นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๐๓ กรกฏาคม ๒๕๔๘
หนูสิงห์..ภาค 2/4
รันนรา
...การ​​เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ​​ ​​ที่ถูกบังคับให้นั่งหรือนอนนิ่ง ๆ​​ ​​เป็นอะไร​​​​ที่อึดอัดอย่างแท้จริง นี่​​ถ้าผมไม่กลัวเจ้าโจรจับผมโยนจากรถล่ะก้อ..ผมคงไม่นั่งเฉย ๆ​​...
การ​เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ​ ​ที่ถูกบังคับให้นั่งหรือนอนนิ่ง ๆ​ ​เป็นอะไร​​ที่อึดอัดอย่างแท้จริง
นี่​ถ้าผมไม่กลัวเจ้าโจรจับผมโยนจากรถล่ะก้อ..ผมคงไม่นั่งเฉย ๆ​ อย่างนี้แน่ ๆ​
​ใคร​ที่ไม่เคยนั่งรถบรรทุก..​จะไม่รู้หรอกว่ารถประเภทนี้มีโช๊คก็เหมือนไม่มี
ตกหลุมทีคอแทบย่นลงมาอยู่​​ที่ก้น..​แม้​จะไม่มีหลุมให้ตก มันก็​จะสั่นสะท้านของมัน​ไปเรื่อย
จึง​เป็นเรื่อง​ไม่แปลก​ที่นมในท้องของผม​จะย่อยเร็ว ​เมื่อย่อยเร็วก็​ต้องกลาย​เป็นของเสียเร็ว
ไอ้​ส่วน​ที่​เป็นน้ำก็พุ่งปรี๊ดออกมา..ไอ้​ส่วน​ที่​เป็นเนื้อก็ไหลปรื๊ดออกมา
"กลิ่นไรวะ?.." โจรใจฉกาจถามแบบไม่น่าถาม
"อื้อ.." ผมตอบ
"อึ๊?"
"อื้อ.."
​เขาทำหน้าเบ้..
"เอ็งใส่ผ้าอ้อมมาใช่ไหมวะ?"
"อื้อ.."
"ดีแล้ว​..งั้นทน​เอาหน่อย​..อีกไม่ไกลก็ถึงแล้ว​.."
"...​."
"อ้าว หลับ​ไปเสียแล้ว​"
+++++

ผมตื่นขึ้น​มาอีกครั้ง..​เพราะรำคาญตัวเองเต็มที
ฉี่นั้น​แฉะ​ไปนานแล้ว​..​ส่วนอึนี่สิ..เหนอะหนะเฉอะแฉะพิลึก
แล้ว​ท้องก็ร้องจ๊อก ๆ​ ด้วย​ความหิว..
ขัดใจขึ้น​มาเลย​แหกปากร้องซะเลย​..
"แง๊...​"
คง​จะค่อย​ไป ยังไม่มี​ใครมาสนใจผม..เลย​ร้องดังขึ้น​
"แง๊งงงงงงง"
ไม่​ได้ผลแฮะ..ไอ้โจรคนนั้น​มัน​ไปไหนซะล่ะนี่
เอ๊ะ..รถไม่​ได้วิ่งแล้ว​..ไม่​ได้ยินเสียงเครื่อง ไม่รู้สึกว่า​​กำลังเคลื่อน​ที่
ผมลืมตา..มองไม่เห็นอะไร​เลย​..มืดสนิท​ไปเสียทุกด้าน
รู้สึกว่า​ตัวเอง​กำลังนอนอยู่​บนฟูก นุ่ม..กลิ่นหอมแปลก ๆ​
มือไม้เปะปะ​ไปเจอขวดนม..หยิบขึ้น​มาก็รู้สึกหนัก ๆ​
ดีแฮะ..​เขาคงขับรถมาถึง​ที่หมาย..เห็นผมยังไม่ตื่นก็เลย​ปล่อยให้นอนต่อ ไม่ลืมทิ้งนมไว้ให้ด้วย
ว่าแล้ว​ก็​เอาใส่ปาก..ดูดจ๊วบ...​
ดูดนม​ไป​ได้สักพัก..เริ่มผิดสังเกตุ
​ใช้เท้าเขี่ย ๆ​ ดูรอบ ๆ​ ตัว..มีกำแพงกระดาษอยู่​​ทั้งสี่ด้าน
ปล่อยขวดนมหลุดจากปาก ยกมืดขึ้น​สูง​ไปตรงหน้า..น่าน..ว่าแล้ว​
มือผมสัมผัส​ได้ว่า​เป็นฝากล่อง
ดวงตาเริ่มปรับให้ชิน​กับ​ความมืด จึงพบอีกว่ากล่อง​แต่ละด้าน..ถูกเจาะรูไว้เล็ก ๆ​
นี่เห็นผม​เป็นลูกหมาลูกแมว​ไปแล้ว​หรือไงนะ?
อย่าง​ที่บอก..เดี๋ยวนี้ผมโตพอ​ที่​จะบังคับร่างกายตัวเอง​ได้ดีขึ้น​แล้ว​..
ผมพยายามตะแคงตัวเอง..มองลอดรูออก​ไปภายนอก..
ไม่เห็นอะไร​เลย​..
พลิกตัวอีกด้าน..มองอีกรู..
ใน​ความมืดนั้น​ยังพอเห็นอะไร​​ได้ลาง ๆ​ มัน​เป็นผนังตึกสูงจนมองไม่เห็นขอบ..แสงราง ๆ​ ​ที่มากระทบทำให้ผมพอ​จะดูออกว่ามันทำจากอิฐบล๊อค คล้าย ๆ​ โกดังเก็บของ​ที่ผมเคยคุ้นตามาจากชาติ​ที่แล้ว​..
ผมคว้าขวดนมมาใส่ปากอีกครั้ง..กองทัพ​ต้องเดินด้วยท้อง..ขณะ​ที่สมองขบคิดท้อง​ต้องไม่หิว
นี่​ถ้า​ได้ไก่ย่างหอม ๆ​ หรือเป็ดตุ๋นนุ่ม ๆ​ ​พร้อม​กับข้าวสวยร้อน ๆ​ ล่ะก้อ..สมอง​ต้องแล่นกว่านี้แน่
นมจืดๆ​ จากขวดนั้น​ไหลลงกระเพาะ..​เมื่อรู้สึกอิ่มสมองของผมก็สั่งการให้ผมทำอะไร​บางอย่าง
อย่างแรก ผม​ต้องรู้ให้​ได้ว่าตอนนี้ผมอยู่​​ที่ไหน?
อย่าง​ที่สอง เจ้าโจรคนนั้น​ล่ะ..​เขาจับผมใส่กล่องแล้ว​​ไปอยู่​เสีย​ที่ไหน?
​ถ้า​เขา​เอาผมมาทิ้งจริง ๆ​ ผม​จะมีหนทางไหน​ที่​จะช่วยเหลือตัวเอง​ได้บ้าง??
ในใจลึก ๆ​ ผมเองก็หวาด ๆ​ อยู่​เหมือนกันว่า..ชาติ​ที่แล้ว​มีอายุ​ได้ตั้งแยะ มาชาตินี้..​จะมีอายุ​ได้แค่ไม่กี่เดือนซะละมัง?
ดูเหตุการณ์​แต่ละอย่าง​ที่เกิดขึ้น​..​ทั้งโจรจับตัวในครั้งแรก..รอดมา​ได้ก็นับว่าบุญ
ครั้ง​ที่สองตอนดิ้นรน​จะกินเบียร์จนลืม​ไปว่าตัวเอง​เป็นเด็กทารกแท้ ๆ​ ทำให้หน้าคว่ำ​กับเบาะจนแทบ​จะขาดใจตาย
มาคราวนี้ก็โจรอีกแหล่ว..คราวนี้​เป็นโจรปล้นแบงก์..ท่าทาง​จะใจดีกว่าคนก่อนก็เหอะ..​แต่ไหง​เอาเรามาทิ้งในกล่องเหมือนหมาเหมือนแมว..ทิ้งนมไว้ให้แค่ขวดเดียว..​ถ้าหมดแล้ว​​และไม่มี​ใครมาเห็น..ผมมิอดตายล่ะหรือ?
ผ้าอ้งผ้าอ้อมก็ไม่ยอมเปลี่ยนให้..ปล่อยให้ผมขยะแขยงก้นอยู่​​ได้..
เฮ้อ..ผู้คนสมัยนี้..ทำไมถึงใจร้ายยยยยยจิงๆ​เยย
++++

ผมลุกขึ้น​นั่ง..หัวชนฝากล่อง​พอดี..
มันถูกขัดกัน​เอาไว้..แค่ออกแรงดันก็โป่งออก..พอ​จะ​เอาหัวรอดออก​ไป​ได้
ผมชะเง้อมองรอบด้าน..มืดจริง ๆ​ แฮะ..
แสงรางๆ​ ​ที่เห็น มันลอดออกมาจากช่องลมด้านบนของกำแพง..น่า​จะ​เป็นแสงจันทร์ซะมากกว่า
กล่อง​ที่ผมถูกจับใส่..วางอยู่​ชิด​กับกำแพงด้านหนึ่ง​ของโกดังเก็บของนั้น​..
(​เป็นกล่องเบียร์..ตราสิงห์ซะด้วย สมชื่อผมจริงจิ๊ง..)
รถคัน​ที่พาผมมา..จอดนิ่งสงบอยู่​อีกด้านหนึ่ง​..
ไม่มีสิ่งมีชีวิตอะไร​มาก​ไปกว่าผมตัวเดียว
เอ้ย..คนเดียว

ไม่ยากหรอก..การ​ที่ผม​จะพาร่างอันตุ้ยนุ้ยออกมาจากกล่อง
ก็แค่ออกแรงเล็กน้อย..ทิ้งน้ำหนัก​ไปด้านใดด้านหนึ่ง​..
กล่องเอียงกระเท่..​ต้องระวังก็ตรงนี้แหละ​
พอกล่องฟาดพื้นป้าบ..มือ​ต้องยันไว้ให้ดี ๆ​
มิฉะนั้น​ปากอาจ​จะขบ​กับพื้น..​แม้​จะไม่มีฟัน​ที่​จะทำให้ปากแตก..​แต่ก็คง​จะช้ำบวม​ได้
สองมือของผมเกร็งเต็ม​ที่..กล่องเริ่มเอียง..แล้ว​ก็พลิกปั้บ
สองมือยันพื้น...​สะเทือนนิดหน่อย​...​ค่อย ๆ​ คลานออกมา
น้ำลายไหลยืด..มาอยู่​​ที่คาง ย้อยลง​ไปตามคอ..ฉ่ำแฉะอยู่​​ที่อกเสื้อ
​ทั้ง​ที่ผมพยายามหุบปากแล้ว​นะนี่..
คลาน​ไป​ได้หน่อย​ ก็​ต้องคลานกลับ​ไป​ที่กล่อง
คิดขึ้น​มา​ได้ว่า..ทาง​ที่ดี ผมควร​จะปิดกล่องนั้น​ไว้ดีกว่า
หากเจ้าโจรกลับมา..​จะ​ได้เห็นว่ากล่องยังอยู่​เฉย ๆ​ ผมยังนอนเฉย ๆ​ อยู่​ในนั้น​ ​เขา​จะ​ได้ไม่ออกตามหา
ผม​จะ​ได้มีเวลาหนี​ได้ไกล ๆ​
​ส่วน​จะไกลแค่ไหน​เอาไว้ค่อยว่ากันทีหลัง


การปิดกล่องให้อยู่​ฝากล่อง​แต่ละด้านมาขัดกันนั้น​ ​แม้ตอน​เป็นผู้ใหญ่ ผมก็ยังปิดไม่ค่อย​จะ​ได้
เด็กตัวกะเปี๊ยกอย่างนี้..มีหรือ​จะทำสำเร็จ
ดี​ที่ผมฉลาด..บอกตัวเองว่า ก็คว่ำกล่องซะก็สิ้นเรื่อง​
​ใคร​จะรู้ว่าใต้กล่องนั้น​​เป็นฝา ​ส่วนบนกล่องนั้น​​เป็นก้น ​ถ้าไม่สังเกตตัวอักษร​ที่พิมพ์อยู่​บนกล่องว่ากลับหัวหรือเปล่า?
แค่นี้ก็เรียบร้อย​..


พื้น​ที่ผมคลานอยู่​นั้น​..​เป็นพื้นซีเมนต์ขัดมัน
ผมจึงคลาน​ได้ไม่ค่อย​จะเจ็บเข่า..เตาะแตะ​ไปเรื่อย..
พยายามชิด​กับขอบกำแพงเข้าไว้..เหนื่อยขึ้น​มา​จะ​ได้นั่งพิง
สถาน​ที่นี้​เป็นโกดัง​ที่ไม่น่า​จะใหญ่มาก..หากผมตัวโต ๆ​ เหมือนคนอื่น​เขา
​แต่สำหรับเด็กอย่างผม..มันใหญ่..ใหญ่มาก..คลานเท่าไรก็ไม่ถึงประตูซักที

ขณะนั่งพักหายใจน้ำลายไหลยืด..ประตูโกดังนั้น​ก็เปิดออก..
มีรถเก๋งคันหนึ่ง​แล่นเข้ามา..ไฟสว่างจ้าสาด​เป็นลำ
ผมลีบตัวชิดกำแพง..จ้องตาแป๋ว
แล้ว​ก็มีคนสามสี่คนลงมาจากรถ
หนึ่ง​ในนั้น​มีเจ้าโจรคนนั้น​ด้วย
ผมเห็น​เขามอง​ไป​ที่กล่อง..ด้วยสายตา​ที่เดาไม่ออก
แล้ว​ก็หันมาช่วยพรรคพวกลากอะไร​อย่างหนึ่ง​ออกมา
อะไร​อย่างหนึ่ง​​ที่ว่า..ถูกผูกตา..ผูกปาก
ผมยาว..
ร่างกายอ้อนแอ้น..
วาว..ผู้หญิง..!!
ผมอ้าปากค้าง..

++++++

มีการพูดจาอะไร​กันเบา ๆ​ ผมจับใจ​ความไม่ค่อยถนัด
"​เอา​ไปมัดไว้ในออฟฟิศ..รอเจ้านายมาก่อน.."
"หุ่นน่าฟัดจริง ๆ​ นะพี่"
"นั่นสิ..เสียดายเจ้านายกำชับมาหนักหนาว่าห้ามแตะ​ต้อง ไม่งั้นเสร็จพวกเราแน่ ๆ​"
"ทุกทีก็ไม่เคยเห็น​จะว่า"
"รายนี้ไม่​ได้โว้ย..นายบอก​จะทำให้งานใหญ่เสียหาย"
"งานไร?"
"เอ็งยังไม่​ต้องรู้..ทำตามคำสั่งให้ดีก็แล้ว​กัน" แล้ว​เจ้าคน​ที่พูด..ก็หัน​ไปทางเจ้าโจรปล้นธนาคารคนนั้น​
"เรื่อง​เงินเอ็งเรียบร้อย​ใช่ไหม?.."
​เขาพยักหน้า
"มีปัญหาอะไร​หรือเปล่า?."
"ไม่มีครับ​.." ก่อนตอบ​เขาอึกอักเล็กน้อย..หางตาชำเลืองแว่บ​ไป​ที่กล่อง
"ดีแล้ว​.."

นี่ขนาดจับใจ​ความไม่ค่อย​ได้นะนี่..ยังฟังออกตั้งแยะ
ผมเห็น​เขาลากตัวหญิงสาวหุ่นงาม..คนนั้น​..​ซึ่งออกอาการแข็งขืนดิ้นรนเต็ม​ที่ ​ไปยังออฟฟิศ​ที่ผมมองไม่เห็น​แต่แรกว่ามีอยู่​
คนหนึ่ง​เข้า​ไปล่วงหน้าแล้ว​เปิดไฟ..แสงไฟจากห้องกระจกนั้น​สาด​ไปทั่ว
จึ๊ยส์..จุด​ที่ผมนั่งอยู่​ ​พอดีแสงไฟส่องโดนเต็ม ๆ​
ผม​จะให้​ใครเห็นไม่​ได้..​เพราะอะไร​ผมก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน
รู้​แต่ว่างานนี้..ไม่ใช่แค่เรื่อง​ปล้น​ที่เห็นเท่านั้น​..
มัน​เป็นงานใหญ่กว่านั้น​..ใหญ่แค่ไหนเดี๋ยวก็รู้
ให้เจ้าพวกนั้น​ออก​ไปเสียก่อนเหอะ..ผม​จะเข้า​ไปถามหญิงสาวคนนั้น​ให้รู้เรื่อง​
หล่อน​เป็น​ใคร? ทำไมถึงโดนจับ..ทำไมถึงหุ่นสวยยังงี้..
รออีกหน่อย​เฮอะ..
อิ๊ ๆ​ ๆ​
++++++

ผมค่อย ๆ​ ย่อง ย่อง​ทั้ง​ที่คลานอยู่​นี่แหละ​
คุณ ๆ​ เคยเห็นเสือย่องไหมครับ​..ท่าทางผมก็คงเหมือนกัน
ก้มต่ำจนพุงเกือบถึงพื้น มือขวายื่น​ไปข้างหน้า​พร้อมเข่าซ้าย..ค่อย ๆ​ วางลง​เพื่อให้ไม่มีเสียง
จากนั้น​ก็สลับมือซ้าย​กับเข่าขวา..
ดู​ไปดูมาคล้ายลูกหมาลูกแมวจริง ๆ​ นะนั่น

โชคดี​ที่ไม่มีให้หันมาเห็น..ผมเคลื่อนตัวเอง​ไปจนถึงเงามืด ​ซึ่ง​เป็นเงาของรถโฟล์คลิฟท์คันหนึ่ง​
ผมซุ่มนิ่ง..ชะเง้อ​แต่หัว​ไปมองเหตุการณ์ในออฟฟิศนั้น​..
หญิงสาวถูกผูกไว้​กับเก้าอี้..ดวงตาของเธอวาวโรจน์ จ้องเขม็งราว​กับ​จะกินทุกคน​ที่จับเธอมา
มีการพูดอะไร​​ได้ยินแว่ว ๆ​ คราวนี้จับใจ​ความไม่​ได้จริง ๆ​
แล้ว​..เจ้าโจร​ทั้งหมดก็ปิดไฟ..เดินออกมา..ล๊อกประตู..ตรง​ไป​ที่รถ
ชายคน​ที่ปล้นธนาคาร..แยกตัวเองตรง​ไป​ที่กล่อง ๆ​ นั้น​..
ผมใจหายวาบ..
"เฮ่ย..​จะ​ไปไหน?..พวกเรา​ต้องรีบ​ไปแล้ว​..ยังมีอะไร​​ต้องทำอีกเยอะ"
​เขาชะงักกึก..หันรีหันขวาง
"เร็วสิโว้ย.."
นั่นแหละ​..​เขาถึงยอมเดินขึ้น​รถ​ไป​กับพรรคพวก
ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก..​ถ้า​เขารู้ว่าผมหายตัว​ไปแล้ว​..อะไร​​จะเกิดขึ้น​ก็ไม่รู้
​แต่ว่า..​เขาคง​เป็นห่วงผมอยู่​บ้างหรอก..ถึง​ได้มีทีท่า​จะ​ไปดูว่าผมตาย​ไปหรือยังอย่างงั้น..
หมอนี่​ถ้าโดนจับ ผม​จะเจรจา​กับตำรวจให้ลดโทษให้ซักปีสองปี
​ถ้าตำรวจฟังผมรู้เรื่อง​นะ

+++++

รถยนต์คันนั้น​แล่นออก​ไปแล้ว​
​ความมืดมิดกลับมาเหมือนเดิม
ผมขยับตัวออกจากมุมมืด​ที่มืดกว่านั่น..คลานต้วมเตี้ยม​ไปยังออฟฟิศ
ไกลจังแฮะ..เจ้าน้ำลายนี่ก็ไหลจัง
บางหยดไหลลงพื้น ผม​ใช้นิ้วแตะ ๆ​ อื้อฮือ..เหนียวดี..
พยายามหุบปาก..​แต่ริมฝีปากก็บังคับยากเหลือเกิน
มันคง​เป็นอาการปกติของเด็กทารก..​ที่​กำลังคันเหงือก
อาการคันเหงือก​เพราะฟันใกล้ขึ้น​ ​เป็นอาการ​ที่ผมอยาก​จะบอกว่า มันส์มาก
มันเจ็บ ๆ​ คัน ๆ​ เหมือนถูกมดกัดฝ่าเท้า..
เรายิ่งเกายิ่งมันส์..
​แต่สิ่ง​ที่ทำ​ได้..ผมก็​ได้​แต่ขบ ๆ​ งับ ๆ​ ให้เหงือกบนเหงือกล่างมาถูกกัน
มันส์จนน้ำลายไหล..
อะ..มาเข้าเรื่อง​ต่อ

ผมเลิกสนใจกองน้ำลายของตัวเอง..ก็ก้มหน้าก้มตาคลานต่อ​ไป
​เมื่อ​ไปถึง..ผมก็เพิ่งคิด​ได้ว่า..ผมไม่มีทางเข้า​ไปในออฟฟิศ​ได้
ถึงตัวผม​จะใหญ่กว่านี้..ผมก็ไม่มีกุญแจ​จะไข
แล้ว​นี่ผม​จะทำอย่างไร? ถึง​จะเข้า​ไปช่วยสาวน้อยคนนั้น​​ได้
ผมนั่งแปะอยู่​ตรงนั้น​..มองลอดกระจกเข้า​ไป..เห็นหล่อนนั่งหันซ้ายหันขวาอยู่​บนเก้าอี้
สองมือถูกมัดไขว้ยึดติด​กับพนักเก้าอี้ สองขาก็ถูกเชือกผูกไว้
อ้อ..​ที่เอวก็ผูกติดไว้ด้วย
นี่​ถ้าหล่อน​จะเคลื่อน​ที่ ก็​ต้องลุกเดิน​ไป​ทั้งเก้าอี้นั่นแหละ​..
ผมเห็นหล่อนพยายามอยู่​เหมือนกัน..​จะ​ใช้คำว่าอะไร​ดีนะ..
กระถดเก้าอี้..?..ก็​คือ..กระดื๊บตัวเองให้เขยิบมา​ที่ประตูให้​ได้
​แต่ทำแป๊บเดียวก็เหนื่อย..นั่งหอบแฮ่ก ๆ​
สมองของผมปั่นจี๋..พยายามคิดให้ออกว่า​จะเข้า​ไปช่วยหล่อน​ได้ยังไง
หันมอง​ไปรอบ ๆ​ ก็มี​แต่​ความมืด..ตัดสินใจส่งสัญญานให้หล่อนเห็นว่าผมอยู่​ตรงไหน ด้วยวิธีทุบกระจกดังแปะแปะ
คงเบา​ไป..ผมออกแรงตบกระจบอีกครั้ง
ปัง..
หล่อนหันขวับมา..ดวงตาทอแสงแตกตื่น
ผมยิ้มแต้..น้ำลายเยิ้ม
​ถ้ายักคิ้ว​ได้..คงทำ​ไปแร้ว..
แฮ่..
+++++

หลังจากหันซ้ายมองขวา..แล้ว​นั่งนิ่ง ๆ​ อยู่​สักครู่ ​เพื่อขบคิดหาทาง​ที่​จะเข้า​ไปข้างใน
ผมก็คิดอะไร​ออกบางอย่าง..
ผมจำ​ได้ว่า ประตูกระจกอย่างนี้..​แม้ข้างนอก​จะมีเฉพาะรูกุญแจ..​แต่ข้างใน​จะมี​ที่บิด..
​และตอนนี้ผมก็รู้อยู่​ว่า..หญิงสาวข้างในนั้น​..ยัง​สามารถ​จะกระถดเก้าอี้​ได้อยู่​บ้าง..
หากผมหาอะไร​สักอย่างหนึ่ง​..​เป็นเส้นบาง ๆ​ สอดเข้า​ไปตรงช่องว่างข้างใต้ของประตู...​แล้ว​ให้หล่อน..​เอา​ไปผูกไว้​กับ​ที่บิดนั้น​..แล้ว​ผมออกแรงดึง..​ที่บิดนั้น​ก็​จะดังแกร๊ก..ประตูก็​จะเปิดออกดังผลั่วะ
วาว..​เป็น​ความคิด​ที่เยี่ยมยอดมาก..
ผมสูดน้ำลาย..เริ่มคลานเตาะแตะหาเส้นบาง ๆ​ ​ที่ว่านั้น​
แหะ..ไอ้เส้นบาง ๆ​ เนี่ย..มัน​จะ​ต้อง​เป็นเชือกเส้นเล็ก ๆ​ ..หรือเศษผ้าบาง ๆ​ ​และยาว ๆ​ เท่านั้น​นี่นา..แล้ว​​จะหาจากไหนกันล่ะ?
​ใครมัน​จะมาทิ้งไว้ให้..
คิด​ได้ดังนั้น​ผมก็หยุดคลาน ทิ้งก้นลงนั่งต่อ..
ขมวดคิ้วนิ่วหน้า..น้ำลายไหล..นิ้วชี้​ที่วางไว้ตรงหัวเข่ากระดิก​เป็นจังหวะเล็กน้อย..
ทุกปัญหามีทางแก้ ทุกทางตันมีทางออก
คติสอนใจผมมาตั้งแต่ชาติ​ที่แล้ว​นะนี่..
อือ..ทำไงดีนะ..??

​และแล้ว​..อีก​ความคิดหนึ่ง​ก็วูบขึ้น​ในสมอง..
ผมเริ่มคลานต่อ​ไป คราวนี้ย้อนกลับ​ไป​ที่รถโฟล์คลิฟท์คันนั้น​
รถชนิดนี้ ​เป็นรถ​ที่​เอาไว้ยกของ..ข้างหน้ารถ​จะมีงาสองข้างยื่นออกมา..เวลา​จะยกอะไร​ก็ทิ่มงาเข้า​ไป​ที่ใต้ของนั้น​แล้ว​ช้อนมันขึ้น​..
​เป็นรถ​ที่เห็น​ได้​โดยทั่ว​ไปในโกดังเก็บของต่าง ๆ​
​ที่สำคัญ รถชนิดนี้..ผู้​ใช้มัก​จะไม่สนใจเก็บกุญแจ..​ส่วนใหญ่​จะคาทิ้งไว้อย่างงั้น
​ถ้า​เป็นอย่างนั้น​จริง ก็เสร็จผม
ก็ผมขับมานักต่อนัก..​เมื่อชาติ​ที่แล้ว​ไง้

ผมปีนขึ้น​รถ มันสูงอยู่​เหมือนกัน..​แต่ก็ยังพอไหว
​แต่กว่า​จะขึ้น​​ไปนั่งบนเบาะ​ได้..เล่น​เอาแทบหมดแรง..
คุณ ๆ​ อย่าหาว่า​เป็นเรื่อง​โกหกเลย​ ​ที่เด็กตัวเท่ากำปั้นอย่างผม..​จะ​สามารถทำอะไร​พวกนี้​ได้
ถึง​แม้ร่างกายของผม​จะ​เป็นเด็ก มือไม้แข้งขาบังคับไม่ค่อย​ได้เท่าไร..เรี่ยวแรงก็ไม่ค่อย​จะมี..​แต่​ความรู้สึกนึกคิดของผม​เป็นผู้ใหญ่..
ผมรู้ดีว่า​จะวางเท้าตรงไหน..​จะออกแรงอย่างไร..​จะ​ใช้อะไร​ช่วย​ได้บ้าง..
แค่นี้..คุณ ๆ​ อาจ​จะไม่อยากเชื่อเลย​ว่า..เด็กขนาดนี้ยังทำอะไร​​ได้อีกตั้งหลายอย่าง..
​ที่เด็กคนอื่น ๆ​ ทำไม่​ได้..ก็​เพราะ​เขายังไม่มีประสบการณ์ ยังไม่มี​ความคิดเท่านั้น​เอง
เอ้า..จริง ๆ​ นะฮะ..
ไม่เชื่อลองกลับ​ไป​เป็นเด็กดูสิเอ้า..

กุญแจอยู่​ตรง​ที่​ที่มันควรอยู่​จริง ๆ​
ผมยื่นมืออ้วนป้อม..ควั่น​เป็นข้อราวมือตุ๊กตานั้น​..​ไปจับมันไว้แล้ว​ออกแรงบิด
อุอุ..มันไม่ขยับสักนิด..
ไม่ยาก ๆ​ เรื่อง​อย่างนี้เล่นไม่ยาก
ผม​ใช้ตะปูขนาดยาวประมาณ 4 นิ้ว ​ซึ่งบังเอิญวางอยู่​แถวนั้น​..ทิ่มเข้า​ไปในรูของลูกกุญแจ..ปล่อยให้หางของมันยาวออกมาจนผมกำ​ได้เต็มมือ
แล้ว​ออกแรงกด..
​ได้ผล..เครื่องติดทันที..
ปัญหา​ที่ตามมา..คันเร่งอยู่​ข้างล่าง..ขาของผมเหยียบไม่ถึง
ไม่​เป็นไร ๆ​ เล่นไม่ยาก ๆ​
ไม่เห็นจำ​เป็น​ต้องเร่ง​ความเร็ว แค่ใส่เกียร์ รถพวกนี้ไม่มีคลัทช์อยู่​แล้ว​..รับรองไม่ดับ ​แม้​จะไม่​ได้เร่งเครื่อง
มันก็​พร้อม​จะคลานตะม่อย ๆ​ ​ไปไหนต่อไหนให้เรา​ได้อยู่​แล้ว​
ผมโยกคันเกียร์...​ มือเดียวแรงไม่พอ ก็​ใช้สองมือ
สองมือยังไม่ขยับ ผมก็​ต้อง​ใช้ขาช่วย..
​ทั้งดัน​ทั้งถีบ..ออกแรงให้หน้าแดงหน่อย​เดียว..เกียร์ก็เคลื่อน​ไปยังตำแหน่ง​ที่​ต้องการ
รถจอดนิ่งอยู่​แป๊บเดียว..แรงหน่วงของเครื่องก็สั่งให้มันขยับ​ไปข้างหน้าช้า ๆ​
พวงมาลัยก็ไม่หนัก..​เมื่อล้อหมุนมันก็เบาพอ​ที่​จะบังคับ​ได้..
บอกแล้ว​..เรื่อง​แค่นี้น่ะเสร็จผม

รถ​ทั้งคันวิ่งอย่างไม่มีเบรคตรงแน่วเข้าหาออฟฟิศนั้น​อย่างว่างาย
ผมฉลาดพอ​ที่​จะไม่​เอาตัวเอง​ไปเสี่ยง​กับกระจก​ที่​จะ​ต้องแตกกระเด็นมาโดนแน่ ๆ​ หากยังนั่งเฉย..
รูดตัวเองจากเบาะนั่ง​ไปกองอยู่​ข้างล่าง
รู้สึกมันเขี้ยวขึ้น​มาเห็นรถมันวิ่งช้านักก็เลย​​ใช้มือกดคันเร่งให้​ความเร็วเพิ่มขึ้น​
แป๊บบบบบบบบเดียว..
โครม!! เพล้ง!!
+++++


เดชะบุญ..หญิงสาวไม่​ได้รับอันตรายอะไร​
หล่อนยังทำตาแตกตื่น ลืมตาโพลงมองผมคลานออกจากรถอยู่​อย่างนั้น​..
กระจกเกลื่อน​ไปหมด​ทั้งห้อง..รถขึ้น​มาจอดแน่นิ่ง​เพราะติดโต๊ะทำงาน​ที่ถอยร่นจน​ไปค้ำ​กับผนังด้านหลัง​พอดี
ไอ้ผมก็เสียวเศษกระจกมัน​จะทิ่มแทง​เอา..บังเอิ้นบนรถมีรองเท้าแตะของคนงานทิ้งอยู่​คู่หนึ่ง​
ผมก็เลย​​เอามาใส่มือ..เวลา​จะเคลื่อน​ที่ก็​ใช้มันกวาด ๆ​ พื้นตรงหน้าให้เศษกระจกหมด​ไปเสียก่อน
กว่า​จะคลานถึง​ที่​ที่เจ้าหล่อนถูกมัดอยู่​..ผมก็ง่วงนอนเต็ม​ที่
ร่างกาย​ที่​เป็นเด็ก..เรียกร้องการนอนมากมาย​อยู่​แล้ว​..ยิ่งผมมาออก​กำลัง​เป็นเวลานานขนาดนี้..ยิ่งไม่ไหว
ผมส่งเสียงทักเธอ​ได้คำเดียว..
"อื้อ.."
แล้ว​ก็หลับผลอย..

++++

มารู้สึกตัวอีกครั้ง..เวลาคงผ่าน​ไปไม่นานเท่าไรนับจาก​ที่ผมหลับ​ไป
เธอ..หญิงสาวคนนั้น​..อุ้มผมขึ้น​พาดบ่า..
ผมไม่รู้ว่าเธอแก้มัดตัวเองอย่างไร..​ใครช่วยเธอ?
รู้​แต่ว่าบ่าของเธอนิ้มนิ่ม กลิ่นของเธอฮ้อมหอม..
ผมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ขณะเธอพาผมฝ่ายามออกมานอกโกดัง
ไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวรูปร่างดี..​เป็นนางแบบ​ได้สบายคนนี้..​จะคล่องแคล่วขนาดนี้
ยามคนหนึ่ง​ร้องจ๊ากเข้ามา ในมือถือตะบองดำมะ​เมื่อมเงื้อง่ามาด้วย
มันฟาดใส่เธอเต็มแรง เธอหลบแผลว..กระบองฟาดอากาศดังวืด..
แล้ว​เธอก็เหวี่ยงเท้าข้างหนึ่ง​..ซัดป้าบเข้าให้​ที่กลางลำตัวเจ้าหมอนั่น
มันตัวงอ​เป็นกุ้ง..มือ​ที่ว่างอีกข้างหนึ่ง​ของเธอก็ฟันฉับลง​ไป​ที่ก้านคอ..รวดเร็วราวหนังการ์ตูน
มันทรุดโครมแน่นิ่งลงบนพื้นทันที
อีกคนหนึ่ง​ชักปืน..เธอเหวี่ยงเท้าอีกแล้ว​..
เสียงปืนลั่นปัง..ในจังหวะ​ที่เธอเตะปืนกระบอกนั้น​กระเด็น​ไปจากมือของมัน..
ลำตัวหมุนจี๋..จนผมดูเหตุการณ์ไม่ถนัด..​ได้ยินเสียงดังทึบ ๆ​ แล้ว​ก็เห็นเจ้าหมอนั่นทรุดลง​ไปอีกคน
ตายังลายอยู่​แท้ ๆ​ ..เธอก็พาผมวิ่งอ้าว
ผมสะเทือนจนหัวสั่นตามจังหวะการวางเท้าของเธอ..เส้นผม​ที่ปลิวอยู่​แถวซอกคอของเธอ..ปลิวมากระทบหน้าของผมจน​ได้กลิ่นหอมเย็น
เอ..ยาสระผมยี่ห้อนี้..​ใช้กันเยอะจริงแฮะ
​และดูเหมือนว่าผม​จะส่งเสียงเอิ๊กอ๊ากดังเกิน​ไป..เธอหันมามองหน้าผม..
ผมก็เห็นเธออย่างเต็มตา..
​เป็นการเห็น​ที่ทำให้หัวใจของผมแทบหยุดเต้น
อุทานออกมาอย่างเต็มเสียง
"แอ้...​."
...​...​

 

F a c t   C a r d
Article ID A-1054 Article's Rate 5 votes
ชื่อเรื่อง หนูสิงห์..ภาค 2/4
ผู้แต่ง รันนรา
ตีพิมพ์เมื่อ ๐๓ กรกฏาคม ๒๕๔๘
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องยาว ซีรีส์
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๖๒๖ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๔ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๒๓
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : ศาลานกน้อย [C-5256 ], [000.000.000.000]
เมื่อวันที่ : 03 ก.ค. 2548, 20.27 น.

ผู้อ่าน​ที่รัก,

นิตยสารรายสะดวก​ ​และผู้เขียนยินดีรับฟัง​ความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดง​ความเห็น​ได้​โดยอิสระ ขอขอบคุณ​และรู้สึก​เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมี​ส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : Poceille [C-5278 ], [161.200.255.162]
เมื่อวันที่ : 08 ก.ค. 2548, 23.33 น.

แอ๊...​. ​ใครอ่า?


โห...​ บทนี้เวอร์สะใจจริง ๆ​ เลย​ฮับนู๋สิงห์ เชื่อแล้ว​ว่า​เป็นร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมาจริง ๆ​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๓ : mrpc999 [C-5282 ], [62.252.192.14]
เมื่อวันที่ : 09 ก.ค. 2548, 12.05 น.

สนุกดีครับ​ ​กำลังรออ่านตอนต่อ​ไป

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๔ : blackapple [C-7497 ], [203.153.137.152]
เมื่อวันที่ : 30 เม.ย. 2549, 20.32 น.

​กำลังสนุกเลย​ แวะมาทักทายก่อน

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น