![]() |
![]() |
รันนรา![]() |
ดวงตะวันยังคงส่องแสงลำสุดท้ายจับอยู่บนยอดไม้เป็นสีส้มแดงบนพื้นใบไม้เขียว บางส่วนสาดทะลุยอดไม้กระทบกับควันไฟจากการก่อฟืนติดไฟหุงต้มอาหาร มันลอยผสมกับสายหมอกจนยากจะแยกแยะออกจากกันได้ ถัดต่ำลงมาเป็นทางสัญจรของหมู่บ้านที่เกิดจากการย่ำและเดินมาเป็นเวลานาน จนปรากฏเป็นหนทางขึ้นโดยมิต้องโรยกรวดโรยดิน สองข้างทางมีบ้านที่ปลูกขึ้นหยาบ ๆ อยู่เรียงราย หากเรามองไปทางซ้ายของหนทางนั้น เราจะเห็นเด็กน้อยคนหนึ่งอุ้มน้องชายขี้มูกเกรอะไว้ที่เอว เธอกำลังมองอะไรอย่างหนึ่งที่ชายป่าติดกับลานตากข้าวของหมู่บ้านด้วยดวงตาที่ตื่นเต้นเต็มที่
ตอนแรกมันค่อยๆ โผล่ส่วนจมูกออกมาก่อน เห็นมีสีแดงเรื่อขยับไปมาเพื่อสูดกลิ่น หนวดที่มีนิดหน่อยนั้นกระดิกตามจังหวะของปากที่เดี๋ยวอ้าเดี๋ยวหุบจากการหายใจ หูของมันมีปลายแหลมตั้งชันส่ายร่อนรับคลื่นเสียงอยู่เนืองนิจ ดวงตากลมแป๋วจ้องมองเธออย่างระแวดระวัง ในที่สุดมันก็โผล่ส่วนหัวออกมาได้ทั้งหมด ส่วนลำตัวป้อมสั้นสีน้ำตาลแดงนั้นตามออกมาทีหลัง ส่ายห่างระรัวจนน่ากลัวว่าจะหลุดออกจากก้น มันก้มๆ เงยๆ เดินอย่างกล้าๆ กลัวๆ มาหาเด็กหญิงคนนั้น
เด็กน้อยทรุดลงนั่ง น้องชายยังอยู่ที่เอว เธอใช้ผ้าผูกก้นน้องไว้แล้วสะพายชายผ้านั้นไขว้ไว้ที่หัวไหล่ เธอจึงมีมือเป็นอิสระทั้งสองมือ เธอปรบมือเบาๆ แล้วแบออก ตบพื้นเบาๆ แล้วกระดิกนิ้ว เธอทำอย่างนั้นซ้ำไปมาจนหมาน้อยตัวนั้นเข้ามาใกล้ให้ลูบหัวได้
เธอรู้ดีว่ามันเป็นหมาป่า ถ้าเป็นหมาบ้านจะไม่ใช่ลักษณะอย่างงั้น มันเป็นลูกหมาตัวเล็กๆ ที่น่ารัก เธอชอบลูกหมาที่น่ารัก เพื่อนในวัยเดียวกันกับเธอก็ชอบลูกหมา แล้วเธอยังรู้อีกว่าพวกผู้ใหญ่ไม่ชอบลูกหมาป่า เพราะหมาป่าเป็นศัตรูกับพวกผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ชาย มันชอบแอบเข้าไปขโมยสัตว์ที่ตายจากการล่าของพวกเขา มันชอบเข้ามาขโมยลูกหมูลูกไก่ไปกิน หรือไม่ก็เนื้อตากแห้งที่ผู้ใหญ่เขาตากเอาไว้ นาน ๆ ทีพวกผู้ใหญ่ก็จับกลุ่มกันออกตามล่าฝูงหมาป่าที่บังเอิญผ่านเข้ามาเฉียดหมู่บ้าน อย่างเมื่อคืนนี้ไง พ่อของเธอก็เป็นคนหนึ่งที่ร่วมไปกับเขาด้วย เมื่อคืนเธอยังได้ยินเสียงปืนแก๊ปดังปุ้งปุ้งจากในป่า เธอสะดุ้งตื่นเพราะเสียงนั้น แม่ของเธอก็ตื่นเหมือนกัน แต่น้องชายไม่ตื่น เธอกับแม่จึงนอนหลับกันต่อได้
ลูกหมาตัวนั้นยังไม่หยุดการส่ายหาง ตาสีดำลิ้นสีแดงขนที่ฟูนุ่มนั้นทำให้เด็กหญิงอดไม่ได้ที่จะอุ้มมันขึ้นมากอดที่อก น้องชายของเธอหัวร่อร่าชอบใจ ใช้มือตบ ๆ ที่หัวของมันเล่น จนมันต้องปิดตาส่ายหน้าหลบ เธอจึงต้องจับมือน้องเอาไว้ไม่ให้ไปตีมัน พอเธอเหลือมือเดียวมันก็ยืดหน้ายืดลิ้นเข้ามาเลียหน้าเลียปากเธอจนถึงต้องหลับตาปี๋ แต่มันก็ไม่หยุดจนเธอต้องปล่อยมันสู่พื้น มันกระโดดไปมา หมอบบ้าง เอาหลังไถพื้นบ้าง บางทีก็ลุกขึ้นทำหางชี้ใช้สองเท้าหน้าตะปบสลับกันไปมา แล้วก็ส่งเสียงเห่าดัง "อ๋อง"
เธอรีบจุ๊ปากดุมันให้มันเงียบเสียง มองซ้ายขวาว่ามีพวกผู้ใหญ่อยู่บริเวณนั้นหรือไม่ พอเห็นไม่มีเธอก็จะอุ้มมันใหม่ แต่มันคงนึกว่าเธอกำลังเล่นกับมัน มันจึงกระโดดหลบ เธอกระโจนจับ มันก็กระโดดหลบอีก กว่าจะจับตัวมันได้ก็เล่นเอาเหนื่อย ส่วนน้องชายที่เอวนั้นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากไปตามประสา ตัวเขย่าไปด้วยตามจังหวะการกระโดดของเธอ เมื่อเห็นว่าน้องชอบเธอก็นึกสนุกขึ้นมา ปล่อยตัวมันไปอีกครั้ง คราวนี้ก็เลยได้วิ่งไล่กันอย่างสนุกสนาน พอเธอวิ่งไล่มันก็วิ่งหนี พอเธอวิ่งหนีมันก็วิ่งไล่ พอเธอคว้ากิ้งไม้เล็ก ๆ ได้ เธอก็เอาไปเขี่ยๆ ที่หน้าของมัน ใบไม้ที่ยังเหลืออยู่ที่ปลายไม้ทำให้มันจั๊กจี้ มันก็เลยไล่งับ มันงับอยู่สองสามทีก็งับได้ แล้วมันก็ดึง เธอก็ดึง ประเดี๋ยวเธอก็แกล้งปล่อยให้มันก้นจ้ำเบ้า พอเธอเขี่ยแล้วมันงับได้อีกครั้ง คราวนี้มันสะบัดหัวไปมาจนกิ่งไม้นั้นขาดคาปาก แล้วมันก็หยุดเล่น ปล่อยลิ้นห้อยออกมาหอบดังแฮ่กๆ นอนเหยียดขาทั้งสี่ออกมาทั้งสี่ทิศ เอียงคอมองเธอไปมาปล่อยให้น้ำลายหยดติ๋ง ๆ
เด็กน้อยนั้นก็เหนื่อย เหงื่อไหลพราวเต็มหน้า จนต้องใช้แขนเสื้อเช็ดไม่ให้เหงื่อเข้าตา เธอนั่งยองๆ น้องยังอยู่ที่เอว หัวกำลังคิดอยู่ว่าจะเล่นกับมันอย่างไรต่อไปดี แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเรียกของแม่ เธอก็เลยต้องลุกขึ้น ตั้งใจจะเดินกลับ แต่เจ้าลูกหมานั้นกลับเดินตาม เธอหันกลับไปส่งเสียงไล่ มันไม่รู้คงแปลไม่ออก ได้แต่เอียงคอมอง คงนึกว่าจะเล่นกับมันอีก ในที่สุดเด็กหญิงต้องใช้ก้อนหินใกล้ ๆ ตัวขว้างเฉียด ๆ มัน มันจึงถอยห่างออกไปได้
เธอทั้งเดินทั้งวิ่งไปพร้อมๆ กับหันหลังมองไปว่ามันตามมาหรือเปล่า จนกระทั่งถึงบ้าน ดีที่มันไม่ตามมา ถ้าแม่เห็นเธอคงต้องถูกดุแน่ แล้วไอ้หมาน้อยนั่นก็จะถูกตีด้วยไม้ถูกขว้างด้วยก้อนหิน สงสารมัน มันน่ารัก พรุ่งนี้จะไปเล่นกับมันอีก ตอนแม่ไปเก็บฝ้าย
แม่หุงข้าวเสร็จแล้ว พอดีกับดวงตะวันหยุดส่องแสงอย่างสิ้นเชิง ความมืดมิดเข้ามาแทนที่ ทุกบ้านจุดตะเกียงเห็นเพียงแสงยิบ ๆ บ้านของเธอก็ต้องจุดเหมือนกัน ควันจากน้ำมันก๊าดส่งกลิ่นหอมไปทั่วบ้าน เธอกินข้าวกับแม่ แม่ป้อนน้องไปด้วย น้องไม่ค่อยชอบกินข้าว ชอบกินแต่นมของแม่ ข้าวอร่อยออก แม้แต่หมายังชอบกินเลย แม่ดุน้อง ใช่สิ ไอ้หมาน้อยนั่นมันได้กินข้าวหรือยังนะ?
ก่อนนอนคืนนั้น เธอถามแม่ว่าทำไมพ่อถึงยังไม่กลับ แม่บอกว่าก็คนอื่นเข้าก็ยังไม่เห็นกลับ คงจะพากันไล่ต้อนฝูงหมาป่าติดพันลึกเข้าไปในป่า พรุ่งนี้ก็คงกลับมาหรอก แล้วแม่ก็ให้เธอรีบนอน
เธอคิดถึงพ่อ พ่อชอบเล่านิทานให้ฟัง บางเรื่องก็น่ากลัวแต่สนุก บางเรื่องก็น่าเบื่อแต่ก็ยังสนุก พ่อใจดีมาก เธอรักพ่อมาก และตอนนี้เธอก็คิดถึงพ่อมาก
เธอหลับไปนานเท่าใดไม่รู้ เสียงพูดคุยจ้อกแจ้กดังอยู่หน้าบ้านทำให้เธอตื่น ตะเกียงถูกจุดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้อีกน่ะแหละ เธอมองไม่เห็นแม่ น้องชายของเธอหลับอยู่ข้าง ๆ แม่ไปไหน?
เสียงแม่อุทานอะไรออกมาคำหนึ่ง แล้วร้องไห้ เธอใจหายวูบ ผลุดลุกขึ้นได้ก็กระโจนหวือออกไปทันที
มีผู้ใหญ่ทั้งผู้ชายผู้หญิงมาชุมนุมอยู่หน้าบ้านของเธอ มีบางคนถือคบไฟมาด้วย เธอเห็นแม่ของเธอยืนร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของป้าข้างบ้าน เธอรีบวิ่งไปกอดเอวแม่ เธอตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก
พ่อของแกถูกหมาป่ารุมกัดตาย พ่อของแกตายแล้ว!!
คำพูดของแม่เหมือนฟ้าผ่าลงมา เหมือนต้นไม้ต้นใหญ่ล้มใส่หัว เหมือนปีนต้นไม้อยู่ดี ๆ แล้วกิ่งไม้ที่ยืนอยู่ก็หักเป๊าะจนเธอตกวูบลงมา เธอกอดแม่แน่น ตกใจจนลืมร้องไห้
ในวินาทีนั้น สายตาของเด็กหญิง ก็เห็นเจ้าหมาน้อยตัวนั้นเดินส่ายหางออกมาจากใต้ถุนบ้าน มันตรงมาที่เธอ ตาของมันยังแป๋ว หูของมันยังตั้งชัน ลิ้นของมันยังคงห้อยน้ำลายหยด มันดีใจที่เห็นเธออีกครั้ง
แต่เธอไม่ได้เห็นมันเพียงคนเดียว มีใครคนหนึ่งในกลุ่มนั้นเห็นมันเข้าด้วย ตะโกนออกมาว่า เฮ้ย ลูกหมาป่านี่หว่า ฆ่ามัน
ทุกคนไหวตัวพรึบ เจ้าหมาน้อยหรุบหาง หมอบต่ำอยู่กับที่เพราะตกใจ ดวงตาของมันแสดงอาการหวาดกลัวออกมาจนเธอเห็นได้ชัด ลิ้นของมันหุบเข้าไปในปากแล้ว หูของมันเอนลู่แนบหัว แล้วเธอก็ได้เห็นมันถูกผู้ชายคนหนึ่งเอาไม้ตีเข้าไปที่หลังของมันเต็มแรง มันร้องเอ๋ง ดิ้นพราด
แล้วไม้ดุ้นใหญ่ดุ้นเล็ก เท้าทั้งใหญ่และเล็ก ประดังระดมเข้าหามันอย่างไม่นับ เธอได้ยินเสียงมันร้องอีกไม่กี่ครั้ง ร่างของมันก็นอนแนบอยู่กับพื้น เลือดไหลออกจากปาก หางของมันยังกระดุกกระดิก หายใจรวยริน
แม่ของเธอสลัดให้เธอปล่อยมือจากอาการกอดแน่นนั้น ตรงไปที่ร่างของมัน แล้วกระทืบ กระทืบ ด้วยความแค้น
เด็กน้อยยัดมือเข้าปาก ดวงตาเบิกกว้าง กำมือแน่น เธอมองร่างของลูกหมาตัวนั้น กระดอนขึ้นจากแรงกระทืบของแม่ ทั้งฝุ่นทั้งเลือด คละเคล้าจนคล้ายก้อนเนื้อตกดินก้อนหนึ่ง
หางของมันไม่กระดิกแล้ว..
เด็กหญิงคนนั้น หลบไปนั่งขดตัวอยู่ที่โคนเสาบ้าน มือซ้ายยังคาอยู่ในปาก มือขวายังกำแน่น ดวงตายังเบิกกว้าง หากแห้งผาก และแดงก่ำ
เธอกำลังมองตามผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ที่หามร่างของพ่อใส่แคร่มา แม่โผเข้าหาร่างพ่อ ร้องไห้ฟูมฟายเกลือกกลิ้งไปมา พวกเขาวางพ่อลง ลุงผู้ใหญ่สั่งให้คนถือคบไฟส่องไฟไปที่ร่างพ่อให้เห็นชัด ๆ เพื่อสำรวจบาดแผลหาสาเหตุการตายเพื่อแจ้งนายอำเภอตามหน้าที่
บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความแค้นเคือง ความหนาวเย็นกดทับจนรู้สึกได้จากหยาดน้ำค้างที่เริ่มก่อตัว ภายใต้แสงวอบแวมนั้น มีการพูดคุยกันระหว่างผู้ใหญ่ที่รายล้อมร่างของพ่อ เธอเห็นละอองน้ำพวยพุ่งออกจากปากคนนี้บ้าง คนนั้นบ้าง เป็นเสียงที่เบาแทบจะจับใจความไม่ได้
แล้วเธอก็ได้ยินลุงผู้ใหญ่ บอกเสียงดังกับทุกคนขึ้นว่า
"เฮ้ย..นี่มันรอยเสือตะปบนี่หว่า เปิดกระโหลกเบ้อไปเลย ไอ้รอยเล็ก ๆ นี่ มันเป็นรอยเขี้ยวหมาป่า ที่ได้แต่แทะซากเท่านั้น.."
"หมาป่า มันได้แต่แทะซากเท่านั้น!!!"
*******
เมื่อวันที่ : 28 ก.ค. 2548, 21.59 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...