน​แต่นมของแม่ ข้าวอร่อยออก ​แม้​แต่หมายังชอบกินเลย​ แม่ดุน้อง ใช่สิ ไอ้หมาน้อยนั่นมัน​ได้กินข้าวหรือยังนะ?

ก่อนนอนคืนนั้น​ เธอถามแม่ว่าทำไมพ่อถึงยังไม่กลับ แม่บอกว่าก็คนอื่นเข้าก็ยังไม่เห็นกลับ คง​จะพากันไล่ต้อนฝูงหมาป่าติดพันลึกเข้า​ไปในป่า พรุ่งนี้ก็คงกลับมาหรอก แล้ว​แม่ก็ให้เธอรีบนอน

เธอคิดถึงพ่อ พ่อชอบเล่านิทานให้ฟัง บางเรื่อง​ก็น่ากลัว​แต่สนุก บางเรื่อง​ก็น่าเบื่อ​แต่ก็ยังสนุก พ่อใจดีมาก เธอรักพ่อมาก ​และตอนนี้เธอก็คิดถึงพ่อมาก

เธอหลับ​ไปนานเท่าใดไม่รู้ เสียงพูดคุยจ้อกแจ้กดังอยู่​หน้าบ้านทำให้เธอตื่น ตะเกียงถูกจุดขึ้น​ตั้งแต่​เมื่อไหร่ก็ไม่รู้อีกน่ะแหละ​ เธอมองไม่เห็นแม่ น้องชายของเธอหลับอยู่​ข้าง ๆ​ แม่​ไปไหน?

เสียงแม่อุทานอะไร​ออกมาคำหนึ่ง​ แล้ว​ร้องไห้ เธอใจหายวูบ ผลุดลุกขึ้น​​ได้ก็กระโจนหวือออก​ไปทันที

มีผู้ใหญ่​ทั้งผู้ชายผู้หญิงมาชุมนุมอยู่​หน้าบ้านของเธอ มีบางคนถือคบไฟมาด้วย เธอเห็นแม่ของเธอยืนร้องไห้อยู่​ในอ้อมกอดของป้าข้างบ้าน เธอรีบวิ่ง​ไปกอดเอวแม่ เธอตกใจ​กับเหตุการณ์​ที่เกิดขึ้น​จนทำอะไร​ไม่ถูก

พ่อของแกถูกหมาป่ารุมกัดตาย พ่อของแกตายแล้ว​!!

คำพูดของแม่เหมือนฟ้าผ่าลงมา เหมือนต้นไม้ต้นใหญ่ล้มใส่หัว เหมือนปีนต้นไม้อยู่​ดี ๆ​ แล้ว​กิ่งไม้​ที่ยืนอยู่​ก็หักเป๊าะจนเธอตกวูบลงมา เธอกอดแม่แน่น ตกใจจนลืมร้องไห้

ในวินาทีนั้น​ สายตาของเด็กหญิง ก็เห็นเจ้าหมาน้อยตัวนั้น​เดินส่ายหางออกมาจากใต้ถุนบ้าน มันตรงมา​ที่เธอ ตาของมันยังแป๋ว หูของมันยังตั้งชัน ลิ้นของมันยังคงห้อยน้ำลายหยด มันดีใจ​ที่เห็นเธออีกครั้ง

​แต่เธอไม่​ได้เห็นมันเพียงคนเดียว มี​ใครคนหนึ่ง​ในกลุ่มนั้น​เห็นมันเข้าด้วย ตะโกนออกมาว่า เฮ้ย ลูกหมาป่านี่หว่า ฆ่ามัน

ทุกคนไหวตัวพรึบ เจ้าหมาน้อยหรุบหาง หมอบต่ำอยู่​​กับ​ที่​เพราะตกใจ ดวงตาของมันแสดงอาการหวาดกลัวออกมาจนเธอเห็น​ได้ชัด ลิ้นของมันหุบเข้า​ไปในปากแล้ว​ หูของมันเอนลู่แนบหัว แล้ว​เธอก็​ได้เห็นมันถูกผู้ชายคนหนึ่ง​​เอาไม้ตีเข้า​ไป​ที่หลังของมันเต็มแรง มันร้องเอ๋ง ดิ้นพราด

แล้ว​ไม้ดุ้นใหญ่ดุ้นเล็ก เท้า​ทั้งใหญ่​และเล็ก ประดังระดมเข้าหามันอย่างไม่นับ เธอ​ได้ยินเสียงมันร้องอีกไม่กี่ครั้ง ร่างของมันก็นอนแนบอยู่​​กับพื้น เลือดไหลออกจากปาก หางของมันยังกระดุกกระดิก หายใจรวยริน

แม่ของเธอสลัดให้เธอปล่อยมือจากอาการกอดแน่นนั้น​ ตรง​ไป​ที่ร่างของมัน แล้ว​กระทืบ กระทืบ ด้วย​ความแค้น

เด็กน้อยยัดมือเข้าปาก ดวงตาเบิกกว้าง กำมือแน่น เธอมองร่างของลูกหมาตัวนั้น​ กระดอนขึ้น​จากแรงกระทืบของแม่ ​ทั้งฝุ่น​ทั้งเลือด คละเคล้าจนคล้ายก้อนเนื้อตกดินก้อนหนึ่ง​

หางของมันไม่กระดิกแล้ว​..

เด็กหญิงคนนั้น​ หลบ​ไปนั่งขดตัวอยู่​​ที่โคนเสาบ้าน มือซ้ายยังคาอยู่​ในปาก มือขวายังกำแน่น ดวงตายังเบิกกว้าง หากแห้งผาก ​และแดงก่ำ

เธอ​กำลังมองตามผู้ชายกลุ่มหนึ่ง​ ​ที่หามร่างของพ่อใส่แคร่มา แม่โผเข้าหาร่างพ่อ ร้องไห้ฟูมฟายเกลือกกลิ้ง​ไปมา พวก​เขาวางพ่อลง ลุงผู้ใหญ่สั่งให้คนถือคบไฟส่องไฟ​ไป​ที่ร่างพ่อให้เห็นชัด ๆ​ ​เพื่อสำรวจบาดแผลหาสาเหตุการตาย​เพื่อแจ้งนายอำเภอตามหน้า​ที่

บรรยากาศรอบตัวเต็ม​ไปด้วย​ความโศกเศร้า​และ​ความแค้นเ​คือง ​ความหนาวเย็นกดทับจนรู้สึก​ได้จากหยาดน้ำค้าง​ที่เริ่มก่อตัว ภายใต้แสงวอบแวมนั้น​ มีการพูดคุยกัน​ระหว่างผู้ใหญ่​ที่รายล้อมร่างของพ่อ เธอเห็นละอองน้ำพวยพุ่งออกจากปากคนนี้บ้าง คนนั้น​บ้าง ​เป็นเสียง​ที่เบาแทบ​จะจับใจ​ความไม่​ได้

แล้ว​เธอก็​ได้ยินลุงผู้ใหญ่ บอกเสียงดัง​กับทุกคนขึ้น​ว่า

"เฮ้ย..นี่มันรอยเสือตะปบนี่หว่า เปิดกระโหลกเบ้อ​ไปเลย​ ไอ้รอยเล็ก ๆ​ นี่ มัน​เป็นรอยเขี้ยวหมาป่า ​ที่​ได้​แต่แทะซากเท่านั้น​.."

"หมาป่า มัน​ได้​แต่แทะซากเท่านั้น​!!!"

*******

 

F a c t   C a r d
Article ID A-1090 Article's Rate 7 votes
ชื่อเรื่อง แทะ
ผู้แต่ง รันนรา
ตีพิมพ์เมื่อ ๒๘ กรกฏาคม ๒๕๔๘
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องสั้น
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๖๖๘ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๖ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๒๙
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : ศาลานกน้อย [C-5408 ], [000.000.000.000]
เมื่อวันที่ : 28 ก.ค. 2548, 21.59 น.

ผู้อ่าน​ที่รัก,

นิตยสารรายสะดวก​ ​และผู้เขียนยินดีรับฟัง​ความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดง​ความเห็น​ได้​โดยอิสระ ขอขอบคุณ​และรู้สึก​เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมี​ส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : Poceille โหมดพูดอะไรไม่ออกค่ะ [C-5426 ], [202.57.175.164]
เมื่อวันที่ : 30 ก.ค. 2548, 15.34 น.

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๓ : Rotjana Geneva [C-5438 ], [212.152.12.248]
เมื่อวันที่ : 31 ก.ค. 2548, 21.49 น.

เขียนน่าอ่านเหมือนเคยค่ะ​ อ่านจบแล้ว​กลับ​ไปดูชื่อเรื่อง​ใหม่อีกครั้ง เหมาะเจาะจริง ๆ​
อนิจจา คนเรายามโกรธแค้นก็หา​ที่ลง​ได้​แม้​กับลูกสัตว์ไร้เดียงสา เรามัก​จะโกรธแล้ว​พาล​เอา​กับทุกอย่างรอบข้างจริง ๆ​ ​โดยเฉพาะ​ถ้า​เป็นคนหรือสัตว์​ที่สู้กลับไม่​ได้...​..อ่านแล้ว​​ได้​แต่ปลงว่า สัตว์​ที่ดุร้ายยิ่งกว่าสัตว์​ทั้งหลายก็​คือสัตว์สองเท้านี่เอง

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๔ : คนไกลบ้าน [C-5458 ], [211.76.97.247]
เมื่อวันที่ : 02 ส.ค. 2548, 09.07 น.

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๕ : pilgrim [C-5463 ], [158.125.1.112]
เมื่อวันที่ : 02 ส.ค. 2548, 15.39 น.

น่าสงสารลูกหมาป่านะคะ​ เรื่อง​นี้ให้บทเรียนสอนใจหลายๆ​อย่างค่ะ​ สิ่งแรก​ที่วูบขึ้น​มาในใจ ​คือ เราไม่ควรด่วนสรุปอะไร​เร็วเกิน​ไป

คุณรันนราเขียนเรื่อง​​ได้ดีสม่ำเสมอค่ะ​บทบรรยายทำ​ได้ดีมากค่ะ​ระวังเรื่อง​คำถูก คำผิด(อาจพิมพ์ผิด)อีกนิด แจ๋วเลย​ค่ะ​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๖ : blackapple [C-7506 ], [203.153.137.152]
เมื่อวันที่ : 01 พ.ค. 2549, 08.08 น.

น่าสงสารลูกหมาป่าตัวนั้น​จัง

ทำไมคนเราเวลาโกรธถึง​ได้ไร้สติอย่างนี้ ไม่ยอมสืบหา​ความจริงก่อน

แล้ว​ก็มานึกเสียใจทีหลัง

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น