...และวันหนึ่งเมื่อถึงเวลา เขาจะแต่งงานและมีลูกเต้าสืบสายชีวิตอย่างที่พ่อแม่เขาแต่งงานและมีพวกเขาขึ้นมา ......

ที่นี่มีฟ้ากว้างเป็นหลังคา มีดอยสูงเป็นกำแพง มีที่ราบลุ่มอันอุดมสมบูรณ์ซึ่ง "แม่น้ำม้า" แม่น้ำสายเล็กๆที่ใสสะอาดพัดพาดินตะกอนอันโอชะสำหรับธัญญพืชไหลผ่าน มันหล่อเลี้ยงนานาชีวิตของชุมชนแห่งนี้มานาน ..นานนับหลายชั่ว อายุคน

บรรพบุรุษของเขาลงหลักปักฐานกันที่นี่มานับร้อยๆปีแล้ว พวกเขาเกิดที่นี่ โตที่นี่อยู่ที่นี่ และคงจะตายที่นี่เหมือนอย่างที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคยอยู่และตายไป

พวกเขาทำนาอย่างที่บรรพบุรุษเคยทำ เลี้ยงไก่เลี้ยงหมูและจับปลาอย่างที่บรรพบุรุษเคยทำ

ในน้ำมีปลาและในนาก็มีข้าว เงินทองคือมายา ข้าวปลาคือของจริง ! น้ำมันซึ่งเป็นพลังงานสำคัญยิ่งของคนค่อนโลก ไม่มีความหมายกับที่นี่สักเท่าใด

วิถีชีวิตที่นี่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องน้ำกินและน้ำใช้ พวกเขาเป็นและอยู่อย่างที่บรรพบุรุษเคยเป็นและเคยอยู่ เขาไม่รู้จักระบบเงินผ่อน ไม่เคยได้ยินคำว่าเงินเฟ้อ ที่นี่ไม่มีคนเครียดจนต้องไปกระโดดตึก

ชีวิตพวกเขาช่างเรียบง่าย มีความพอเพียงที่จะอยู่กับทุ่งนาป่าเขาและสายน้ำที่ใสสะอาด

ที่นี่ไม่มีห้างใหญ่ที่ขายสารพัดสิ่งซึ่งมีลดแลกแจกแถม แต่มีตลาดสดที่ซื้อขายต่อรองกันได้ตามอัธยาศัย เป็นอย่างนี้มานับร้อยปี

สร้อยทองเส้นนี้ไม่ใช่มายา และข้าวปลาก็เป็นของจริง

เธอยิ้มจากใจ และภาคภูมิใจในเข็มขัดเงินที่คาดอยู่ มันเป็นสิ่งแสดงสถานะของที่นี่

เด็กๆหน้าตาสดใสและอ่อนโยน บริสุทธิ์เหมือนข้าวกล้าที่เขียวขจีในต้นฤดูฝน...

พวกเขาพอใจที่ได้อยู่บ้านกับพ่อแม่ และพอใจที่ได้อยู่โรงเรียนซึ่งไม่ต้องมีกวดวิชาตอนค่ำหลังเลิกเรียน ไม่เคยรบเร้าให้พ่อแม่ซื้อโทรศัพท์มือถือ... พวกเขาไม่รู้จักระบบ SMS ...ไม่เคยได้ยินคำว่าเกมออนไลน์แต่ก็มีความสนุกสนานและร่าเริงตามประสาเด็ก

เขาจะโตขึ้นอย่างที่พ่อเขาโตขึ้นมา เขาจะทำนาทำไร่อย่างที่พ่อเขาทำ เขาจะจับปลา เลี้ยงไก่และเลี้ยงหมูอย่างที่พ่อทำ เขาจะเป็นช่างไม้ปลูกบ้านอย่างที่เคยเห็นพ่อและปู่ทำ

และวันหนึ่งเมื่อถึงเวลา เขาจะแต่งงานและมีลูกเต้าสืบสายชีวิตอย่างที่พ่อแม่เขาแต่งงานและมีพวกเขาขึ้นมา ...

...หวังว่าเทพแห่งแม่น้ำม้าคงจะช่วยปกปักรักษาพวกเขาไว้ มิให้ลัทธิทุนนิยมและวัตถุนิยมเข้าไปทำลายวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สงบและงดงามของเขาเร็วนัก... อย่างที่มันกำลังทำลายเราอยู่ !

แม้จะเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยของประเทศ แต่วิถีชีวิตของพวกเขาช่างน่าอิจฉา เขาคือ "คนไต" แห่งเมืองลาในรัฐฉานที่อยู่ติดประเทศจีน พวกเขาเลือกเกิดไม่ได้ อย่างที่เราก็เลือกเกิดไม่ได้ ... เช่นเดียวกันกับผมที่เลือกเกิดไม่ได้ ! แต่ถ้าเลือกเกิดได้ผมคงไม่รังเกียจที่จะเกิดที่นี่ !
ด้วยความรู้สึกที่แสนดี
ชาร ทิคัมพร

24 กรกฎาคม 2548

เมื่อวันที่ : 24 ก.ค. 2548, 06.19 น.
เงินทองคือมายา ข้าวปลาคือของจริง <-- ชอบคำนี้จริง ๆ
ในความคิดส่วนตัวผมว่าระบบเงินตรานี่แหละที่ทำให้ผู้คนห่างเหินกัน ถ้าไม่มีระบบเงินตรา การจะซื้อขายของกินของใช้ ก็คงใช้ระบบแลกเปลี่ยน (bartering) สินค้าต่างชนิดจะแลกเปลี่ยนกันได้ ก็ต้องประนีประนอม ต้องผ่อนปรนถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน มิเช่นนั้นจะแลกเปลี่ยนกันไม่สำเร็จ เช่นต้องการเอาไข่ ไปแลกข้าว จะต้องใช้ไข่จำนวนเท่าใดแลกข้าวสักหนึ่งถัง ทั้งสองฝ่ายหนีไม่พ้นต้องประนีประนอม ผลที่ได้คือ หลังจากการซื้อขายทั้งสองฝ่ายจะเกิดความสัมพันธ์ รู้สึกติดค้าง มีเยื่อใย จากการที่ทั้งสองฝ่ายผ่อนปรนต่อกัน
แต่พอมีระบบเงินตรา ของทุกอย่างถูกตีค่าเป็นจำนวนเงิน การซื้อขายก็ง่าย ไม่ต้องรู้จักกันก็ซื้อขายกันได้ ซื้อขายแล้วก็แล้วกัน ไม่เหลือเยื่อใยผูกพันอะไรต่อกัน และทุกวันนี้พ่อค้าก็พัฒนาวิธีการซื้อขายที่ซับซ้อนขึ้น จนไม่ต้องเห็นหน้าค่าตากันก็โกงกันได้แล้ว
สรุปว่า เงินนะแหละ ไอ้ตัวดี ว่าไม๊ !
ว่าแต่ว่าชุมชนนี้มีอินเตอร์เน็ตไหมครับ ถ้ามีผมจะขอไปอยู่ด้วยคน